ฤดูใบไม้ร่วงถือเป็นอีกหนึ่งฤดูท่องเที่ยวสำหรับประเทศนิวซีแลนด์ เพราะท่านจะได้ซึมซับธรรมชาติอันสวยงามของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่แต่งแต้มทั่วทั้งเกาะให้งดงามท่ามกลางความเงียบสงบ ในอากาศแสนเย็นสบาย ที่เชิญชวนให้ทั้งผู้คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวได้ออกมาดื่มด่ำธรรมชาติที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้สีสดที่ร่วงโรย พร้อมเพลิดเพลินไปกับผลผลิตสดใหม่ประจำฤดูกาล กิจกรรมและเทศกาลสุดพิเศษอีกมากมาย จึงนับได้ว่าเป็นช่วงเวลาเหมาะสำหรับการพักผ่อน และทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นอย่างมาก
Autumn Essentials
ข้อควรรู้สำหรับการท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วง
ฤดูใบไม้ร่วงในประเทศนิวซีแลนด์ เริ่มต้นในช่วงเดือนมีนาคม จนถึงปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งในตอนเหนือของเกาะจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10 – 20 องศาเซลเซียส ในขณะที่ทางตอนใต้ จะมีอุณหภูมิต่ำกว่าอยู่ที่ประมาณ 5 – 15 องศาเซลเซียส
เพื่อช่วยให้คุณวางแผนการเดินทาง พร้อมเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมต่างๆ ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนี้ เราได้รวบรวมลิสต์อุปกรณ์ต่างๆ ที่คุณควรเตรียมไปสำหรับการท่องเที่ยวในสภาพอากาศเย็นสบายของนิวซีแลนด์แล้ว
- เสื้อผ้าที่สามารถสวมทับได้หลายชั้น : เนื่องจากสภาพอากาศของประเทศนิวซีแลนด์อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค แนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี และสามารถสวมทับกันได้ เช่น เสื้อแขนยาว เสื้อสเวตเตอร์ และคาร์ดิแกน เพื่อเลือกสวมใส่ได้ตามสภาพอากาศที่อาจเย็นลงหรือร้อนขึ้นตลอดทั้งวัน
- อุปกรณ์สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง : ถ้าคุณวางแผนจะลุยไปกับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การเดินป่า แล้วละก็ เราขอแนะนำให้เตรียมรองเท้าหรือรองเท้าบูทกันน้ำ กระเป๋าเป้สำหรับเดินป่า และเสื้อผ้าที่สบายคล่องตัว สำหรับการเดินทางไกลหรือเดินป่าเยี่ยมชมธรรมชาติ
- อุปกรณ์กันแดด : แม้อากาศจะเย็นสบายแต่ก็อาจมีแดดแรงได้ในช่วงกลางวัน อย่าลืมพกแว่นกันแดด ครีมกันแดด และหมวกไปเพื่อปกป้องผิวของคุณจากรังสียูวีระหว่างการท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด ประจำฤดูใบไม้ร่วง
ดื่มด่ำบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี
ฤดูใบไม้ร่วงในประเทศนิวซีแลนด์ ภูมิทัศน์ทั่วทั้งเกาะจะถูกแต่งแต้มไปด้วยโทนสีแสนอบอุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวสายธรรมชาติเป็นอย่างมาก โดยช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีคือ ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่ใบไม้จะเปลี่ยนสีอย่างเต็มที่
ในประเทศนิวซีแลนด์นั้น เต็มไปด้วยเส้นทางระยะสั้นที่พร้อมให้คุณได้เดินสำรวจและดื่มด่ำไปกับธรรมชาติอันสวยงามของฤดูใบไม้ร่วงสุดโรแมนติก ตั้งแต่ทางในอุทยานแห่งชาติไปจนถึงเส้นทางเดินป่าต่างๆ ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี ในช่วงฤดูกาลนี้มาให้สำหรับทริปถัดไปของคุณ
