Ciao!
เชาว์ เป็นคำกล่าวทักทาย สวัสดี แบบง่ายๆ ที่ผมจำมาจาก เพื่อนต่างชาติชาวอิตาลี ผมจึงขอหยิบมาใช้ในการเกริ่นทักทาย เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ผู้รักในการทานอาหารอร่อย ๆ และมีความสุขกับท่องเที่ยวทุก ๆ คนนะครับ
ช่วงนี้ เริ่มมีมรสุมเข้ามาทักทาย ยังงัยก็ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนการเดินทางเตรียมเสื้อผ้า ให้เหมาะกับสภาพอากาศของจุดหมายที่เราจะเดินทางไปกันเพื่อความสนุกอย่างเต็มอิ่มของทริปของเรา
คราวนี้ ผมไม่ได้พาทุกท่านออกเดินทางไปไหนไกลเลยครับ ตรงกันข้าม กับเป็นใจกลางเมือง “ย่านปทุมวัน” เสียด้วยซ้ำ วันนี้ผมจะพาทุกท่านมาทานอาหารย่านใจกลางเมืองด้วยกันครับ เป็นอาหารในแบบฉบับโฮมเมดแท้ ๆ ที่อยากให้ทุกคนได้ลอง
ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี อีกครั้งหนึ่งนะครับ ที่ “SOtraveler” ได้รับเชิญจาก โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ให้มาทดลองชิมอาหารที่นี่ เนื่องด้วยทาง โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส มีห้องอาหารที่หลากหลายมาก เพื่อรองรับความต้องการของของลูกค้าที่หลากหลาย และ Loop Italian Restaurant ก็เป็นอีกหนึ่งห้องอาหารที่มีแขกเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ผมอยากรู้เหมือนกันนะครับว่า อะไรทีทำให้ Loop Italian Restaurant เป็นห้องอาหารที่แขก เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่องขนาดนี้
“สิ่งหนึ่ง…ที่หลายคนให้การยอมรับเลยคือ อาหารอิตาเลี่ยน เป็นหนึ่งในอาหารที่มี สไตล์การทำอาหารเน้นความพิถีพิถันมากเป็นพิเศษ”
“Loop Italian Restaurant”
ผมเดินทางมาโรงแรมด้วยรถไฟฟ้า BTS ครับ ลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ เดินทะลุห้างมาบุญครอง (MBK) ซึ่งห้างมาบุญครองนั้น เชื่อมกับ โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส เลยครับ ก็ถือว่า เดินทางได้ค่อนข้างสะดวก
เมื่อมาถึงโรงแรม ผมก็ตรงไปยังโถงลิฟท์ เพื่อขึ้นไปยัง ชั้น 8 ซึ่ง Loop Italian Restaurant ให้บริการอยู่ชั้นนี้ เมื่อลิฟท์เดินทางถึงชั้น 8 และประตูเปิดออกปุ๊บ ก็เห็นป้ายบอกทาง ไปยังห้องอาหารด้านหน้าลิฟท์เลย
บรรยากาศหน้าห้องอาหาร โดยรอบจะเป็นกระจก ทำให้มองเห็นบรรยากาศภายนอกได้ สำหรับคนที่นั่งอยู่ในห้อง เพราะ “ไฮไลท์ของห้องอาหาร คืออยู่ติดสระว่ายน้ำ ที่เป็นสระเกลือของโรงแรม”
