ถึงคราวที่เราจะชวนผู้อ่านมาเติมเต็มประสบการณ์ด้านรสชาติไปกับเซ็ตเมนู Summer Guestronomic Journey (ซัมเมอร์ เกสท์โตรโนมิก เจอร์นี) ณ ห้องอาหาร Elements Inspired by Ciel Bleu (เอเลเมนท์ อินสไปร์ บาย เซล เบลอ) ชั้น 25 ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok ที่เชฟเจอราร์ด วิลลาเรท ฮอร์คาโญ ได้นำวัตถุดิบและส่วนผสมในการประกอบอาหารที่มีให้เลือกสรรในช่วงฤดูร้อนนำเสนอออกมาเป็นเมนูมื้อพิเศษที่เหมาะกับฤดูกาล แต่ละเมนูล้วนสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำทั้งความสดชื่นและสีสัน ผสมผสานเทคนิคการปรุงอาการอันยอดเยี่ยมของเชฟเจอราร์ด ทำให้มื้อนี้พิเศษอย่างหาที่ได้เทียบไม่ได้เลยจริงๆ
เมนู 8 คอร์ส (Mizu Experience) ของ Summer Guestronomic Journey มีทั้งปลาฮามาจิ ปลาไหลนำเข้าจากฝรั่งเศส เนื้อปลาคอดจากประเทศนอเวย์ ดอกซูกินีไส้เห็ดและทรัฟเฟิลราด เนื้อซัทซึมะวากิว รสชาติละมุนทุกคำชวนให้เคลิ้มในภวังค์ราวกับต้องมนต์เสน่ห์หลังสัมผัสรสชาติ
เมนู 8 คอร์ส Mizu Experience
เริ่มต้นด้วยเมนูอามูสบุช (Amuse-Bouche) เชฟแนะนำให้เปิดรสชาติลิ้นด้วยเมนูเมอแรงค์ออนท็อปด้วยปลาซาวาระ ปลาเนื้อขาวที่มีความนิยมอย่างสูงในประเทศญี่ปุ่น โรยด้วยผงบูริตาเกะ ราดด้วยซอสยากินิกุหรือซอสบาบีคิวญี่ปุ่น ตามด้วยเมนูปลาเทราซ์ที่เสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งทอดกรอบ และซอล์ทเท็ดครีม
ตามด้วย หนังไก่อบกรอบเสิร์ฟคู่กับกุ้งแม่น้ำ ราดด้วยซอสพอนสึและโนริเมโย และวอเตอร์เมลอนซูเฟล รองด้านล่างด้วยเต้าหู้รมควัน ไข่ปลาแซลมอนอิคุระ สาคู และเนื้อแตงโม
HAMACHI
คอร์สแรกเป็นเมนูปลาฮามาจิ ปลาที่มีความนิยมในประเทศญี่ปุ่น ด้วยลักษณะเฉพาะตัวของการมีชั้นไขมันแทรกทำให้เนื้อปลามีความนุ่มและแน่น เชพแร่ปลาฮามาจิออกเป็นแผ่นเพื่อให้มีผิวสัมผัสกว้าง ออนท็อปด้วยหอยนางรม รูบาร์บดอง และใบสะระแน่ฝรั่ง
SMOKED DUTCH EEL
คอร์สที่สอง เนื้อปลาไหลรมควันนำเข้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นปลาที่หายากอีกชนิดหนึ่ง เสิร์ฟออนท็อปด้วยซาวร์ครีมแบบฝรั่งเศสและไข่ปลาคาเวียร์
คอร์สนี้ทางห้องอาหารแนะนำให้แพร์ริ่งกับคอมบูฉะ Strawberry Sakura เริ่มต้นจากเบสที่มาจากชาเขียว ผสมกับเนื้อสตรอเบอร์รี่สด และกลิ่นสกัดจากดอกซากุระ หอมหวานละมุน
LANGOUSTINE
