เวลาพูดถึงคำว่าเค้กขึ้นมา หลายคนน่าจะนึกถึง “เค้กช็อกโกแลต” เพราะมันเป็นเค้กที่โดดเด่นด้วยความหอมหวานของครีมช็อกโกแลต และความนุ่มนวลของเนื้อเค้กในทุกสัมผัส จึงเป็นของหวานที่ทำให้เรากลายเป็น Cake Lover ได้ไม่ยาก แต่ใครจะไปรู้ว่าเค้กที่มีอายุมานานกว่า 300 ปีจะมีหลายประเภทจนน่าตกใจ !! เนื่องในวันที่ 27 มกราคมของทุกปีเป็นวันเค้กช็อกโกแลต (Chocolate Cake Day) เราเลยอยากมาแนะนำ 10 ประเภทช็อกโกแลตที่สายหวานทุกคนควรรู้จัก
Sachertorte (ซาเคอร์ทอร์ต)
![](https://www.sotraveler.com/wp-content/uploads/2022/01/Type-of-Chocolate-Cake-6-700x467.png)
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1832 ที่กรุงเวียนนา เจ้าชาย Metternich รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของออสเตรียได้สั่งให้ครัวหลวงทำเมนูของหวานสุดพิเศษสำหรับมื้ออาหารเย็น แต่ทว่าพ่อครัวใหญ่ที่รับผิดชอบงานนี้กลับล้มป่วยลง จึงเป็นหน้าที่ Franz Sacher (ฟรานซ์ ซาเคอร์) เด็กฝึกงานวัย 16 ปี ที่ต้องรังสรรค์เมนูนี้แทน นับเป็นความโชคดีที่ทำให้พ่อครัวหนุ่มมีโอกาสได้โชว์ฝีมือสร้างสุดยอดเค้กช็อกโกแลตที่ถูกยกย่องว่าเหนือกว่าเค้กช็อกโกแลตทั้งปวงขึ้นมา
เค้กของพ่อครัวหนุ่มมีชื่อว่า Sachertorte (เค้กของซาเคอร์) มันเป็นเค้กช็อกโกแลตที่ประกอบไปด้วย ชั้นของสปอนจ์เค้กเนื้อนุ่มรสชาติไม่หวาน แยมแอมปริคอตรสเด็ด และผิวหน้าของเค้กจะถูกเคลือบด้วยดาร์คช็อกโกแลตไอซิ่ง เค้กก้อนนี้มีชื่อเสียงข้ามยุคสมัย และตระกูล Sacher ได้ปกป้องสูตรของเค้กไว้อย่างดี เราจึงหากิน Sachertorte สูตรต้นตำรับได้เฉพาะที่โรงแรมตะกูลซาเคอร์ (Hotel Sacher) ที่ตั้งอยู่ในกรุงเวียนนา
Joffre cake (เค้กฌ็อฟร์)
![](https://www.sotraveler.com/wp-content/uploads/2022/01/Type-of-Chocolate-Cake-5-467x700.png)
ต่อมา คือ Joffre เค้กช็อกโกแลตที่ถือกำเนิดขึ้นใน Casa Capșa ร้านอาหารเก่าแก่ในกรุงบุฮาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย โดยมันเป็นของหวานที่ถูกทำขึ้นเพื่อต้อนรับการมาเยือนของ Joseph Joffre (โฌแซ็ฟ ฌ็อฟร์) จอมพลของฝรั่งเศสที่มีชีวิตอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เค้กก้อนนี้จะมีส่วนประกอบของช็อกโกแลตบัตเตอร์มิลค์ที่อัดแน่นไปด้วยช็อกโกแลตกานาซและถูกเคลือบด้วยช็อกโกแลตบัตเตอร์ครีม ทำให้ได้ความเต็มอิ่มของรสชาติของโกโก้แท้ 100%
Black Forest cake (เค้กแบล็คฟอเรสต์)
![](https://www.sotraveler.com/wp-content/uploads/2022/01/Type-of-Chocolate-Cake-4-458x700.png)
