อมฤต (Amaris) มีความหมายถึง ความเป็นอมตะ ซึ่งนั่นอาจแปลว่า การที่เราได้มาเยือนบาร์เปิดใหม่ย่านเอกมัยในคราวนี้ อาจทำให้เรากลายเป็นอมตะก็เป็นได้ ทาง SOtraveler เลยอยากพา #สายดื่ม มาร่วมเปิดประสบการณ์ครั้งใหม่ไปพร้อมกัน ณ อมฤต •อะ•มะ•ริด• (Amaris Cocktail Bar) ที่ตั้งอยู่ในแหล่งกิน – ดื่มใจกลางกรุงอย่างซอยเอกมัย 12 ที่รวบรวมเครื่องดื่มในสไตล์เอเชียนไว้ในที่เดียว
จากผู้นำเข้า Hitachino Beer จากประเทศญี่ปุ่น ไปจนถึงเจ้าของแบรนด์สุราดีกรีรางวัลระดับโลก International Wine and Spirit Competition (LWSC) ปี 2022 อย่าง “ซอดแจ้ง” ที่มีโรงกลั่นเป็นของตนเองอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุด คุณปอม – รุ่งอนันต์ ชววิวัฒนชัย เจ้าของผู้ริเริ่ม “อมฤต” บาร์สไตล์ Oriental – Asian Culture Bar ขนาดไม่ใหญ่แต่อัดแน่นไปด้วยบรรยากาศแบบเป็นกันเอง พร้อมการตกแต่งสไตล์วินเทจ เพื่อในเข้ากับความคลาสสิกของตัวบ้านที่เก่าแก่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบาร์แห่งนี้ เพิ่มความสนุกสนานด้วยการเล่นแสงสีของไฟ ให้ดูสวยงามเสมือนหลุดไปอยู่ที่ไหนสักแห่งเพื่อลืมเรื่องราวภายนอกสักพัก จึงเหมาะจะเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนเป็นอย่างมาก
เรื่องคอนเซ็ปต์ของเมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ นอกจากคุณปอม ที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงเครื่องดื่มมาอย่างยาวนานแล้ว ยังได้ คุณเต่า – นิธิกร ธนทวีคูณ ที่ครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสได้เป็นถึงผู้ดูแลเครื่องดื่มส่วนพระองค์ของเจ้าชายแห่งโมร็อกโก มารับตำแหน่งเป็น Bar Manager เพื่อเสริมทัพและร่วมเนรมิต “น้ำอมฤต” ที่เน้นใช้ส่วนผสมในภูมิภาคมารังสรรค์ จนกลายเป็นหลากหลายเมนูที่มีกลิ่นอายจากประเทศในแถบเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม และขาดไม่ได้กับประเทศไทย ซึ่งทุกเมนูที่ถ่ายทอดออกมา มุ่งเน้นการเข้าถึงแก่นแท้ของแต่ละเมือง ไม่ว่าจะเป็นแหล่งวัตถุดิบ อาหาร และวัฒนธรรม ผ่านการนำเสนอ รสชาติ และเรื่องราว ที่ทำให้ผู้ดื่มอย่างเราได้ตื่นเต้นและเข้าถึงเครื่องดื่มนั้น ๆ ได้อย่างแท้จริง
เริ่มต้นเปิดประสบการณ์แห่งความอมตะครั้งนี้ด้วย Signature Menu สัญชาติไทยของเราอย่างเมนู Don Mot Daeng (ดอนมดแดง) ที่มีชื่อมาจากอำเภอหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นแหล่งเกษตรกรรม เพื่อสื่อถึงส่วนผสมต่าง ๆ ที่นำมารังสรรค์เมนูที่น่าสนใจนี้ ไม่ว่าจะเป็น พริก ตะไคร้ ขิง ก่อนนำมาอินฟิวส์กับรัมท้องถิ่นของจังหวัดอย่าง “ซอดแจ้ง” และเพิ่มความเป็นไทยด้วยการนำเสนอในชะลอมสานขนาดพอดี เสิร์ฟพร้อมหมูฝอยที่ค่อนข้างแปลกใหม่ ด้านรสชาติต้องยกให้เป็นการเปิดรสสัมผัสที่น่าสนใจ ด้วยกลิ่นหอมของสมุนไพรอย่างชัดเจน ผสานความเผ็ดร้อนเล็กน้อย ทานคู่กับหมูฝอยเข้ากันได้อย่างลงตัว
