หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในศิลปะของการผสมผสานรสชาติผ่านค็อกเทล พร้อมเสพกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ บอกเลยว่า Bar Sathorn (บาร์ สาทร) ณ The House on Sathorn คือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด
ล่าสุด Bar Sathorn ได้เปิดตัว เมนูค็อกเทลใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ของอาคารนีโอ-คลาสสิกแห่งนี้ ที่มีอายุกว่า 100 ปี โดยค็อกเทลแต่ละแก้วเป็นดั่ง “การเดินทางข้ามยุคสมัย” ที่สะท้อนช่วงเวลาแห่งวัฒนธรรม ความรุ่งเรือง และเสน่ห์ของความเป็นนานาชาติในแต่ละยุคอย่างงดงาม ค็อกเทลถูกออกแบบโดย Marco Dongi ผู้จัดการบาร์ สาทร ซึ่งตั้งใจถ่ายทอดเรื่องราวในแต่ละยุคสมัยที่แตกต่างกันของ The House on Sathorn ผ่านวัตถุดิบ เทคนิคการชง และกลิ่นอายที่ไม่เหมือนใคร
เมนูใหม่ประกอบไปด้วย ซิกเนเจอร์ค็อกเทล 16 รายการ และม็อกเทล 4 รายการ แบ่งออกเป็นสี่ช่วงเวลาตามประวัติศาสตร์ของ The House on Sathorn
1999 – ปัจจุบัน: THE PRESENT
ก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ลิ้มลองค็อกเทลคลาสสิกในแบบฉบับใหม่ที่เต็มไปด้วยรสชาติอันโดดเด่นและวัตถุดิบไทยที่คาดไม่ถึง ได้แก่ Penicillin, Eastside, Paper Plane และ Gin Basil Smash ในเวอร์ชันที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน
CBD KOMBU เครื่องดื่มที่ผสมผสานความละเมียดละไมของรสชาติอย่างมีชั้นเชิง มิติของรส “หวาน–อูมามิ–ซิตรัส” ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าหลงใหล จิบแรกให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินเข้าสู่สวนญี่ปุ่นริมทะเล พร้อมกลิ่นหอมบางเบาแบบแร่ธาตุจากสาหร่ายทะเล แตงกวาช่วยเสริมความสดชื่นและคลีนของเครื่องดื่มนี้ให้ชัดเจนขึ้นทุกอึก ในขณะที่กลิ่นบาง ๆ ของบ๊วยดองสร้างเสน่ห์ที่ไม่ธรรมดา ราวกับได้ชิมความทรงจำในขวดแก้ว สิ่งที่ทำให้ CBD KOMBU น่าสนใจคือสมดุลของวัตถุดิบที่ไม่แย่งซีนกันเลย ทุกอย่างกลมกลืน อยู่ในจังหวะเดียวกัน เหมาะกับคนที่มองหาเครื่องดื่มที่มากกว่าความสดชื่น – แต่ยังอยากได้อารมณ์สงบ มีสมาธิ และจินตนาการ
เป็นแก้วที่จิบแล้ว…รู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด

1948 – 1999: EMBASSY ROW
ในช่วงเวลานี้อาคารแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งทำให้ถนนสาทรกลายเป็นที่พักอาศัยของทูตนานาชาติ เมนูของยุคนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากค็อกเทลยอดนิยมระดับโลก นำมารังสรรค์ใหม่ด้วยวัตถุดิบที่คาดไม่ถึงและกลิ่นอายของเครื่องเทศไทย อาทิ Piña Colada, Espresso Martini, Margarita และ Bull Shot
1926 – 1948: HOTEL ROYAL
ย้อนเวลากลับไปสู่ยุค 1920s เมื่อ Madame Staro สุภาพสตรีชาวอิตาลี ได้เปลี่ยนอาคารแห่งนี้ให้กลายเป็นโรงแรมโฮเต็ล รอยัล โรงแรมหรูที่เป็นที่เลื่องลือ ยุคทองของศิลปะการผสมเครื่องดื่มนี้ถูกถ่ายทอดผ่านค็อกเทลคลาสสิกที่ได้รับการรังสรรค์ใหม่ ได้แก่ Negroni, Bloody Mary, Spritz และ Sbagliato แต่ละแก้วสะท้อนถึงความหรูหราและนวัตกรรมแห่งยุคสมัย
BANGKOK BRUNCH คือการนำเสนอกะเพราหมูในแบบที่ไม่ต้องใช้จานและช้อนส้อม แต่ยังคง “ได้กลิ่น ได้รส และได้ความรู้สึก” แบบครบถ้วนทุกมิติ เปิดสัมผัสแรกด้วยกลิ่นหอมของพริกและใบกะเพราที่อบอวลอย่างนุ่มนวล ก่อนจะตามด้วยรสเค็มกลมกล่อมจากมะเขือเทศที่ผ่านการปรุงอย่างมีมิติ ทั้งแบบเค็มซ่อนเปรี้ยว และแบบแช่แข็งที่ให้สัมผัสเย็นสดชื่นในเวลาเดียวกัน
ความเผ็ดซ่าจากพริกไทยดำ และความเปรี้ยวจากน้ำส้มสายชูข้าวญี่ปุ่น เสริมด้วยกลิ่นหอมจาง ๆ ของวานิลลา ทำให้แก้วนี้มีทั้งความจัดจ้าน ความกลมกล่อม และความประหลาดใจในทุกอึก หากคุณเป็นคนที่รักกะเพรา ชอบกลิ่นเครื่องเทศไทย และไม่กลัวรสชาติที่ “แรงแบบมีสไตล์”
มันคือความเป็นไทยที่กล้าเล่นนอกกรอบ และเล่นได้อย่างสง่างาม