ของหวานที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง Black Forest ถือเป็นเค้กช็อกโกแลตจากเยอรมันที่มีที่มาไม่ชัดเจน บางคนบอกว่ามีมาตั้งศตวรรษที่ 16 ในขณะที่บางคนบอกว่ามันถูกคิดค้นโดยคนทำขนมชื่อว่า Josef Keller (1887–1981) แต่บ้านเกิดของมันคือประเทศเยอรมันแน่นอน คาดว่าชื่อของมันมาจากลักษณะของเค้กคล้ายกับเครื่องแต่งกายของผู้หญิงที่อยู่ใน Black forest ของเยอรมัน โดยพวกเธอจะใส่เสื้อผ้าสีขาวดำและหมวกสีแดง โทนเดียวกับเค้กที่มีสีดำของเนื้อเค้กช็อกโกแลตสีขาวของครีมสด และสีดำหรือแดงของผลเชอร์รี่ เค้กก้อนนี้ยังมีความหอมหวานอันเป็นเอกลัษณ์ที่เกิดจาก Kirschwasser หรือ บรั่นดีที่กลั่นมาจากเชอร์รี่หวาน ช่วยให้เค้กมีรสชาติพิเศษมากขึ้น
Ding Dong cake (ดิงดอง)
![](https://www.sotraveler.com/wp-content/uploads/2022/01/Type-of-Chocolate-Cake-9-467x700.png)
เราอาจไม่คุ้นหูเค้กก้อนนี้กันเท่าไหร่ Ding Dong คือ เค้กช็อกโกแลตของ Hostess Brands ผู้ผลิตขนมชื่อดังจากอเมริกา มันจะเป็นเค้กช็อกโกแลตชิ้นเล็กสอดไส้ครีมที่ถูกเคลือบด้วยช็อกโกแลคอีกชั้นหนึ่ง Ding Dong ถูกผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศอเมริกามาตั้งแต่ปี 1967 จนถึงปัจจุบัน พร้อมจุดเด่นเรื่องขนาดที่กระทัดพอ ๆ กับลูกพัคที่ใช้ในกีฬาฮอกกี้ (hockey puck) สามารถทานหมดได้ภายใน 2 – 3 คำ
Devil’s food cake (เค้กอาหารของปีศาจ)
![](https://www.sotraveler.com/wp-content/uploads/2022/01/Type-of-Chocolate-Cake-2-476x700.png)
Devil’s food cake ถือกำเนิดขึ้นในอเมริกาใต้ช่วงศตวรรษที่ 20 มัน คือ เค้กช็อกโกแลตที่อุดมไปด้วยรสชาติของโกโก้ ทั้งส่วนผสมหลักที่เป็นผงโกโก้ และผิวหน้าอของเค้กที่ถูกเคลือบด้วยครีมรสช็อกโกแลตรสหวาน เค้กก้อนนี้เป็นคู่ตรงข้ามของ เค้กอาหารของนางฟ้า (Angel’s Food Cake) เค้กสปันจ์ที่ทำจากไข้ขาว แป้ง เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ถูกใจ Chocolate Lover อย่างแน่นอน
Garash cake (เค้กกาแรช)
![](https://www.sotraveler.com/wp-content/uploads/2022/01/Type-of-Chocolate-Cake-8-500x700.png)
ในประเทศบัลแกเรีย มีเมนูของหวานที่อายุเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปีแล้วชื่อว่า Garash cake เค้กช็อกโกแลตที่เกิดจากการซ้อนกันของแผ่นแป้งเค้กกลมขนาด 2 mm จำนวน 5 แผ่น ซึ่งแผ่นแป้งแต่ละแผ่นทำมาจากส่วนผสมของเมล็ดวอลนัท ไข่ขาว และน้ำตาล และแต่ละชั้นถูกคั่นด้วยกานาช เราสามารถหาเมนูนี้ได้ทั่วไปในร้านอาหารและร้านขนมสไตล์บัลแกเรีย