ต่อด้วยเมนูจากดินแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง Kumamoto (熊本市) เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องส้ม จึงเป็นที่มาของการนำวิสกี้ญี่ปุ่น มาผสมกับเนื้อส้มยูสุ ที่ให้รสชาติเปรี้ยวหวาน เสิร์ฟมาพร้อมกับเกาลัด ที่เข้ากันกับเครื่องดื่มได้อย่างน่าแปลกใจ เป็นอีกเมนูที่ให้ความสดชื่นได้ไม่เบา
ข้ามมาที่ฝั่งเกาหลีกันบ้างกับเมนู Jeollabuk-do (전라북도) เมืองต้นกำเนิดของเทศกาลโคชูจัง (Gochujang) ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนผสมของเมนูนี้ ที่ทำให้เราค่อนข้างเซอร์ไพรส์เลยทีเดียว ด้วยการนำโซจูมาผสมผสานกับวอดก้าและโคชูจัง เติมความสดชื่นด้วยโยเกิร์ต จิบพร้อมทานคู่กับหัวไขเท้าดองน้ำผึ้ง ให้ความรู้สึกเหมือนทานอาหารเกาหลีได้อย่างไม่เกินจริง เป็นเมนูที่ค่อนข้างประทับใจจนทำให้หวนนึกถึงอยู่บ่อย ๆ เลย
ที่ “อมฤต” ไม่ได้มีเพียงแค่ 13 Signature Menu จาก 5 สัญชาติเพียงเท่านั้น ยังมี Classic Cocktail ที่ทำได้ดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น Old Fashioned เอาใจสายเข้มด้วยการพาย้อนสู่ความดั่งเดิม กับเครื่องดื่มที่ไม่ผ่านการปรุงมากนักเพื่อคงความคลาสสิกของรสชาติที่แท้จริง แถมเข้ากันได้ดีกับข้าวโพดเบิร์นพร้อมเนย ที่อร่อยมากจนอยากขอเพิ่มเลย ขาดไม่ได้กับ Lychee Martini ที่เพิ่มความน่าสนใจด้วยลิ้นจี่ที่เพิ่มความสดชื่นให้เมนูนี่ได้ไม่น้อย หรือจะเป็น Daiquiri เครื่องดื่มผสมผลไม้ดื่มง่าย แบบสบาย ๆ ถือเป็นการปิดท้ายการดื่มในค่ำคืนนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว
แม้ว่าการเป็น “อมตะ” อาจจะเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่การได้มาเยือน “อมฤต” ในคราวนี้ ทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นอมตะทางความรู้สึก จากการได้ดื่มน้ำอมฤตที่ล้วนตั้งใจรังสรรค์มาเป็นอย่างดี จนต้องขอยกให้เป็นอีกหนึ่ง Cocktail Bar ที่ไม่ควรพลาด และแน่นอนว่าเราจะต้องกลับมาเยือนอีกแน่นอน
Amaris Cocktail Bar
- Location: ซอยเอกมัย 12 (ชั้นล่างเป็นร้านอาหาร รฤก) จอดรถได้ประมาณ 10 คัน
- Opening Hours: ร้านเปิดทุกวัน 17.00 น. – 01.00 น. (ทุกวันพฤหัสบดี – เสาร์ มีดีเจตั้งแต่เวลา 21.00 น. – 22.00 น.)
- Reservations: 084-538-4761
- Social Media: Instagram @amaris.bar