ในช่วงกลางวัน หรือช่วงเย็น จะมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามา ทำให้ดูโปร่งสบายๆ ดี ส่วนกลางคืนก็เห็นสระเปิดไฟ มีบรรยากาศโรแมนติคซ่อนอยู่เล็ก ๆ ภายในร้านเน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้ ซึ่งหากจะว่าเป็นแนว Modern Rustic ผมก็ไม่รู้ว่าจะเรียกถูกรึปล่าว เพราะห้องอาหารไม่ได้ให้อารมณ์ความเก่าแต่อย่างใด พื้นเป็นไม้มันเงา เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆก็เป็นไม้สีเข้ม ผ้าคลุมสีขาวสะอาด ให้พลังอบอุ่น เข้ม เท่ส์ ราวกับหนุ่มอิตาลี นัยตาสีเรดคอรัล มาดนุ่มอบอุ่น ยืนกุมมือโค้งคำนับ คอยส่งสายตาอบอุ่น ทักทายแขกที่กำลังจะเข้ามาใช้บริการที่ Loop Italian Restaurant
Loop Italian Restaurant,Pathumwan Princess Hotel เป็นอีกหนึ่งห้องอาหาร ที่ได้รับรางวัล
WORLD LUXURY HOTEL AWARDS ประจำปี 2016
หน้าร้าน มีป้ายรางวัล การันตีคุณภาพและการบริการ ที่ได้มาล่าสุดเลยคือ “Ospitalità Italiana” (ออสปิตาลิต๊ะ อิตาลิอานา) ป้ายประกาศ การันตีคุณภาพของร้านอาหารอิตาเลี่ยน จาก หอการค้าไทย – อิตาเลียน (Thai – Italian Chamber of Commerce : TICC)
ซึ่งเกณฑ์ข้อกำหนดและคุณสมบัติของร้านอาหารอิตาเลี่ยน ที่จะได้ป้ายนี้มาติดหน้าร้าน นั้นบอกเลยว่า ไม่ง่ายเลยครับ เพราะมีการตรวจสอบและควบคุมตั้งแต่วัตถุดิบ บุคลากร บรรยากาศ เมนู ไวน์ กระทั่ง เชฟ ที่จะประกอบอาหาร
นอกจากนี้ ในแต่ละวันยังมีรายการอาหารแนะนำจากเชฟ โดยนอกจากจะมีชื่อเมนูแล้ว ยังบอกวัตถุดิบเด่นๆ สำหรับคนที่ภาษาอิตาลีแทบไม่กระดิกอย่างผม ก็สามารถเข้าใจได้เลยครับ ว่าแต่ละอย่างประกอบด้วยอะไรบ้าง
เมนูอาหาร แอบอ่านยากจริง ๆ บางเมนู ผมออกเสียงไม่ถูกก็ดูส่วนประกอบ สอบถามพนักงานเพิ่มเติม แล้วใช้นิ้วจิ้มไปที่เมนู สั่งเอา
บรรยากาศภายใน Loop Italian Restaurant จะมีให้เลือก 2 โซน เป็นแบบ Indoor และ Outdoor ครับ เท่าที่ได้ลองสัมผัสบรรยากาศแบบ Outdoor จะรู้สึกได้ว่า มีลมพัดเรื่อยๆ แทบจะตลอดเวลา
โดยทางร้าน จะแต่งร้านด้วยรั้วต้นไม้เขียวขจี ที่จะคอยกันลมแรงๆ แถมยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วยครับ กลางคืนนี่ชิลมาก นั่งดริ๊ง คงเพลินน่าดู : P
การตกแต่งโต๊ะอาหาร มีการแทรกสีสัน สร้างความรู้สึกสดชื่น ทั้งจากหมอนอิง และจากแก้วน้ำบนโต๊ะ ตามลักษณะการตกแต่งคล้ายๆ แนว Modern Rustic นั่งได้อย่างเพลินรื่นรมย์
และเพราะตำแหน่งของห้องอาหาร จะอยู่ติดกับสระน้ำของโรงแรม ก็จะเห็นคนมาเล่นน้ำกันบ้าง ทำให้ช่วงเวลาในการรับประทานอาหารของผม ที่เคยโฟกัสอยู่เฉพาะบนโต๊ะอาหาร และโต๊ะรอบข้าง กลายเป็นมองไปยังบรรยากาศรอบ ๆ สลับกับการ นั่งรับประทานอาหารร่วมกัน
ถ้านั่งโซน outdoor แล้วรู้สึกว่า ลมแรง หรือ ต้องการนั่งในแอร์เย็น ๆ ก็สามารถเลือกนั่งโซน indoor ได้ครับ โดยจะให้อารมณ์สงบ สามารถนั่งคุยกัน ในครอบครัวแบบกันเอง หรือคุยแบบสองคนส่วนตัวได้
