Blunos (บลูโนส) เป็นร้านอาหารคอนเซ็ปต์ “คลาสสิค คอมฟอร์ด ฟู้ด” ตั้งอยู่ชั้น 14 ของโรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ บริเวณริมสระน้ำ บรรยากาศดี โดยผู้อยู่เบื้องหลังครัวเป็นถึงเชฟมิชลินระดับสองดาวจากเกาะอังกฤษ เชฟมาร์ติน บลูโนส (Martin Blunos)
ว่ากันว่าคนเราควรจะมีเวลาปลดปล่อยและให้รางวัลกับตัวเองอย่างน้อยเดือนละครั้งหรือบ่อยเท่าที่ทำได้ตามข้อจำกัดของแต่ละคน วันนี้ SOtraveler.com มีอีกหนึ่งห้องอาหารบรรยากาศสบาย ๆ บริการอาหารรสชาติยอดเยี่ยม ดีกรีระดับเชฟมิชลินสองดาวจากประเทศอังกฤษ เราเชื่อว่าหากคุณมีโอกาสได้มาทานอาหารที่บลูโนสและได้ทักทายกับ “เชฟมาร์ติน บลูโนส” คุณจะต้องประทับใจกับบุคลิกลักษณะที่มีความเป็นกันเองและเป็นมิตรกับทุกคน พร้อมเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือหนวดที่คล้ายกับวอลรัสและสไตล์การแต่งตัวแสนสดใสอารมณ์ดี หากใครไม่เคยเห็นเชฟมาร์ติน บลูโนส มาก่อน อาจจะคิดว่า เค้าคือนักร้องสุดเฮ้วที่จะร้องเพลงสร้างความสุขให้กับแขกที่บลูโนสในคืนนี้ เรามาติดตามความน่าสนใจของเมนูที่ ‘บลูโนส’ กันดีกว่า
มื้ออาหารที่ดีระดับมาตรฐานมิชลิน ไม่จำเป็นต้องเป็น Fine Dining เสมอไป
บรรยากาศของร้าน Casual เหมาะกับการยกพวกมาทานอาหารที่อร่อยในบรรยากาศสบายๆ ริมสระว่ายน้ำ มี House DJ เปิดเพลงให้ฟังการตกแต่งมีลูกเล่นต่างๆที่สะท้อนบุคลิกสนุกๆของเชฟมาร์ตินไว้เต็มไปหมด
“ดาวมิชลินที่ผมได้รับถือเป็นการประสบความสำเร็จอย่างหนึ่งในชีวิต แต่ในท้ายที่สุดรางวัลเหล่านั้นก็จะถูกนำมาแขวนตามผนังบ้าน ซึ่งไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับการเห็นจานเปล่าและรอยยิ้มของลูกค้าซึ่งมีค่ามากสำหรับผม ที่ร้านบลูโนสแห่งนี้ ผมจึงลงมือทำอาหารอย่างสุดฝีมือให้สำหรับคนรักอาหารจริงๆ” – เชฟบลูโนส
Fabulous Cocktails!
“ค็อกเทลต้มยำ” หนึ่งในซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ค็อกเทลนี้ได้ชื่อว่าต้มยำก็เพราะส่วนผสมที่ใช้ในการทำค็อกเทลแก้วนี้ ล้วนเป็นส่วนผสมที่ใช้ในการทำต้มยำทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นต้นตะไคร้ ใบมะกรูด มะนาวหั่นซีกและพริกเป็นเม็ดๆอีก ดูจากเครื่องที่ใช้แล้วรสชาติน่าจะเผ็ดร้อนชวนเหงื่อออก เสิร์ฟมาพร้อมแม่โขงหนึ่งช็อตที่มีพริกแช่อยู่ทำให้ดูเผ็ดร้อนเข้าไปอีก แต่จริงๆแล้วเป็นค็อกเทลที่ให้ความสดชื่นเย็นสบายมากๆเลย มีรสหวานหอมและเปรี้ยวมะนาว สดใหม่ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ตอนมาเสิร์ฟจะมาพร้อม dry ice มีไอสีขาวออกมาทำให้รู้สึกถึงความสดชื่น ดูตื่นตา ชวนน่าลิ้มลอง
ต่อมาเป็นค็อกเทลเฉาก๊วยที่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์ของทางร้านอีกเช่นกัน ตัวค็อกเทลความหวานกลมของนมและเนื้อเฉาก๊วยสีดำนวลเด้งให้ความหวานสดชื่น ข้างบนท็อพมาด้วยน้ำตาลทรายแดงที่จะมาช่วยเพิ่ม texture เวลาทาน ค็อกเทลแก้วนี้จะมาพร้อม Kahlua อีกหนึ่งช็อตที่ให้กลิ่นกาแฟอาราบิก้าหอมกรุ่นมาเสริมรสชาติให้กับแก้วนี้อีกด้วย
European Comfort Food
