หากท่านใดที่กำลังมองหาโรงแรมในกรุงเทพสักแห่งหนึ่ง ที่ท่านจะได้รับความประทับใจจากวิวทิวทัศน์อันสวยงาม และคุณภาพจากการบริการต่างๆ ที่เหมาะสมกับราคา เราขอแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับ Avani Atrium Bangkok
สำหรับโรงแรม Avani Atrium นั้นจัดอยู่ในระดับโรงแรม 4 ดาวแบบ Upscale โดยเป็นการให้บริการห้องพักที่สะดวกสบาย ในราคาที่ไม่สูงมากซึ่ง Avani Atrium เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ถูกบริหารร่วมกับ โรงแรมอนันตราหนึ่งในโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว
โรงแรม Avani Atrium ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย ทางโรงแรมยังมีบริการรถรับส่งฟรีระหว่างสถานีรถไฟฟ้ามักกะสัน ตลอดทุกชั่วโมง ซึ่งจะช่วยทำให้การเดินทางไปสถานที่ต่างๆสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของหน้าล็อบบี้ตกแต่งพื้นด้วยหินอ่อนและไม้ทำให้ความรู้สึกอบอุ่น และให้อารมณ์โรงแรมแนว continental ทั้งการเลือกใช้แสงไฟในโทนสีเหลือง เฟอร์นิเจอร์ และ ของตกแต่งต่างๆ
เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป Avani Atrium มีห้องพักให้เลือกถึง 8 แบบ รวมทั้งหมด 542 โดยห้อง Avani Grand Executive Suite ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดนั้น มีความกว้างมากถึง 129 ตารางเมตร
ทีมงานได้มีโอกาสมาสัมผัสประสบการณ์การผักผ่อนที่ Avani Executive Room ชั้น 23 ซึ่งมีความกว้าง 30 ตารางเมตร สามารถชมบรรยากาศของกรุงเทพมหานครจากหน้าต่างของห้องพักได้
การพักห้อง Executive นั้นจะมาพร้อมกับ Executive Previledge นั่นก็คือสิทธิพิเศษในการใช้บริการต่างๆภายในโรงแรม ไม่ว่าจะเป็น Executive lounge ซึ่งจะมีอาหารและเครื่องดื่มที่สลับสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละช่วงของแต่ละวัน ทั้งอาหารเช้า ของว่างยามบ่าย และ อาหารมื้อดึก รวมถึง Hi-speed Internet
บรรยากาศของห้องพักตกแต่งให้ดูหรูหราและปลอดโปร่งโดยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นไม้ปาเก้เคลือบมัน พื้นห้องปูด้วยพรมสีน้ำตาลอ่อน ควบคู่กับลายตัดสีดำบนตัวพรม ที่เข้ากันได้ดีกับบรรดาเฟอร์นิเจอร์และสีของผนังของที่ออกไปในทางสีเหลืองครีม ทำให้บรรยากาศภายในห้องกลมกลืนกันดี หน้าต่างขนาดใหญ่ทำให้บรรยากาศของห้องปลอดโปร่งและไม่ทึบจนเกินไป อีกทั้ง ยังสามารถรับชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของกรุงเทพมหานครฯ ได้จากบริเวณหน้าต่างของห้องอีกด้วย
ในห้องก็ยังมีทีวี LCD ขนาดกลางตั้งอยู่ พร้อมกับ Drink Bar ซึ่งเป็นตู้เย็นเล็กๆที่ซ่อนอยู่ใต้ทีวี ซึ่งใส่วนของด้านในตู้เย็นนั้นก็มีเครื่องดื่มและของว่างต่างๆบริการมาอย่างครบครัน และในส่วนของตู้เสื้อผ้าก็จะมี เสื้อคลุมอาบน้ำ และ สลิปเปอร์ไว้คอยให้บริการสำหรับลูกค้า รวมถึงเตารีดไอน้ำให้ลูกค้าพร้อมใช้งานอีกด้วย
ในด้านของเตียงนั้น มีความนุ่มสบายตามมาตรฐานของโรงแรมในระดับเดียวกัน ระบบของไฟและระบบของเครื่องปรับอากาศถูกรวมไว้ในคอนโซลเดียวบนหัวเตียง ให้ความสะดวกในการปิดหรือเปิดไฟได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถตั้งนาฬิกาปลุกตรงคอนโซลได้ด้วย
ด้านข้างของเตียงนอนจะมีโต๊ะทำงานเอาไว้รองรับแขกที่ประสงค์จะทำงานขณะพักผ่อน ในส่วนของเครื่องใช้ต่างๆบนโต๊ะทำงานนั้นจะประกอบไปด้วยปลั๊กไฟและโคมไฟ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบาย
ในส่วนของห้องน้ำมีการตกแต่งไปในโทนสีขาวสว่าง มีทั้งอ่างอาบน้ำ และฝักบัว