- แอร์โรว์ทาวน์ (Arrowtown), เซ็นทรัล โอทาโก (Central Otago)
เมืองแห่งเหมืองแร่ทองคำเก่าแก่ ตั้งอยู่ ณ ใจกลางของเขตโอทาโกตอนกลาง พร้อมให้คุณได้เยี่ยมชมทั้งความสวยงามของเหล่าใบไม้เปลี่ยนสีที่ปกคลุมทั่วทั้งเมือง เสน่ห์ของอาคารเก่าแก่ประจำเมืองแอร์โรว์ทาวน์ ไปพร้อมกับเข้าร่วมเทศกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตในฤดูใบไม้ร่วง ท่ามกลางมนต์ขลังของประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งเมืองทองคำ นอกจากสีสันอันน่าค้นหาแล้ว เมืองแอร์โรว์ทาวน์ยังแฝงไปด้วยความสงบสุขที่รอให้คุณได้มาสัมผัสด้วยตนเอง เพียงได้เดินปล่อยใจดื่มด่ำบรรยากาศริมทะเลสาบ พร้อมรับชมทิวทัศน์สวยสะกดจากใบไม้เปลี่ยนสีรอบตัวเมือง เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีความสวยงามของเมืองเก่า ผสานกับเสน่ห์ของธรรมชาติแสนเงียบสงบได้อย่างลงตัว ชมเส้นทางการเดินชมธรรมชาติที่ดีที่สุดในเขตนี้
- วานากา (Wānaka), โอทาโก (Otago)
เมืองอันแสนเงียบสงบนี้ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบวานากา (Lake Wānaka) โอบล้อมด้วยภูเขาสวยสูงตระหง่าน ที่เติมเต็มด้วยสีสันอบอุ่น สะดุดตาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับเมืองเล็กๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเดินปล่อยใจ ปั่นจักรยานชมวิว หรือเดินป่าเพื่อดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์สุดงดงาม โดยในช่วงโลว์ซีซั่นอย่างฤดูใบไม้ร่วง คุณจะสามารถสัมผัสกับทั้งทิวทัศน์สวยสะกด น้ำใสราวกับกระจก และเทศกาลต่างๆ ภายในท้องถิ่น พร้อมเป็นหนึ่งกับธรรมชาติของเมืองริมทะเลสาบนี้ได้อย่างเต็มที่ ชม 5 เส้นทางการเดินชมธรรมชาติที่ดีที่สุดในเขตนี้
- ทะเลสาบเทคาโป/เทคาโป, แคนเทอร์เบอรี
เชื่อว่าเพียงแค่ก้าวเข้าสู่ทะเลสาบเทคาโป (Lake Tekapo) ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ก็จะได้รับชมการบรรเลงของสีสันจากใบไม้เปลี่ยนสี ตัดกับฉากหลังของธรรมชาติสุดตระการตา พร้อมทั้งทิวทัศน์ของผืนน้ำใสระยิบระยับราวกับกระจกสะท้อนสีสันของฤดูใบไม้ร่วงและเทือกเขาแอลป์ที่ทอดยาวสุดสายตา ที่ได้ฝากความประทับใจให้ผู้ที่ได้รับชมแบบไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน ไม่ว่าคุณจะเดินป่ารับชม และสัมผัสธรรมชาติด้วยตนเอง หรือเก็บภาพความทรงจำผ่านเลนส์กล้อง ฤดูใบไม้ร่วงถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในการสำรวจความงดงามของเมืองทะเลสาบแห่งนี้ ลิสต์เส้นทางที่ห้ามพลาดเมื่อได้ไปเยือนไว้ได้เลย
เยี่ยมชมไร่องุ่น
ฤดูใบไม้ร่วงถือเป็นฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวของประเทศนิวซีแลนด์ ทำให้เป็นเวลาที่เหมาะแก่การเยี่ยมชมไร่องุ่นและโรงบ่มไวน์ ที่พร้อมให้คุณได้ลิ้มรสไวน์จากเกาะใต้ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก และหากมีเวลาเพียงพอ การได้พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศของไร่องุ่นสักคืนหลังจากการท่องเที่ยวสำรวจมาทั้งวัน อาจกลายเป็นประสบการณ์การพักผ่อนอันแสนพิเศษที่ยากจะลืมเลือนและดึงให้คุณอยากกลับมาเยือนนิวซีแลนด์ครั้งแล้วครั้งเล่า วันนี้เราได้รวบรวม 5 ไร่องุ่นที่คุณห้ามพลาดเมื่อได้ไปเยือนเกาะใต้แห่งนี้