German chocolate cake (เค้กช็อกโกแลตเยอรมัน)
![](https://www.sotraveler.com/wp-content/uploads/2022/01/Type-of-Chocolate-Cake-10-467x700.png)
แม้จะชื่อว่าเค้กเยอรมัน แต่จริง ๆ แล้วเค้กก้อนนี้เกิดขึ้นในอเมริกา โดยนักทำขนมชื่อว่า Samuel German โดยลักษณะเด่นของเค้กก้อนนี้ คือ เป็นเค้กช็อกโกแลตที่มีลักษณะเป็นชั้นและมาพร้อมกับไส้และท้อปปิ้งที่ทำจากไข่ขาวและนมเคลือบด้วยฟรอสซิ่งช็อกโกแลตที่ด้านข้าง และฟอร์สซิ่งมะพร้าวพีแคนที่ด้านบน ออกมาเป็นเค้กที่มีรสชาติหวานของช็อกโกแลต ถั่ว และมะพร้าว
Molten chocolate cake (เค้กช็อกโกแลตโมเท้น)
![](https://www.sotraveler.com/wp-content/uploads/2022/01/Type-of-Chocolate-Cake-7-560x700.png)
นับเป็นเค้กช็อกโกแลตยอดฮิตสำหรับ Molten chocolate cake หรือ ที่เรารู้จักกันในชื่อเค้กลาวา ว่ากันว่ามันถูกคิดค้นโดยเชฟชาวฝรั่งเศส Michel Bras ในปี 1981 แต่ก็มีคนอื่นที่เคลมว่าเป็นผู้คิดค้นของหวานชนิดนี้เหมือนกัน Molten chocolate cake จะเป็นการผสมเค้กช็อกโกแลตและซูเฟล่เข้าด้วยกัน เวลารับประทานเราจะรู้สึกฟินแบบ 2 ต่อ คือ ฟินกับความหวานนุ่มของเค้ก ก่อนจะไปฟินกับซอสลาวาที่ล้นออกมาสร้างความหวานให้ปาก
Red velvet (เค้กเรดเวลเวท)
![](https://www.sotraveler.com/wp-content/uploads/2022/01/Type-of-Chocolate-Cake-3-700x624.png)
เวลาไปร้านขนมหวานเราจะเห็นเค้กก้อนนี้เสมอ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่ามันคือเค้กช็อกโกแลต ชื่อของมัน คือ Red Velvet เค้กสีแดงที่กำเนิดในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ที่ Maryland โดยเค้กก้อนนี้จะประกอบไปด้วย นมเนย โกโก้ และแป้ง ส่วนสีแดงของเค้กจะมาจาก บีตรูต หรือ สีผสมอาหาร
Chocolate Fudge cake (เค้กช็อกโกแลตฟัดจ์)
![](https://www.sotraveler.com/wp-content/uploads/2022/01/Type-of-Chocolate-Cake-1-467x700.png)
เค้กฟัดจ์ คือ เค้กช็อกโกแลตที่มีแหล่งกำเนิดอยู่ที่อเมริกาใต้ โดยตัวเค้กจะเป็นเค้กชั้นเดียวที่มีการสอดไส้ “ฟัดจ์” ดูภายนอกคล้ากัยกับบราวนี่ แต่จะมีช็อกโกแลตมากกว่า ความอร่อยของเค้กก้อนนี้ คือ มันเป็นเค้กหน้านิ่มที่ทุกคนสามารถทานได้ง่าย พร้อมฟินไปกับความนุ่มของตัวเค้ก
นี่ก็เป็น 10 ประเภทของเค้กช็อกโกแลตที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน อ่านถึงตรงนี้ เราก็หวังว่าทุกคนจะสนุกไปกับการกินหรือการทำเมนูเค้กช็อกโกแลต