อีกซักนิด ก่อนเริ่มแนะนำรายการอาหารสุดอร่อย ผมอยากแนะนำเชฟของที่นี่สักนิด นั่นคือ
“เชฟ Roberto Panariello” ผู้ซึ่งมาจาก Puglia ทางตอนใต้ของอิตาลี และหนึ่งในนิยามอาหารของเชฟ คือ “ความแท้” (authentic) ของรสชาติอาหาร
เชฟ Roberto มีความเป็นกันเองมากๆ มีการแนะนำอาหารอย่างคล่องแคล่ว มีการเล่าถึงที่มาของวัตถุดิบ
เชฟบอกว่า
วัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารจะเป็นการผสมผสานกัน ระหว่างวัตถุดิบของไทย และอิตาลี
โดยอะไรที่สามารถใช้จากไทยได้ก็จะนำมาใช้ เพราะจะได้ความสด แต่อะไรที่ต้องนำเข้าจากอิตาลี ก็จำเป็นต้องนำเข้ามา เพื่อให้รสชาติอาหารนั้นแสดงออกว่าเป็นอิตาเลียน และแน่นอน เครื่องปรุงบางอย่างก็ได้มาจาก Puglia เช่นกันครับ 🙂
เรามาเริ่มต้นกันเลยนะครับ กับเมนู Starter ที่ชื่อ
Involtini Di Zucchine Grigliate Con Scamorza E Bresaola
(Grilled Zucchini Rolls, Radicchio, Smoked Scamorza Cheese, Bresaola, Pumpkin & Potato)
เมนู Involtini ซึ่งอ่านออกเสียงว่า …อินโวลทีนี แปลว่า “ม้วน”
Di (ดิ) แปลว่า “ของ” ดังนั้น หากไปร้านอาหารอิตาเลี่ยน แล้วเจอคำว่า Involtini Di … เดาได้เลยว่า เมนูนั้นจะม้วน ห่ออะไรสักอย่าง
สำหรับ Zucchine (ซุคคินี่) จัดเป็นผักประเภทหนึ่ง มักจะแล่เป็นชิ้นบางตามยาว แล้วนำมาประกอบอาหาร อย่างในจานเป็น Zucchine ที่นำไปย่าง (Grigliate) ได้ความหอมมาก ๆ ห่อผักสลัดสีม่วง และเนื้อวัวอบแห้ง (Bresaola-เบร-ซาว-ลา) และมีชีส Scamorza ถูกเบิร์น อยู่ด้านบน ราดด้วยซอสฟักทองและมันฝรั่งเข้มข้น จานนี้มีความเด่นในของกลิ่น Smoke ที่หอมขึ้นจมูก เหมือนทานวาซาบิแล้วขึ้นจมูก แต่นี่เป็นกลิ่นอบควันแทน ซึ่งชวนให้เคลิ้มตั้งแต่ เริ่มเคี้ยวเลยทีเดียว
Fantasy Salmon starter
(Carpaccio of Marinated Salmon, Wrapped with Smoked Salmon)
ด้านในจะเนื้อแซลมอนหั่นชิ้นเล็ก ที่ผ่านการหมักด้วยซอสเข้มข้น นำมาห่อด้วยแซลมอนรมควันชิ้นใหญ่ และเสิร์ฟพร้อมผักร็อกเก็ต และมะเขือเทศ เป็นเมนูเบาๆ ที่ได้ความเจนจัดในรสชาติของแซลมอนเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่รักในสุขภาพและชอบทานปลา ไม่ควรพลาดที่จะสั่งเมนูนี้มาลองดูนะครับ
ในส่วนอาหารหลักจานแรกของเรา เริ่มต้นด้วย
Del Pescatove main course
(Squid, Mussels, Shrimps, Scallops, White Wine, Tomato Sauce, Topped with Pizza Bread and Finished in The Oven)
เมื่ออาหารจานนี้มาถึงโต๊ะ ตัวผมเองได้กลิ่นเครื่องเทศพิซซ่าหอมๆ แต่ยอมรับตามตรงเลยครับ ว่า
ตอนนั้นแอบแปลกใจ เนื่องจาก สิ่งที่ผมเห็นเป็นเพียงแผ่นแป้งที่ผ่านการอบ หน้าตาเรียบๆ …..