- ไร่องุ่น Cloudy Bay Vineyard, เซ็นทรัล โอทาโก (Central Otago)
แหล่งผลิตไวน์ชื่อดัง ตั้งอยู่ในเขตโอทาโกตอนกลาง เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกองุ่นที่อยู่ใต้สุดของโลก Cloudy Bay นั้นเป็นที่รู้จักจากไวน์ปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) ที่ได้ชื่อว่าเป็นไวน์ที่มีรสชาติระดับโลก ดื่มด่ำไปกับโลกแห่งไวน์ชั้นดีและสุนทรียศาสตร์ของอาหาร ไปกับประสบการณ์การชิมไวน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมทั้งลิ้มรสอาหารกูร์เมต์จากวัตถุดิบในท้องถิ่นและเมนูตามฤดูกาล
- ทัวร์จักรยานเยี่ยมชมโรงไวน์ (Biking Wine Tours), มาร์ลโบโรห์ (Marlborough)
อีกหนึ่งกิจกรรมที่คอไวน์ห้ามพลาด เมื่อมาเยือนเมืองมาร์ลโบโรห์ คือการเช่าจักรยานทัวร์ไร่องุ่นและโรงไวน์เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศและเพิ่มสีสันให้กับทริปของคุณ ชมวิวไร่องุ่นที่ทอดยาวสุดสายตาท่ามกลางบรรยากาศของเมืองมาร์ลโบโรห์ ภูมิภาคที่ปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์โซวินญง บลอง (Sauvignon Blanc) ที่ใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์
- โรงไวน์ Church Road Winery, อ่าวฮอว์ค (Hawke’s Bay)
สำรวจพร้อมไขคำตอบของ ความเป็นเลิศของโรงไวน์ Church Road หนึ่งในโรงไวน์ยุคบุกเบิก ที่ตั้งอยู่ ณ อ่าวฮอว์ค ภูมิภาคแห่งการผลิตไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในนิวซีแลนด์ โรงไวน์ Church Road ขึ้นชื่อว่าเป็น “ที่แรก” ในนิวซีแลนด์ที่ผลิตไวน์แดงสไตล์ บอร์กโดซ์ (Bordeaux-style) สุดพิเศษ เมื่อมาที่นี่คุณจะได้สัมผัสทุกประสบการณ์ครบจบทุกเรื่องไวน์ เพราะที่นี่พร้อมให้คุณได้ทั้งศึกษาปรัชญาการผลิตไวน์อันเข้มข้น ทัวร์ชมโรงหมักไวน์ และพิพิธภัณฑ์ใต้ดินที่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และชิมไวน์รสเลิศที่ยังไม่มีวางจำหน่ายที่ไหนได้ก่อนใคร ถือเป็นสวรรค์ของคนรักไวน์เลยทีเดียว
- ไร่องุ่น Mt Rosa Lodge & Vineyard, ควีนส์ทาวน์ (Queenstown)
ไร่องุ่นและโรงแรม Mt Rosa Lodge & Vineyard จุดหมายสุดฮีลใจที่จะโอบรับคุณด้วยประสบการณ์สุดพิเศษและทิวทัศน์ที่ยากจะละสายตาของเทือกเขาแอลป์ตอนใต้ พร้อมมอบสถานที่พักผ่อนในฝันสำหรับผู้ที่แสวงหาบรรยากาศแสนเงียบสงบ ที่นี่คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการสำรวจไร่องุ่นและเรียนรู้กระบวนการผลิตไวน์ พร้อมกับการชิมไวน์ชั้นดีประจำควีนส์ทาวน์ รวมไปถึงไวน์ปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) และปิโนต์ กรี (Pinot Gris) ที่ขึ้นชื่อด้วย เติมเต็มทริปของคุณด้วยการชมดาวที่ส่องแสงไปทั่วท้องฟ้าในเขตกิบบ์สตัน (Gibbston) ยามค่ำคืน ไปในทัวร์ดาราศาสตร์กับ ศาสตราจารย์ไบรอัน บอยล์ (Professor Brian Boyle) นักดาราศาสตร์ท้องถิ่น ที่พร้อมให้คุณได้เก็บภาพความทรงจำของภาพความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่จะติดตาตรึงใจคุณไปอีกยาวนาน