ส่วนของ Executive Lounge แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลาหลักๆ คือช่วง Complimentary Executive Breakfast ที่เริ่มต้นตั้งแต่ 6 โมงเช้า จนถึง 10 โมงครึ่ง (วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะเปิดให้บริการถึง 11โมงเช้า) บริการอาหารบุฟเฟต์และ a la carte หลากหลายเมนู แต่อย่าพลาดเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Avani Signature Egg และ Egg Benedict
ช่วง Afternoon tea เริ่มต้นตั้งแต่ บ่าย 2 โมง ไปจนถึง 4 โมงเย็น มีชาและกาแฟหลากหลายชนิดให้ได้เลือกจิบ รวมถึงบุฟเฟ่ต์ขนมหวาน เช่น บิสกิต คัพเค้ก มาการอง
Complimentary Evening beverages and canapes เริ่มตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึง 2 ทุ่ม มีบริการอาหารบุฟเฟ่ต์และ Canape หลากหลายชนิดให้เลือกรับประทาน เช่น Pasta olio, Tori Mushroom, Sushi salmon และ ลาบหมู รวมถึงของหวานหลากหลายชนิด เช่น เค้กมัชชะ และ มากาลอง ทั้งหมดนี้ ยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ให้เลือกลิ้มลองกันอีกด้วย
Executive Lounge บริเวณชั้น 23 ตกแต่งไปในทาง Modern Luxury ที่ให้ความรู้สึกและสไตล์เหมือนกับว่ากำลังอยู่ใน Penthouse
นอกจากโต๊ะธรรมดาแล้วนั้น ตามแนวหน้าต่างก็ยังมีบาร์ที่หันหน้าเข้าหากระจกที่สามารถมอเห็นวิวของกรุงเทพมหานครฯได้โดยตรง จึงทำให้สามารถรับประทานอาหารไปพร้อมกับการนั่งชมวิว
นอกเหนือจากในส่วนของ Executive Lounge นั้น ก็ยังมีในส่วนของบุฟเฟต์อาหารเช้าบริเวณชั้น 1 ของโรงแรมที่มีบรรยากาศกว้างขวางให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง แม้ว่าโทนสีภายในจะใช้เป็นโทนสีทึบและไฟที่แสงออกเป็นสีเหลืองก็ตาม แต่ด้วยแสงที่ส่องผ่านเข้ามาจากภายนอก ก็ช่วยทำให้บรรยากาศของห้องอาหารในบริเวณชั้นล่างดูไม่มืดทึบมากจนเกินไปนัก
ในส่วนของอาหารนั้น ก็มีให้เลือกรับประทานหลากหลายชนิดอย่างมาก
นอกเหนือจากอาหารหลากหลายชนิด เราจะสังเกตเห็นตุ๊กตาหมีขนาดใหญ่ 2 ตัว กำลังนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ด้วย ซึ่งตุ๊กตาหมีที่กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่นั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่การตกแต่งของทางร้านเท่านั้น แท้จริงแล้ว การนำตุ๊กตาหมีขนาดใหญ่ 2 ตัวมาตั้งเอาไว้เป็นการย้อนรอยถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นกับทางโรงแรม ซึ่งเรื่องที่เคยเกิดขึ้นนั้น มีที่มาที่ไปจากการที่มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งลืมตุ๊กตาหมีทิ้งเอาไว้ขณะที่เคยมาพักที่โรงแรมแห่งนี้ แต่ทางโรงแรมนั้น ได้ทำการติดต่อทำเรื่องเพื่อส่งตุ๊กตาหมีตัวนั้นกลับสู่อ้อมอกของเด็กน้อย จนทำให้เกิดเป็นเรื่องเล่าความใส่ใจในบริการของทางโรงแรม และการนำเอาตุ๊กตาหมีมาวางไว้นั้น ก็เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของเหตุการณ์ครั้งนั้นที่เคยเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของฟิตเนสที่มีเครื่องเล่นหลากหลายชนิด เตรียมพร้อมเอาไว้สำหรับคนที่รักสุขภาพ บริเวณชั้น 4
นอกเหนือจากฟิตเนส บริเวณชั้น 4 ยังมีในส่วนของสระว่ายน้ำ ตกแต่งเรียบง่ายและเน้นโทนสีสว่างอย่างสีฟ้าตัดกับสีของตัวตึกอย่างสีขาวดูปลอดโปร่ง
ด้วยบริการที่น่าประทับใจ และ วิวทิวทัศน์อันสวยงาม Avani Atrium Bangkok จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกของโรงแรมที่น่าสนใจสำหรับใครที่อยากได้ที่พักบริการดีๆ ใจกลางเมืองราคาไม่แรงมาก