แต่ไม่นานทุกอย่างที่ผมสงสัย ก็ได้ชัดเจนขึ้นเมื่อเชฟทำการกรีดแผ่นแป้งออก เท่านั้นล่ะครับ!!!! ควันอุ่นๆ และกลิ่นหอมๆ ของสิ่งที่อยู่ภายในแป้งพิซซ่าอบ หอมกระจายออกมา จนทุกคนต่างมองหน้ากันแล้วยิ้ม นัยต์ตาบ่งบอกความหิวและกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว จากความหอมของเมนู Del Pescatove และต้องทำตาโต ต่อจากนั้นคือ กุ้ง, หอย, ปลาหมึก มาเต็มเลย
Loop Italian Restaurant มีเมนู พิซซ่า ที่ขึ้นชื่อมาก วันนี้ผมยังไม่ได้ลองเมนูพิซซ่า แต่มาลอง Del Pescatove แทน ซึ่งเป็นแป้งพิซซ่าเหมือนกัน เวลาทาน สามารถทานคู่กันได้เข้ากันดี Del Pescatove เป็นหนึ่งในเมนูที่มีความ authentic สูงมากใครเป็นคออาหารอิตาลี ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
King Mackerel main course
(King Mackerel Fish, Extra Virgin Olive Oil,Fresh Lemon Slices,Oregano,White Wine Served with Ratatouille, Smoked Cheese, Napoletana Sauce and Fresh Basil Leaves)
เสิร์ฟด้วยเนื้อปลา Mackerel ชิ้นใหญ่ๆ ผ่านการปรุงด้วยเครื่องเทศ และวัตถุดิบหลากหลาย เชฟแอบบอกว่า ปลา Mackerel เมนูนี้เป็นปลาไทยนะครับ เพราะปลาไทย มีคุณภาพสูงอยู่แล้ว และการใช้ปลาของไทย จะทำให้ได้ความสดของปลาอีกด้วย
การปรุงเมนูนี้ จะมี Ratatouille ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายเป็นสตูผัก สูตรดั้งเดิมเป็นอาหารพื้นเมืองของเมืองนิส ประเทศฝรั่งเศส ชาวยุโรปบางคนจะเคยทานเมนูนี้กันตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเมื่อได้มาทาน Ratatouille ที่นี่ เค้าจะได้ย้อนไปยังความรู้สึกดีๆ ครับ
Lasagna Bolo
(Fresh Homemade Pasta Sheets with Mixed Minced Beef & Pork, Carrot, Onion, Celery, Red Wine and Chef Roberto’s Secret Sauce Completed with Mozzarella and Parmesan)
เมนู Lasagna เป็นเมนู ที่อาจจะพบได้ในร้านอาหารอิตาเลียนทั่วๆ ไป
แต่ผมขอบอกเลยครับ ถ้าได้มาลองทานที่นี่ คุณจะพบกับประสบการณ์ของ Lasagna ที่แตกต่างจากร้านทั่วๆ ไปแน่นอนครับ
ทั้งกลิ่นหอมของชีสคุณภาพดี ที่นำเข้ามาจากอิตาลี และเนื้อบดนิ่มๆ ที่อบอยู่ด้านใน ทานแล้วเพลินมาก
ปกติเมนู Lasagna มักจะทำให้ผมทานได้น้อย แต่สำหรับจานนี้ ผมบอกได้เลยครับ เบรคไม่อยู่จริงๆ ทานได้เรื่อยๆ
ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะรสชาติของซอสสูตรพิเศษ ที่มีรสชาติกลมกล่อมมาก โดยเชฟเป็นผู้ผสมขึ้นมาเอง
ทำให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่ เมนูนี้แนะนำเลยครับ !!!
ถ้าใครชอบทานซุป อย่าลืมเมนูนี้นะครับ
Zuppa Di Zucca E Gamberi (Pumpkin, Onion, Shrimps & Fish Stock)
เป็นซุปที่มีกุ้งตัวใหญ่ ซ่อนอยู่ในซุปเข้มข้นที่ทำมาจากฟักทองและหัวหอม เมื่อได้ตักชิม รู้สึกคล่องคอ ซุปอุ่นๆ กระตุ้นให้ความอร่อยในมื้ออาหาร ยิ่งทวีคูณเพิ่มขึ้น ได้ความกรุบจากความสดของเนื้อกุ้ง
Sweet Flavor !