- ไร่ไวน์ Matawhero Wines, ไตรวิตี กิสบอร์น (Tairāwhiti Gisborne)
พักผ่อนหย่อนใจที่ไร่องุ่น Matawhero Wines บ้านพักสุดหรูหราดีไซน์กระท่อมกลางชนบท ที่จะมาเติมเต็มทริปของคุณด้วยทิวทัศน์ของไร่องุ่นสุดต้องมนต์ที่พร้อมให้คุณพักใจจิบไวน์และทานอาหารเลิศรสในบรรยากาศส่วนตัว เมื่อมาเยือนก็พลาดไม่ได้กับไฮไลต์อย่าง ไวน์ ซัน โรเซ่ (Sun Rosé) ไวน์สีสวยชื่อดังของภูมิภาคที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรสชาติของความหวานละมุนของผลไม้ชั้นดี ถ่ายทอดความสดชื่นแสงแดดแสนอบอุ่นของเขตไทราฟิติได้อย่างดีเยี่ยม
เก็บผลผลิตสดใหม่ – จากฟาร์มสู่จานอาหารของคุณ
เมื่อนึกถึงฤดูใบไม้ร่วงในประเทศนิวซีแลนด์นั้นนอกจากความสวยงามแล้ว ยังขึ้นชื่อว่าเป็นฤดูของความอุดมสมบูรณ์ในด้านอาหารที่เราอยากเชิญชวนให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ทั้งอาหารทะเลสดใหม่ และบรรดาวัตถุดิบชั้นเยี่ยม ด้วยสภาพอากาศที่เย็นลง ฤดูนี้จึงเป็นช่วงเวลาอันดีเยี่ยมในการเก็บเกี่ยวอาหารทะเลสดๆ อย่าง หอยแมลงภู่ หอยนางรม และปลานานาชนิด การเพิ่มกิจกรรมเก็บผลผลิตประจำฤดูกาลทานเองเข้าลิสต์ของคุณเป็นวิธีอันยอดเยี่ยมในการเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมอันแตกต่างของดินแดนที่คุณกำลังเยี่ยมชม และเหมือนเป็นการได้ทำความรู้จักกับความพิเศษของผลผลิตทั้งพืชและสัตว์ของหมุดหมายการท่องเที่ยวในฝันของคุณมากขึ้นอีกด้วย
เพื่อเพิ่มความพิเศษให้กับทริปนี้ของคุณ เราได้รวบรวมประสบการณ์การทานอาหารโมเดิร์นสไตล์พื้นเมืองจากฟาร์มถึงจานคุณ ที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อได้มาเยือนนิวซีแลนด์
- เรียนทำอาหารกับร้าน Hapuku Kitchen, ไคคูรา (Kaikōura)
ครัวชื่อดังที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการเก็บผลผลิตสดใหม่จากฟาร์มสู่ทุกจานและการมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ถูกรังสรรค์มาอย่างยอดเยี่ยมให้แก่ทุกคนที่ได้เคยลิ้มลอง คุณสามารถเข้าร่วมคลาสสอนทำอาหารสั้นๆ จาก Hapuku Kitchen เก็บและปรุงผลผลิตสดใหม่ประจำฤดูกาลจากสวนของร้านอาหาร ที่จับคู่กับไวน์หรือเบียร์ได้อย่างลงตัวในทุกเมนู
- ทัวร์เก็บหอยนางรมจากฟาร์ม Shuckleferry Oysters, มาฮูรางงิ (Mahurangi)
ฟาร์มหอยนางรมนี้ตั้งอยู่บนผืนน้ำของท่าเรือมาฮุรางงิอันเก่าแก่ ขึ้นชื่อว่าเป็นฟาร์มที่เพาะเลี้ยงหอยนางรมที่มีคุณภาพดีและสดที่สุดในภูมิภาค ซึ่งหอยนางรมเกรดพรีเมี่ยมเหล่านี้เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของฟาร์มในการใช้แผนดำเนินธุรกิจที่มีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อโลกของเรา เรียกว่าได้ทั้งเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการเพาะเลี้ยงหอยนางรม พร้อมทั้งลิ้มลองรสชาติของหอยนางรมอันเลื่องชื่อ ถือเป็นอีกกิจกรรมที่คุณไม่ควรพลาด
