ชมสินธุ์ (ChomSindh) ห้องอาหารไทยแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ต้องการชูคุณค่าวัตถุดิบแห่งน่านน้ำไทย พร้อมนำเสนอสูตรอาหารต้นตำรับให้ผู้ที่รักอาหารไทยได้รับประทานอย่างหลากหลาย แสดงออกถึงมรดกทางวัฒนธรรม ความรุ่มรวยของอาหารทะเลและปลาแม่น้ำในฤดูกาลต่าง ๆ พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2567
ชมสินธุ์ แปลว่า ‘การมองดูสายน้ำ’ ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบร้านอาหารจากห้องแถวสมัยก่อน รวมถึงการเลือกใช้โทนสีที่สร้างความอบอุ่นอย่างเป็นธรรมชาติ ได้แก่ สีคราม สีเขียวเทอร์ควอยซ์ และสีน้ำตาล พร้อมการตกแต่งแบบร่วมสมัย เน้นใช้วัสดุจากไม้และดินเผา บ่งบอกถึงความสนุกสนาน ทันสมัย แต่ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายของยุคก่อน ห้องอาหารสามารถรองรับแขกได้มากถึง 48 ท่าน
ชมสินธุ์ นำเสนอเมนูอาหารไทยที่หารับประทานได้ยากในทุกวันนี้ และกำลังเลือนหายไปจากความทรงจำ โดยนำสูตรต้นตำรับมาปรับให้ร่วมสมัยยิ่งขึ้น สำหรับวัตถุดิบหลักที่เป็นตัวชูโรงคืออาหารทะเล และของสดจากแม่น้ำ อาทิ ล็อบสเตอร์จากจังหวัดภูเก็ต ปูจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กุ้งแม่น้ำจากอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม รวมถึงข้าวหอมมะลิจากจังหวัดอำนาจเจริญ ชมสินธุ์ ยังเลือกใช้วัตถุดิบทั้งหมดจากผู้ผลิตโดยตรงทั่วประเทศไทย และใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกให้มากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นสร้างการบริโภคอย่างยั่งยืน เช่นเดียวกับกระบวนการในห้องครัวซึ่งเชฟจะใช้ทุกส่วนของวัตถุดิบอย่างรู้คุณค่า เช่น ใช้ก้างปลามาทำน้ำสต็อก หรือทำผงปรุงรสจากเปลือกกุ้ง ตรงกับหลักการ Zero Waste หรือแนวคิดลดขยะให้เป็นศูนย์
ประวีณ ดีลี เชฟรุ่นใหม่ไฟแรงผู้รับหน้าที่เป็นผู้นำในครัว มาพร้อมทักษะและความรู้ที่สั่งสมมาตลอดเส้นทางอาชีพเชฟของเขา โดยเฉพาะในเรื่องสมุนไพร เครื่องเทศ และความเผ็ดร้อนในอาหารไทยที่มีมิติและตัวแปรอันแตกต่างกันออกไป เชฟประวีณเข้าใจวัตถุดิบทุกชนิดเป็นอย่างดี และรังสรรค์ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ โดยเฉพาะเครื่องแกงแบบโฮมเมดซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของอาหารไทย
ชมสินธุ์ นำเสนอเมนูอาหารไทยที่หารับประทานได้ยากในทุกวันนี้ และกำลังเลือนหายไปจากความทรงจำ โดยนำสูตรต้นตำรับมาปรับให้ร่วมสมัยยิ่งขึ้น สำหรับวัตถุดิบหลักที่เป็นตัวชูโรงคืออาหารทะเล และของสดจากแม่น้ำ อาทิ ล็อบสเตอร์จากภูเก็ต ปูจาก สุราษฎร์ธานี และกุ้งแม่น้ำจากอยุธยา เป็นต้น ชมสินธุ์ ยังเลือกใช้วัตถุดิบทั้งหมดจากผู้ผลิตโดยตรงทั่วประเทศไทย และใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกให้มากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นสร้างการบริโภคอย่างยั่งยืน เช่นเดียวกับกระบวนการในห้องครัวซึ่งเชฟประวีณจะใช้ทุกส่วนของวัตถุดิบอย่างรู้คุณค่า เช่น ใช้ก้างปลามาทำน้ำสต็อก หรือทำผงปรุงรสจากเปลือกกุ้ง ตรงกับหลักการ Zero Waste หรือแนวคิดลดขยะให้เป็นศูนย์
สำหรับเมนูไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ เริ่มตั้งแต่ ยำมะเขือยาวปลาสลิด อาหารเรียกน้ำย่อยที่จะสร้างความอร่อยจากสัมผัสอันแตกต่าง ระหว่างความกรุบกรอบของปลาสลิดทอด และเนื้อนุ่มละมุนของมะเขือยาว พร้อมน้ำยำรสชาติจัดจ้าน อาหารเรียกน้ำย่อยอีกจานที่น่าสนใจคือ แสร้งว่ากุ้ง เมนูโบราณที่จะได้สัมผัสความแน่นของเนื้อกุ้งที่จับตามธรรมชาติ และสมุนไพรนานาชนิดที่ใช้เป็นส่วนประกอบของเมนูนี้ ส่วนเมนูหลักที่ต้องลองเลยก็คือ พระรามลงสรงกับล็อบสเตอร์ภูเก็ต ซึ่งเชฟประวีณจะเพิ่มความจัดจ้านในน้ำซอสด้วยพริกเผา และเลือกใช้ผักบุ้งจีนออร์แกนิกซึ่งให้รสหวานธรรมชาติ ส่วน นารีกรรแสง ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูโบราณที่ควรได้ลิ้มลอง ใช้กุ้งทะเลเป็นส่วนประกอบหลัก เพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยสามเกลอ พริกแห้ง ใบกะเพรา กินคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ซึ่งห้องอาหาร ชมสินธุ์ เลือกใช้ข้าวหอมมะลิจากจังหวัดสุรินทร์ ปิดท้ายมื้ออร่อยด้วย ส้มฉุน เมนูของหวานตั้งแต่ครั้งโบราณที่จะสร้างความเย็นชื่นใจในทุกคำ ประกอบด้วยผลไม้รสเปรี้ยวตามฤดูกาล สมุนไพร และน้ำเชื่อมรสหวานกำลังดี
เมนูทั้งหมดสามารถสั่งได้แบบอะลาคาร์ท เหมาะสำหรับการสั่งมาหลายอย่างเพื่อแบ่งกันรับประทานแบบคนไทย
เครื่องดื่มแนวคิดการเลือกใช้วัตถุดิบทุกอย่างภายในประเทศไทยยังรวมไปถึงเมนูเครื่องดื่มอีกด้วย ห้องอาหาร ชมสินธุ์ มีเมนูค็อกเทลแนะนำหลายเมนูที่ใช้สุราที่กลั่นในไทยทั้งหมด อาทิ Siam Sindh ทำจาก Mekong น้ำเชื่อมอบเชย และน้ำส้ม หรือ Rum Wong ทำจาก Chalong Bay และแตงกวาหั่นบาง อีกทั้งยังมีเบียร์และไวน์ที่ผลิตในประเทศไทยมาให้เลือกอีกหลายรายการ นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มยอดฮิตของคนไทยมานานกว่า 80 ปี – เบียร์วุ้น เย็นชื่นใจ เหมาะสำหรับการดื่มคู่กับอาหารไทยเป็นอย่างยิ่ง
ห้องอาหาร ชมสินธุ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 4 โรงแรมอมารี กรุงเทพ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12:00 น. – 23:00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองโต๊ะ โทร: 02 653 9000