หลังจากเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ hom (หอม) ห้องอาหารไฟน์ไดนิ่งแห่งใหม่ล่าสุดพร้อมนำเสนอคอร์สเทสติ้งเมนู 10 โมเมนต์ หรือช่วงเวลาที่น่าจดจำ ชูวัตถุดิบท้องถิ่นจากทั่วเกาะภูเก็ตและทั่วภูมิภาคของประเทศไทย ผสมผสานกับรสชาติเฉพาะตัวจาก “Fermentation” (เทคนิคการหมักดองเพื่อชูรสชาติวัตถุดิบแบบธรรมชาติตามแบบโบราณ) เพื่อนำเสนอรสชาติที่แปลกใหม่เหนือความคาดหมาย
“hom (หอม) ยึดแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบเป็นอันดับแรก ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการที่พวกเราต้องมีความเข้าใจตั้งแต่ต้นกำเนิดจนถึงผลผลิตของวัตถุดิบที่เราสามารถหาได้บนเกาะภูเก็ตตลอดทั้งปีอย่างถ่องแท้” เชฟริคาร์โดนูเนส (Chef Ricardo Nunes) Chef de Cuisine แห่งห้องอาหาร hom (หอม) กล่าว “กระบวนการสร้างสรรค์เมนูของเราเริ่มต้นตั้งแต่การลงพื้นที่เยี่ยมชมฟาร์มท้องถิ่น ให้พวกเราได้เรียนรู้และทำความรู้จักกับวัตถุดิบแต่ละชนิด เพื่อสามารถนำมาปรุงอาหารได้ในช่วงเวลาที่วัตถุดิบให้รสชาติที่ดีที่สุด และต่อยอดไปถึงการทดลองสร้างสรรค์และดึงรสชาติใหม่ๆ จากวัตถุดิบที่สามารถหามาได้ด้วยเทคนิค Fermentation”
รสชาติอาหารที่เปี่ยมด้วยเรื่องราว
เริ่มต้นตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึงอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท แขกจะได้เห็นถึงความตระการตาจากมนต์ขลังของสถาปัตยกรรมไทยของ Sawan Pavillion ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องอาหาร hom (หอม) โดยมีคุณปีเตอร์ ลูคัส (Peter Lucas) ผู้จัดการห้องอาหารและทีมงาน คอยต้อนรับทุกท่านเพื่ออกเดินทางสัมผัสเส้นทางของรสชาติที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราว ผ่านคำบอกเล่าของทีมงาน ให้ทุกท่านได้ซึมซับเรื่องราวและบรรยากาศ
ขณะกำลังเดินไปยัง Sawan Pavillion ว่าด้วยเรื่องราวตำนานป่าหิมพานต์และดินแดนสวรรค์ ที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจของการออกแบบทั้งภายนอกและภายในของอาคารสีขาวที่งดงามอันวิจิตรแห่งนี้พร้อมไอน้ำที่เปรียบเสมือนหมอกควันบนก้อนเมฆที่ลอยอยู่จางๆ ทำให้แขกผู้มาเยือนทุกท่านได้รู้สึกว่ากำลังเดินอยู่บนสรวงสวรรค์ สู่จุดหมายปลายทางห้องอาหาร hom (หอม) ภายในห้องอาหาร hom (หอม)ถูกตกแต่งด้วยโทนสีเงิน และขาวไข่มุกสร้างความแวววาว เพิ่มความหรูหราและน่าตื่นตาตื่นใจ เช่นเดียวกับโคมระย้าที่แขวนอยู่เหนือศีรษะ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากดอกมณฑา ซึ่งต่อเนื่องมาจากคอนเซ็ปต์การออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากป่าหิมพานต์
หลังจากนั้นทุกท่านจะได้ก้าวเข้าสู่โลกของการสร้างสรรค์อาหารผ่าน Fermentation ซึ่งเป็นเทคนิคการปรุงอาหารที่สืบทอดมายาวนาน พร้อมสัมผัสรสชาติละการบริการที่น่าประทับใจที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในการเดินทางสู่ห้องอาหาร hom (หอม)อีกครั้ง
เมนูที่รังสรรค์ด้วยวัตถุดิบเป็นหัวใจสำคัญ
ทีมห้องอาหารหอมได้คัดสรรและเลือกวัตถุดิบจากเกษตรกรหรือผู้ผลิตท้องถิ่น เพื่อรักษาสมดุลของเศรษกิจแบบยั่งยืนกับชุมชนท้องถิ่นและยังสามารถชูวัตถุดิบของท้องถิ่นสู่นักท่องเที่ยวหรือนักชิมจากทั่วทุกมุมโลก โดยมิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีนี้ช่วยให้เกิดการแบ่งปันความรู้จากทั้งสองฝ่าย เกิดเป็นเกราะแข็งแกร่งเพื่อปกป้องทรัพยากรท้องถิ่นและป้องกันการผลิตที่มากเกินความจำเป็น หลังจากการเลือกสรรวัตถุดิบที่เติบโตหรืออยู่ใกล้เคียงเกาะภูเก็ตแล้ว ทีมจะทำการทดลองว่าเทคนิค