- จับแซลมอนจากฟาร์ม High Country Salmon, ทวิเซล (Twizel)
ตกปลาแซลมอนพันธุ์ชินุค (Chinook Salmon) จากธารน้ำแข็งกันแบบสดๆ ที่ฟาร์ม High Country Salmon โดยทางฟาร์มจะทำความสะอาดปลาที่คุณจับเองให้ พร้อมแพ็กกลับบ้านหรือเสิร์ฟสดๆ ให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติที่คุณชื่นชอบ ทั้งแบบซาชิมิและย่าง ที่สำคัญถึงจะตกปลาไม่เป็นก็สามารถร่วมกิจกรรมนี้ได้
- เรียนรู้จากอาหารไปกับ Urban Forage Tour, โอ๊คแลนด์ (Auckland)
ร่วมสำรวจและเรียนรู้เกี่ยวกับภูมิทัศน์ของเมืองโอ๊คแลนด์และเหล่าพืชพันธุ์ที่สามารถทานได้ ไปกับทัวร์เก็บอาหารป่า Urban Forage Tour ที่จัดขึ้นโดย New Zealand School of Food and Wine ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งโปรแกรมจะเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์ทางพฤกษศาสตร์ตามฤดูกาล พร้อมให้คุณได้เพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับความอุดมสมบูรณ์ของอาหารป่าตามฤดูกาล เรียนรู้การระบุและเก็บเกี่ยวผลไม้ตามฤดูกาล ถั่ว และพืชที่กินได้ภายใต้การแนะนำของอาจารย์ผู้สอนที่มีความรู้
- พบความอร่อยจากการผจญภัย Forage and Feast, วานากา (Wānaka)
ร่วมการผจญภัยไปกับเส้นทางอันสวยงามในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่จะพาคุณไปพบกับความอร่อยของธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของเขตวานากา นำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บอาหารป่าที่พร้อมส่งต่อความรู้เกี่ยวกับทุกอย่างที่สามารถทานได้ในป่าของภูมิภาคนี้ ซึ่งความสนุกอยู่ที่เชฟจะนำวัตถุดิบที่คุณรวบรวมได้ เปลี่ยนสมบัติเป็นมื้ออาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมนูท้องถิ่น เป็นเมนูสุดพิเศษจากสมบัติอันล้ำค่าระหว่างการผจญภัยของคุณ
เทศกาลต่างของประเทศนิวซีแลนด์ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
ฤดูใบไม้ร่วงของนิวซีแลนด์นั้นนอกจากจะเต็มไปด้วยสีสันของใบไม้แล้ว ยังถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของเทศกาลมากมาย โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ตั้งแต่วัฒนธรรมไปจนถึงอาหาร ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมได้ตลอดทั้งฤดู ซึ่งเราได้รวบรวมเทศกาลดีๆ ที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อถึงช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
1. เทศกาล Hokitika Wildfoods, โฮกิติกา (Hokitika) – 9 มีนาคม 2567
เทศกาล Wildfoods จัดขึ้นในเดือนมีนาคมของทุกปี เพื่อเฉลิมฉลองความเป็นเมืองแห่งอาหารป่าที่แปลกแหวกแนวประจำประเทศนิวซีแลนด์ ภายในเทศกาลจะเต็มไปด้วยเมนูพื้นเมืองและเมนูแปลกทั้งหลาย อย่าง เนื้อด้วงฮูฮู (Huhu grubs) ไปจนถึงลูกปลาเกล็ดขาวชุบแป้งทอด (Whitebait Fritters) นอกเหนือจากความเพลิดเพลินในการรับประทานเมนูอาหารอันหลากหลายแล้ว เทศกาลนี้ยังรวบรวมสีสันและความมีชีวิตชีวาในวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ของประเทศนิวซีแลนด์ไว้ด้วยอย่างการแสดงต่างๆ ดนตรีสด และกิจกรรมสนุกๆ อีกมากมาย ครบจบทุกความบันเทิงและถือเป็นเทศกาลที่ทุกคนควรจัดลงลิสต์เมื่อได้มา