หลังจากที่ได้ทานอาหารมื้อหลักไปเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาของหวานกันบ้าง ของหวาน Loop Italian Restaurant ยังคงไว้ซึ่งความพิถีพิถันในการสรรค์สร้างออกมา ตามสไตล์อิตาเลี่ยน เชฟมีเคล็ดลับในการผสมส่วนผสมพิเศษบางอย่าง เพื่อกลิ่น เพื่อเนื้อสัมผัส และเพื่อรสชาติที่โดดเด่น ผมได้ฟังคร่าว ๆ ในเล่ากระบวนการทำออกมานั้น เบื้องหลังผ่านกระบวนการคิดและเทคนิคอันซับซ้อน การได้ทานของอร่อย ๆ แบบนี้ รู้สึกดีมาก ๆครับ : )
Panna Cotta
ของหวานคู่ห้องอาหารอิตาเลี่ยน ลักษณะเหมือนเยลลี่รสนมแต่สำหรับ Loop Italian Restaurant ไม่ใช่แค่เยลลี่รสนมแน่นอน ตัวเนื้อเยลลี่มีความหอมเลมอนอ่อน ๆ กรุ่นกลิ่นวานิลลาเล็กๆ จากฝักวานิลลาแท้ ๆ ราดด้วยซอสส้มที่มีรสชาติเปรี้ยวระดับหนึ่งในสาม ห้อมล้อมด้วยสตอเบอรี่หั่นแนวตั้งและกีวี่ฝานครึ่งซีก ที่มีรสชาติค่อนออกไปทางเปรี้ยวเช่นเดียวกัน เมื่อทานแล้วรู้สึกสดชื่นหลังจากการทานอาหารมื้อหลัก ตักเข้าปากแล้วได้รสชาติหอม ๆ ของเลมอนติดปลายลิ้น
Original Tiramisu
ทีรามิสุ (Tiramis) เป็นของหวานของอิตาลี ที่แพร่หลาย ใครๆ ก็รู้จักและชื่นชอบ ทีรามิสุมีหลายสูตรมากๆ Loop Italian Restaurant เองก็มีสูตรและวิธีการทำครีม ฟองมาโดยเฉพาะ เนื้อครีมนุ่มหอม มีความขมของกาแฟในระดับที่พอดี กัดโดนช๊อคโกแลตชิพ เพิ่มความเข้มข้นในแต่ละคำที่ตักทาน เมื่อนำมาทานคู่กับ Panna Cotta จานเมื่อสักครู่ แม้จะมีความต่างกัน แต่ลงตัว ไม่หนักเข้มขม หรือเปรี้ยวจี๊ดจนเกินไป
Torta Della Nonna (Grandmothers Apple Cake) Served with Vanilla Gelato
หนึ่งในเมนูนำเสนอของเชฟ และจานนี้ผมก็ขอ Reccommend อีกคน เนื่องจากเป็นสูตรโฮมเมด ที่ได้รับตกทอดกันมาเป็นรุ่นๆ เป็นสูตรของเชฟเอง มีความอร่อยของเค๊กแอปเปิล กับไอศกรีมหอมหวาน ทานแล้วอารมณ์เหมือนทาน Honey Toast อ่ะครับ แต่เป็น Honey Toast เนื้อเค้ก … แค่นึกภาพตาม ก็ฟินแล้วมั้ยล่ะครับ…ทุกท่าน
Return of Memory … Happy in the End !