Fermentation จะสามารถนำมาใช้เพื่อยกระดับวัตถุดิบจากกรรมวิธี Fermentation ในขณะที่ยังคงชูความเป็นธรรมชาติของส่วนผสมแต่ละชนิดได้อย่างไรบ้าง โดยมีคุณมาเทโอ โพลังโค (Mateo Polanco) ผู้เชี่ยวชาญด้าน Fermentation ประจำห้องอาหารหอม เป็นเบื้องหลัง ผู้ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับเชฟริคาร์โด ในการรังสรรค์รสชาติอาหารและเครื่องดื่มทุกเมนูที่จะนำเสนอภายในห้องอาหาร hom (หอม) ด้วยเทคนิค Fermentation เชฟริคาร์โดและคุณมาเทโอ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและนำเสนอรสชาติใหม่ๆ บนพื้นฐานของการค้นหา ความสงสัย และความหลงใหล ที่จะนำพารสชาติและเมนูสุดสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ผลลัพธ์จึงออกมาเป็นคอร์สเทสติ้งเมนู 10 โมเมนต์ ที่ผสมผสานทุกรสชาติและความสร้างสรรค์ได้อย่างลงตัวและน่าสนใจ โดยเป้าหมายสูงสุดของเชฟและทีมงาน คือ การสร้างความประทับใจเหนือความคาดหมาย ให้กับผู้ที่มารับประทานอาหารพร้อมเปิดประสาทการรับรสผ่านรสชาติใหม่ๆ จากวัตถุดิบที่คุ้นเคย
ขณะที่ทุกท่านกำลังตื่นตาตื่นใจกับกรรมวิธี Fermentation อาหารภายในโถแก้วที่ตั้งเรียงรายอยู่บนชั้นวางสุดอลังการที่มีชื่อว่า Wall of Creativity ทีมงานของ hom (หอม)จะเริ่มเสิร์ฟเครื่องดื่มเย็นๆ ในรูปแบบกระถางดอกไม้สีสันสดใส ที่มีส่วนผสมของเสาวรส น้ำสกัดจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และเกสรน้ำผึ้ง เพื่อเรียกความสดชื่น และเตรียมต่อมรับรสให้พร้อม
เริ่มต้นด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยอย่าง Ruby Pomelo ส้มโอทับทิมสีแดงสดหมักด้วยกุหลาบ ให้กลิ่นที่หอมหวนชวนให้คุณต้องตื่นเต้นไปกับการออกเดินทางสัมผัสรสชาติแปลกใหม่ตลอดทั้งมื้ออาหาร เตรียมรับรสสำหรับคอร์สถัดไป
ต่อเนื่องด้วยคอร์สที่สอง Coconut & Smoked Caviar คาเวียร์รมควันจากฟาร์มในหัวหิน เสิร์ฟมาในลูกมะพร้าวที่ถูกตัดแต่งให้เป็นชามจากธรรมชาติ พร้อมซอสแมคคาดิเมียพูเรและลูกตาลดอง แนะนำให้คุณขูดเนื้อมะพร้าวอ่อนก่อนคลุกเคล้าคาเวียร์ให้เข้ากันก่อนรับประทาน เพื่อให้ได้สัมผัสรสชาติของความสดใหม่ของมะพร้าว แทรกด้วยมิติรสชาติเฉพาะตัวจากคาเวียร์ที่เข้ากันอย่างลงตัว
ตามมาด้วย Baby Squid หมึกกะตอยปรุงสุกในเนยยีสต์ เสิร์ฟมาพร้อมน้ำซุปจากหมึกและใบเมี่ยงดอง น้ำซุปสีใสที่เปี่ยมด้วยรสชาติ แทรกความหวานบางๆจากตัวหมึก Wild Boar หมูป่าที่ผ่านกรรมวิธีการหมักเสิร์ฟพร้อมซอสข้าวบาร์เลย์ โคจิเข้มข้น และทุเรียนดำ การหมักเนื้อหมู จะทำให้ได้เนื้อหมูที่รสชาติเค็มกำลังดี อร่อยได้โดยกระบวนการธรรมชาติไม่ต้องปรุงรส
ปิดท้ายด้วยของหวานที่จะเสิร์ฟถึงสองโมเมนต์ โดยหนึ่งในนั้นจะเป็น Sunflower ของหวานหน้าตาสวยงามเสิร์ฟมาบนดอกทานตะวันสด ประกอบด้วยเมล็ดทานตะวันอามาซาเกะพาร์เฟ่ต์ โรยหน้าด้วยเกสรผึ้งที่ให้ความกรุบกรอบ ให้รสชาติที่เป็นธรรมชาติ และทำให้รู้สึกสดชื่นในทุกคำ
นอกจากนี้ hom (หอม) ยังพร้อมนำเสนอเครื่องดื่มหลากหลายเมนูจากกระบวนการหมักที่ทางร้านทำเองโดยเชฟมาเทโอ เพื่อเติมเต็มมื้ออาหารนี้ได้อย่างไร้ที่ติ รวมถึงตัวเลือกการจับคู่ไวน์กับอาหารจากทั้งไวน์แบบเนเชอรัล ออแกนิค และไบโอไดนามิก
โดยเทสติ้งเมนู 10 โมเมนต์ ราคา 3,750++ บาท ต่อท่าน ตัวเลือกเครื่องดื่มแพร์ริ่งสามารถเลือกได้ทั้งแบบเครื่องดื่มหมัก 950++ บาทต่อท่าน และไวน์แพร์ริ่ง 2,750++ บาทต่อท่าน
สำรองที่นั่งได้ทางเว็บไซต์ www.hom-restaurant.com หรืออินสตาแกรม @homrestaurant
hom (หอม) เปิดให้บริการทุกวันอังคารถึงวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 18:30น.