2. เทศกาลดนตรีประจำเดือนมีนาคม
เดือนมีนาคมจัดเป็นเดือนที่เต็มไปด้วยเสียงดนตรี เพื่อเฉลิมฉลองให้กับเหล่านักดนตรีคุณภาพของประเทศนิวซีแลนด์ ปล่อยใจแล้วเต้นให้สุดเหวี่ยงไปกับท่วงทำนองจากเทศกาลดนตรีมากมายที่จัดขึ้นทั่วทั้งประเทศ ตั้งแต่เทศกาลการรวมตัวท็อปของประเทศอย่าง Homegrown Music Festival ไปจนถึงเทศกาลสำหรับขาแดนซ์ท่ามกลางบรรยากาศริมน้ำ ประจำเมืองโอ๊คแลนด์อย่าง Beacon Festival ไม่ว่าคุณจะอินกับแนวเพลงไหน นิวซีแลนด์พร้อมจัดเต็มให้ทั้งเดือนแน่นอน
3. เทศกาลภาพยนตร์ Māoriland , โอตากิ (Ōtaki) – 20 ถึง 24 มีนาคม 2567
เทศกาลภาพยนตร์ Māoriland จัดขึ้นที่เมืองริมทะเลอย่าง โอตากิ (Ōtaki) และถือเป็นเทศกาลภาพยนตร์ชนพื้นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกตอนใต้ และกำลังจะเข้าสู่ครั้งที่ 11 ของเทศกาลในปี 2567 นี้ จึงเป็นโอกาสอันดีของนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกที่รักในศิลปะ ภาพยนตร์ และวัฒนธรรม เพื่อมาเป็นพยานและร่วมเฉลิมฉลองกับเสียงและการเล่าเรื่องของชนพื้นเมืองถ่ายทอดสู่จอให้ทั่วโลกได้รับฟัง
4. เทศกาลอาหาร Flavours of Plenty, ทารองกา (Tauranga) – 4 ถึง 14 เมษายน 2567
เทศกาลประจำอาหารปีนี้ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองมรดกทางอาหารอันอุดมสมบูรณ์ของภูมิภาค อ่าวเพลนตี้ (Bay of Plenty) แหล่งอาหารที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา และอิทธิพลทางวัฒนธรรมที่หลากหลายสมชื่อเรียก เพลิดเพลินไปกับซุ้มขายอาหารเมนูนานาชนิดที่สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตรของภูมิภาคและสมบัติล้ำค่าริมชายฝั่งแห่งนี้ ความสนุกของอาหารยังไม่จบเพียงเท่านี้ เทศกาลนี้ยังมีการสาธิตการทำอาหารกันแบบสดๆ เวิร์กช็อปด้านอาหาร และช่วงชิมอาหาร ที่คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารจานพิเศษและเทคนิคการทำอาหารต่างๆ ของภูมิภาคได้อีกด้วย
5. เทศกาลฤดูใบไม้ร่วง เมืองแอร์โรว์ทาวน์, แอร์โรว์ทาวน์ (Arrowtown) – 25 ถึง 28 เมษายน 2567
เทศกาลนี้จัดขึ้นในเมือง แอร์โรว์ทาวน์ (Arrowtown) เมืองเหมืองแร่ทองคำเก่าแก่แห่งเกาะใต้ เพื่อแสดงความเคารพต่อความมั่งคั่งทางประวัติศาสตร์ ชูจุดเด่นของธรรมชาติอันน่าทึ่ง และความงามของเหล่าใบไม้เปลี่ยนสีที่ปกคลุมทั่วทั้งเมืองในฤดูใบไม้ร่วง เสริมด้วยเทศกาลและกิจกรรมต่างๆ ที่เชิญชวนให้คุณร่วมเป็นพยานในเสน่ห์ความมีชีวิตชีวาของเมือง ทั้งการแสดงสด ขบวนพาเหรดที่ทอดยาวทั่วทั้งถนนของเมืองแอร์โรว์ทาวน์ ไฮไลต์สำคัญประจำเทศกาล และกลุ่มผู้คนท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยพลังความสร้างสรรค์
ที่พักแนะนำสำหรับการฮีลใจในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