อันดับแรกต้องเริ่มจากLobster Roll ในตำนาน ด้วย Signature Dish จานนี้ขายไปแล้วถึงสองพันกว่าจาน เราเคยชิม Lobster roll ของที่อื่นมาแล้ว แต่ความโดดเด่นเฉพาะตัวของ Martin’s Lobster roll คือความ delicate ของกลิ่นส้ม ที่เชฟเลือกใช้แทนมะนาว ตัวขนมปังถูก grill มากับgarlic butterก่อน แล้ววางCanadian Lobster ชิ้นอวบไว้ด้านบน โรยหน้าด้วยผิวส้มหอมๆ เสริฟพร้อม Orange Mayonnaise เป็นcombinationของกลิ่น รส และtextureที่เชฟสร้างสรรค์ไว้ลงตัวมาก อร่อยว้าว
สปาเก๊
Signature dish อีกจานที่ต้องมาลอง คือ Pork Belly คำแรกที่ชิมก็ประกาศรสมือระดับครูบาอาจารย์แล้ว ชิ้นหมูเคี่ยวมาในซอสน้ำแอปเปิ้ล ขิง และspicesอื่นๆจนเข้าเนื้อชุ่มฉ่ำ ทั้งรสและกลิ่นเข้มข้น จากประสบการณ์ของเราที่ทำงานกับเชฟมิชลินระดับโลกมาคือ Signatureของแต่ละท่านต้องฉายออกมาโดยไม่ต้องพูด ทานคำแรกต้องรู้ว่านี่ระดับมือฝีมือทำ
จานนี้มี Sticky chickpeas เสริฟเคียงกัน และแต่งหน้าด้วย Crispy pork skin ที่เชฟบอกว่าเอาไปอบและนาบน้ำมันออกจนหนังแบนกรอบที่สุด ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่เข้ากันและสร้างTextureการเคี้ยวที่สนุกดี
เมื่อก่อนเชฟต้องลงทุนimportหมูมาจากอังกฤษเพราะ เมืองของเชฟมีชื่อเสียงเรื่องผลิตภัณฑ์จากหมูที่คุณภาพดีที่สุด อยู่มาวันหนึ่งเกิดความขัดข้องimportไม่ได้ จึงต้องจำใจใช้หมูจากไทยแทน แต่ปรากฏว่า หมูไทยอร่อยกว่า เชฟจึงเลือกใช้หมูจากประเทศไทยนับแต่นั้นมา
มีอยู่จานนึงที่อาจจะทำให้อาจารย์เชฟอิตาเลี่ยนของเราน้ำตาตกไปเลย คือ พิซซ่าเป็ดปักกิ่ง จานนี้ยอมรับในcreativityของเชฟมาร์ติน ที่นำเป็ดปักกิ่งจากร้านเชฟแมนมาทำหน้าพิซซ่าได้อร่อยดี เป็ดปักกิ่งฉีกคลุกเคล้าซอสฮอยซินเข้มข้น topด้วยต้นหอมและแตงกวาสไลด์บางๆ จานนี้แบ่งกับเพื่อนทานเพลินดี
นอกจากนี้เราได้ชิม Seared Beef Flank Steak ที่เป็นการFusionกันระหว่างสเต็กกับน้ำจิ้มแจ่ว เสริฟพร้อมกับมันฝรั่งอบชิ้นเบิ้ม จานนี้ฟินกำลังดี
Milkberry Puff เป็นจานขนมที่เชฟทำแข่งชนะในรายการ The Iron Chef Thailand ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้คือ นมอัดเม็ดจิตรลดา ของโปรดของเด็กทุกคน จานนี้เป็นแป้งPuff pastryที่มีไส้ครีมนมและซอสราสเบอรี่ตัดรส รสชาติดี สตอรี่สนุก
ปิดท้ายกันด้วยความเสียวเชฟมาร์ตินสั่ง Chocolate Roulette มาให้พวกเราลองเสี่ยงดวง จานนี้มี Choux pastry 6 ชิ้น แต่ละชิ้นจะมีไส้เยลลี่ผลไม้รสต่างๆ เช่น กล้วย เสาวรส เบอรรี่ และทีเด็ดคือ ‘Bullet’ ไส้พริก จานนี้แต่งสวยด้วย Sugar cotton เนื้อเบาๆ เป็นประกายวิบวับๆ เสริฟพร้อมครีมตรงกลาง
มาที่นี่ได้นั่งชิลริมสระน้ำสบายๆ สั่งค็อกเทลมาดื่มชมวิวสาธรเพลินๆ ก่อนสั่งอาหารมิชลินมาลองโดยรวมแล้ว Blunos เสริฟ ‘Experience’ ได้ดีมากทีเดียว โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ มีที่จอดรถเยอะแยะมากมาย ถ้าหากอยู่ใกล้รถไฟฟ้าละก็นั่ง BTS มาลงสถานีสุรศักดิ์ได้เลย มีทางเชื่อมเดินเข้าโรงแรมสะดวกสบาย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง ติดต่อโทร 02 210 8100 หรือที่แฟนเพจ : www.facebook.com/EastinGrandSathorn