หลังมื้ออาหาร เชฟ Roberto ได้เอาลูกอมมาแจกให้คนละเม็ด สารภาพเลยว่า ตอนแรกผมคิดในใจว่า อ๋อ !! มันเป็นลูกอมทั่ว ๆ ไปที่ร้านจะให้หลังเช็คบิล แต่ไม่ใช่เลย… ลูกอม นี้มีความพิเศษมากกว่า ลูกอมดับกลิ่นปากหลังเช็คบิน
เชฟ Roberto เล่าให้ฟังว่า ลูกอมคาราเมลนุ่มไส้เฮเซลนัท Rossana เม็ดนี้ เป็นลูกอมที่มีความทรงจำในสมัยเด็กมากมาย เป็นลูกอมที่มีตั้งแต่ปี 1926 ถ้านับอายุ ผมก็คงต้องเรียกคุณปู่ Rossana แล้วล่ะ ผ่านมาเกือบ 90 ปีคุณปู่ Rossana ก็ยังขายอยู่จวบจนทุกวันนี้ แต่เริ่มไม่แพร่หลายแล้วเหมือนในสมัยที่คุณปู่ยังเด็ก เพื่อน ๆของคุณปู่ที่เติมโตมาพร้อม ๆกัน ในอิตาลี จะรู้จักและคุ้นเคยกับปู่ Rossana เป็นอย่างดี ถึงเวลาจะผ่านมานานเท่าไหร่ คุณปู่ Rossana ก็ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นขนมรูปทรงสี่เหลี่ยมห่อกระดาษสีแดง ตลอดมา เชฟจะแจกลูกอมนี้เป็น Complimentary ให้กับแขกที่มาทานอาหารที่นี่ เชฟทิ้งท้ายหลังเล่าที่ไปที่มาของคุณปู่ Rossana ไว้ว่า แขกบางคนเห็นแล้ว บ้างก็น้ำตาคลอ เคยมีบางคนถึงกับร้องไห้ เพราะคิดถึงบ้าน คิดถึงบรรยากาศวัยเด็กของเค้า
Magic Drinking !
ใครที่ชอบทานเครื่องดื่มเย็น ๆ ต้องลองสั่ง Mocktail ของ Loop Italian Restaurant มาลองชิมกันด้วยนะครับ รสชาติแต่ละแก้วมีความโดดเด่น และมีความหอม ก่อนทานพนักงานยังแนะนำให้คนรวมกันก่อนทานเพื่อรสชาติของส่วนผสมแต่ละอย่างจะได้กระจายตัว พร้อมกลิ่นหอม ๆ จะได้อบอวลขึ้นมา
สำหรับ ราคาอาหาร มีดังนี้ครับ
– Involtini Di Zucchine Grigliate Con Scamorza E Bresaola ราคา 340 บาท
– Fantasy Salmon starter ราคา 400 บาท
– Del Pescatove main course ราคา 360 บาท
– King Mackerel main course ราคา 540 บาท
– Bolo main course ราคา 360 บาท
– Zuppa Di Zucca E Gamberi ราคา 260 บาท
– Pannacotta ราคา 180 บาท
– Original Tiramisu ราคา 180 บาท
– Torta Della Nonna (Grandmothers Apple Cake) Served with Vanilla Gelato ราคา 180 บาท
*** ราคาทั้งหมดเป็นราคา net รวมค่าบริการ 10% และภาษี 7% เรียบร้อยแล้วครับ
Info
ห้องอาหาร Loop Italian Restaurant
ชั้น 8 โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส
เปิดให้บริการ แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา
11:30 น. – 18.00 น. (Lunch)
18:00 น. – 23.00 น. (Dinner)
หมายเลขโทรศัพท์ +66 (0) 2216-3700 ต่อ 20818
Conclusions
โดยส่วนตัว ก็เคยทานอาหารอิตาเลี่ยนบ้างอยู่แล้ว ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีรายละเอียดของรสชาติอาหารที่แตกต่างกัน การใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ ของเชฟ ทำให้ผมสัมผัสและรับรู้ได้ถึงความแตกต่างของรสชาติ ความพิถีพิถันในการประกอบอาหารในแต่ละเมนู ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ ถ้ามีโอกาส แนะนำให้มาลองกันนะครับ แล้วคุณอาจจะหลงหลัก อาหารอิตาเลี่ยนโฮมเมด ในแบบฉบับของ Loop Italian Restaurant,Pathumwan Princess เข้าให้ก็ได้ครับ
SOtraveler ขอขอบคุณทุกท่าน ที่ติดตามอ่านกันมาครับ : )
บรรยากาศดี ถ่ายรูปสวย อาหารน่าทานมาก ๆครับ