เพราะการพักผ่อนเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นการได้พักผ่อนในที่พักดีๆ ที่มอบพื้นที่ให้คุณได้ซึมซับบรรยากาศของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในนิวซีแลนด์ได้อย่างเต็มที่ ถือเป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเมื่อวางแผนการเดินทาง เราจึงได้รวบรวมที่พักแนะนำสุดฮีลใจ ที่คุณจะได้มีช่วงเวลาดีๆ ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมาให้ จะมีที่ไหนบ้างไปดูกัน
1. Hidden Springs, ไวคีโน (Waikino)
เพลิดเพลินท่ามกลางธรรมชาติสวนสวยและทิวทัศน์สุดงดงาม ภายในกระท่อมที่ถูกออกแบบมาอย่างดีเพื่อความสบายและความเป็นส่วนตัว พร้อมให้คุณดื่มด่ำกับธรรมชาติแสนเงียบสงบของเขตไวคีโน (Waikino) ผ่อนคลายจากวันอันเหนื่อยล้าด้วยการแช่น้ำแร่ธรรมชาติในอ่างน้ำร้อนกลางแจ้ง ที่มีความเป็นส่วนตัวและพาคุณให้ปล่อยใจไปกับทิวทัศน์ของฤดูใบไม้ร่วงที่ยากจะลืมเลือน
2. Puketui Forest Escape, เทาโป (Taupō)
หลีกหนีจากความวุ่นวาย และดื่มด่ำไปกับความเงียบสงบของป่าพื้นเมืองที่โรงแรม Puketui Forest Escape ตั้งอยู่ใจกลางป่า Puketui กระท่อมสุดหรูหรานี้ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมมอบทริปสุดพิเศษที่คุณสามารถเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติอันเงียบสงบ และเพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวโดยไม่ทำร้ายป่า
3. Te Hau Tiny House, มาร์ลโบโรห์ (Marlborough)
บ้านพักเล็กจิ๋วสุดมินิมอลริมชายฝั่งนี้ พร้อมเป็นสถานที่พักผ่อนอันแสนอบอุ่นท่ามกลางภูมิทัศน์อันสวยงามของภูมิภาคมาร์ลโบโรห์ (Marlborough) ให้กับทริปนิวซีแลนด์ของคุณแล้ว ชมแสงแรกของวันกระทบชายฝั่งเกาะทางเหนือในช่วงเช้า พร้อมทั้งวิวอันน่าทึ่งของประภาคารเคป แคมเบลล์ (Cape Cambell) และทะเลสาบกลาสเมียร์ (Grassmere) พร้อมรับชมดวงดาวพร่างฟ้าเมื่อตะวันตกดิน มอบประสบการณ์การพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันแสนน่าจดจำ
4. Silver Fern Lodge, เทาโป (Taupō)
ที่พัก Silver Fern Lodge ตั้งอยู่ใจกลางของเกาะตอนเหนือ ที่พร้อมมอบความสะดวกสบายและทิวทัศน์ของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีอันสวยงามตลอดการพักผ่อนของคุณ ตั้งอยู่ในทำเลที่แสนสะดวกทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองเทาโป (Taupō) ทั้งทะเลสาบ Taupo ที่สวยงาม อุทยานความร้อนใต้พิภพมากมายในนิวซีแลนด์ และความสนุกของการผจญภัยกลางแจ้ง อย่าง เดินป่า และ เล่นเจ็ตโบ๊ต (Jet Boat)
5. Millbrook Resort, แอร์โรว์ทาวน์ (Arrowtown)
Millbrook Resort รีสอร์ทสุดหรูและเงียบสงบ ถูกรายล้อมด้วยสีสันแสนอบอุ่นของฤดูใบไม้ร่วงอันน่าประทับใจของเมืองแอร์โรว์ทาวน์ (Arrowtown) ภายในมีสนามกอล์ฟ 27 หลุมที่ได้มาตรฐานระดับโลก ตลอดจนบ้านพักสไตล์กระท่อมกลางป่าและวิลล่าที่ซ่อนตัวอยู่ภายในธรรมชาติอันงดงาม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเพื่อการพักผ่อนอีกมากมาย รวมไปถึง สปาทรีตเมนต์ที่ได้รับรางวัล หรือจะเดินเล่น ปั่นจักรยานปล่อยใจเพลิดเพลินไปบนทางเดินที่ถูกสร้างมาเพื่อให้คุณได้ซึมซับความโรแมนติกของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
เลือกจองที่พัก New Zealand คลิกที่นี่