คอร์สที่สาม เมนูกุ้งแลงกุสทีนจากอิตาลีหรือเรียกกันอีกชื่อว่าเป็นเบบี้ล็อบสเตอร์ นำมาปรุงให้สุกในระดับกำลังดี เนื้อมีความนุ่มและเด้ง ด้านบนจะเป็นแอปเปิ้ลเขียวดองหั่นบางและดอกคาโมมายล์ เสิร์ฟพร้อมกับโฟมแครอทนินจิน ซึ่งจะเป็นแครอทญี่ปุ่นที่มีความหวานโดยธรรมชาติ
HOKKAIDO SCALLOP
คอร์สที่สี่ หอยเซลล์ฮอกไกโดเซียร์จนเกรียมนอกนุ่มใน คลุกด้วยผงฟูริคาเกะ หนึ่งในเครื่องปรุงประจำครัวเรือนของญี่ปุ่น ใช้โรยบนข้าวเพื่อเพิ่มรสชาติ ท็อปด้านบนด้วยไส้กรอกโชริโซ่ ด้านล่างจะมีกลิ่นหอมจากน้ำมันกระเทียมดำ เสิร์ฟโดยมีน้ำซุปใสที่มีส่วนผสมของปลาคัตสึโอะอบแห้ง
NORWEGIAN WILD COD
คอร์สที่ห้า ปลาคอดนำเข้าจากนอร์เวย์ ห่อด้วยผักแคล เสิร์ฟพร้อมกับสลัดหน่อไม้ญี่ปุ่น พาเมซานชีส ด้านบนเนื้อปลา จะใช้ซอสฮอแลนเดซผักโขมและหอยตลับ เชฟแนะนำให้ทานคู่กับหนังปลาคอดกรอบ เสิร์ฟด้านบนด้วยเยื่อไม้ไผ่จากประเทศญี่ปุ่นและซอสการ์ลิคครีม
ในคอร์สนี้ทางห้องอาหารแนะนำให้แพร์ริ่งเข้ากับคอมบูฉะ Extra Ordinary เบสเป็นชาเขียว ผสมกับส้มยูสีและส้มซันคิสต์ และมีการนำตะไคร้ ซึ่งเป็นสมุนไพรไทยเข้ามาเติมรสชาติอีกด้วย โดยรสชาติจะออกความเปรี้ยวและซ่า
FLEUR DE COURGETTE A LA BARIGOULE
เดินทางกันมาถึงคอร์สที่หก เชฟนำเสนอเมนูนี้ด้วยดอกซูกินีสดจากฝรั่งเศส ซึ่งจะออกดอกได้ดีในฤดูร้อนเท่านั้น เสิร์ฟคู่กับอาร์ติโชก เบชาแมลซอสที่ปรุงให้มีกลิ่นอายตะวันออกด้วยมิโสะ ออนท็อปด้วยทรัฟเฟิลออสเตรเลียฝานบาง
คอมบูฉะที่แพร์ริ่งเข้ากับเมนูนี้คือ Earl Grey Imperial เบสเป็นชาเอิร์ลเกรย์ มีรสของมะม่วง แอปเปิ้ลเขียว และใบมะกรูด และดอกกุหลาบ จะมีความหวานที่มีกลิ่นสมุนไพรเบาๆ
DRY AGED BARBARY DUCK
คอร์สที่เจ็ด เป็นเมนคอร์สซึ่งตามคอร์สจะเป็นเมนูเนื้อซัทซึมะวากิว แต่ถ้าใครไม่อยากทานเนื้อสามารถเลือกเป็นเมนูเป็ดได้ โดยเมนูเป็ดจะเป็นเนื้ออกเป็ดบาบาร์รี เป็นเป็ดที่มีเนื้อแน่น หนังบาง และไม่มีกลิ่นตามธรรมชาติของเป็ดทั่วไป เชฟใช้กระบวนการดรายเอจ มาช่วยทำให้เนื้อมีความนุ่มมากยิ่งขึ้น อบด้วยเกลือคลุกพริกไทจากประเทศญี่ปุ่น และด้วยกระบวนการอบทั้งชิ้นรวมถึงตัวกระดูก ทำให้ได้ความหอมแบบธรรมชาติจากหนังเป็ดด้วย เสิร์ฟคู่กับฟัวกราส์ที่ถูกตกแต่งให้เป็นรูปเป็ดตัวน้อย
KAMICHIKU A5 SATSUMA WAGYU