1888 – 1926: HISTORY OF SATHORN
ในช่วงเวลานี้เดอะ เฮ้าส์ ออน สาทร มีเรื่องราวที่เกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของถนนสาทรโดยตรง คฤหาสน์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1889 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) โดยเป็นบ้านพักของยม พิศลยบุตร(เจ้าสัวยม) นักธุรกิจชาวจีนผู้มีบทบาทสำคัญในการขุดคลองสาทร เพื่อรำลึกถึงยุคแห่งการก่อกำเนิดของศิลปะการทำค็อกเทลในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เมนูของบาร์ สาทรจึงนำเสนอเครื่องดื่มระดับตำนาน Bee’s Knees, Tuxedo, Ramos Gin Fizz และ Adonis ที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นใหม่เพื่อสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ในสไตล์ร่วมสมัย
RICE BLOSSOM ด้วยแรงบันดาลใจจากทุ่งนาไทยยามเช้า กลิ่นหอมบางของดอกอัญชัน ข้าวมะลิ น้ำมะนาว และมะม่วงสุก จึงถูกร้อยเรียงเข้ากันอย่างนุ่มนวล ความหอมมันของมะพร้าวผสานกับความสดชื่นของโซดาและเนื้อสัมผัสเนียนนุ่มจากไข่ขาวทำให้แก้วนี้ให้ทั้งความรู้สึก “สดใสและสงบ” ไปพร้อมกัน

นอกจากค็อกเทลที่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายของกาลเวลา Bar Sathorn ยังเสิร์ฟ “Bar Snacks” ที่เรียกได้ว่าไม่ใช่แค่ของทานเล่น แต่เป็นเมนูที่ตั้งใจรังสรรค์เพื่อเสริมประสบการณ์การดื่มของคุณให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Goong กุ้งทอดกรอบทองที่ด้านนอกกรุบกรอบ ข้างในนุ่มแน่น เสิร์ฟพร้อมซอสมายองเนสถั่วเหลืองและไข่ปลาเอะบิโกะ เพิ่มความหอมมัน สายเนื้ออาจจะติดใจเมนูนี้ BBB เนื้อวากิวตากแห้งรสเข้ม เสิร์ฟกับซอสศรีราชา ให้ความรู้สึกเหมือนได้จิบวิสกี้เคียงกับรสเผ็ดนุ่มลึกของเอเชีย
หรือจะเบา ๆ กับ Kartoshka มันฝรั่งดูโอ้หั่นมือ เสิร์ฟคู่ทาร์ทาร์ซอสและทรัฟเฟิล ชิ้นเล็กแต่หอมเข้ม ใครชอบแนวผสมผสานแบบยุโรป-เอเชีย ต้องลอง Duo Bao Bun ขนมปังนึ่งสไตล์จีน สอดไส้หมูสามชั้นปรุงรสเผ็ดร้อนแบบไทย

บรรยากาศของบาร์ยังคงความคลาสสิกและหรูหรา ตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะอย่างพิถีพิถัน รายล้อมด้วยงานสถาปัตยกรรมที่สะกดทุกสายตา แสงไฟสลัว เสียงเพลงแจ๊สเบา ๆ และการบริการอันใส่ใจ ทำให้ทุกค่ำคืนที่นี่กลายเป็นค่ำคืนสุดพิเศษ
- 📍 พิกัด: Bar Sathorn @ The House on Sathorn
- 📅 เปิดบริการ: ทุกวัน (2.30PM – 1AM)
- 📞 สำรองที่นั่ง: 02 344 4025
- Email: [email protected]
- 🌐 เว็บไซต์: www.barsathorn.com