เมนคอร์สในเซ็ตเมนูจะเป็นเนื้อซัทซึมะวากิว เนื้อวากิวชั้นดี คัดพิเศษ จากจังหวัดคาโงะชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เชฟใช้คุณภาพของเนื้อในระดับ A5 มีลายชั้นมาร์บลิงอยู่ในเนื้อกระจายตัวสวยงาม ทำให้เนื้อมีความนุ่มละมุน เสิร์ฟคู่กับพัฟมันฝรั่งทอดไส้แกงกะหรี่ญี่ปุ่น และซอสพลัม
คอมบูชะที่ทานจับคู่กับเมนูเนื้อคือ Tropical Sunshine เบสจากชาดำผสมด้วยบีทรูด น้ำผึ้ง และโรสแมรี่
BINCHOTAN
ปิดท้ายเมนูด้วยของหวานสองอย่าง ที่เชฟบรรจงรังสรรค์มาอย่างดี สามารถเลือกได้ระหว่าง Binchotan ถ่านหินที่ผ่านการเผาไหม้แล้วจนเป็นสีขาว ด้านบนเป็นช็อคโกแลตผสมวิสกี้เป็นเปลือกนอกรสอ่อนนุ่ม ด้านในใส่ไอศกรีมรสส้มเย็นสดชื่น หรือ Mono เสิรฟ์มากับบัควีท (buckwheat) วานิลลารมควัน และ เวอร์บีนามะนาวเพื่อเพิ่มความหอมสดชื่น
SHIMIZU PEACH
ชิมิซุพีชเป็นผลไม้ที่เปรียบได้กับราชินีพีช เนื่องจากมีผลสีขาวนวล และมีความหวานมากที่สุดในกลุ่มพีช เสิร์ฟคู่กับไอศกรีม Smoke Vanilla และ Lemon Verbena ที่ให้ความหอมและสดชื่นด้วยกลิ่นซิตรัส
คอมบูฉะที่แพร์ริ่งกับของหวาน เชฟแนะนำ Yuzu Koffucha ที่มีส่วนผสมเบสมาจากกาแฟอะราบิกา 100% และน้ำตาลทรายแดง ส้มยูสุ และแอปเปิ้ลเขียว เมื่อกอื่มจะได้กลิ่นหอมหวานของกาแฟและมีรสชาติเปรี้ยวซ่า
MIZU EXPERIENCE 5,900++THB
A JOURNEY WITH HOME-BREWED KOMBUCHA 1,400++THB
นับได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจทั้งรสชาติเมนูอาหารที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์ เครื่องดื่มที่ให้ความซับซ้อนแต่กรุ้มกริ่มในลำคอ ยกแก้วขึ้นจิบแทบไม่ได้วาง บริการที่นอบน้อมให้ความรู้สึกเป็นมิตรอย่างจริงใจของทีมงานภายในห้องอาหาร แนะนำเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะมากันเป็นครอบครัว คู่รัก หรือกลุ่มเพื่อนสนิท เราการันตีได้เลยว่าทุกคนจะต้องประทับใจในประสบการณ์ที่ได้รับเหมือนที่เราประทับใจอย่างแน่นอน
เซ็ตเมนู Summer Guestronomic Journey ที่ห้องอาหาร Elements Inspired by Ciel Bleu ตั้งอยู่ชั้น 25 ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok เปิดให้บริการวันพุธถึงวันอาทิตย์ เฉพาะมื้อค่ำ เวลา 18.00 – 22.30 น. โดยชุดเมนู 4 คอร์ส Ku-Ki Experience ราคา 3,800++ บาท ชุดเมนู 6 คอร์ส Chikyu Experience ราคา 4,600++ บาท และ ชุดเมนู 8 คอร์ส Mizu Experience ราคา 5,900++ บาท