อัพเดตข้อมูลจากงานสัมมนา “Journey With Hyatt Across Asia 2022” ที่จัดขึ้นโดย ไฮแอท โฮเทลส์ คอร์ปอเรชั่น เอเชียแปซิฟิก ณ โรงแรม พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการอัพเดตเทรนด์การเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกในปัจจุบัน พร้อมแนะนำแบรนด์โรงแรมและรีสอร์ตของไฮแอทในกลุ่มลักซ์ชัวรีและไลฟ์สไตล์ ได้แก่ Park Hyatt, Alila, Andaz, Hyatt Centric และ The Unbound Collection by Hyatt ที่เปิดและกำลังจะเปิดตัวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตอกย้ำความพร้อมในการต้อนรับนักเดินทางที่ต้องการประสบการณ์การเดินทางที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นของนักเดินทาง รวมถึงประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใครอีกด้วย
Carina Chorengel, Senior Vice President Commercial Asia-Pacific for Hyatt โฮสผู้จัดงานสัมมนาครั้งนี้ ได้กล่าวย้ำถึงภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคงเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพอันมหาศาลและมีอัตราการขยายตัวทางด้านการท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว ไฮแอทจึงเดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ลักซ์ชัวรีและไลฟ์สไตล์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของตลาดได้ดีมากยิ่งขึ้น
Carina ยังเผยเพิ่มเติมอีกว่า “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในช่วงต้นปี 2022 มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางเพื่อพักผ่อน ผู้คนต้องการที่จะกลับไปท่องเที่ยวพักผ่อนได้อย่างปกติเหมือนก่อนเกิดโรคระบาด และมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ มากขึ้น ตลอดจนกลับไปเยือนสถานที่ที่พวกเขาเคยประทับใจอีกครั้ง
จากการเก็บข้อมูลของไฮแอทเอง พบว่านักเดินทางมีความต้องการที่พักระดับพรีเมียมมากยิ่งขึ้น และมีการพักที่ยาวนานขึ้น จากเดิมอาจจะเริ่มต้นพักทริปละสามวันเป็นส่วนใหญ่ ปัจจุบันนักเดินทางจะเลือกพักตั้งแต่ระดับหนึ่งสัปดาห์จนถึงหนึ่งเดือนขึ้นไป ระดับห้องพักที่นักเดินทางเลือกพักในปัจจุบันนั้นยังเลือกห้องระดับพรีเมียมกันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ห้องระดับสูงกลับกลายเป็นห้องที่ได้รับการจองในระยะเวลาที่ยาวนานและเต็มอย่างรวดเร็ว
ไฮแอท โฮเทลส์ คอร์ปอเรชั่น ได้ขยายพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นผู้นำในด้านการท่องเที่ยวที่หรูหราและพักผ่อนระดับโลก ด้วยการเพิ่มแบรนด์ลักซ์ชัวรีและไลฟ์สไตล์เข้ามาในพอร์ตของไฮแอทอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น Alila, Thompson Hotels, Apple Leisure Group และล่าสุดได้เพิ่มแบรนด์ลักซ์ชูรีที่ให้บริการแบบรวมทุกอย่างเบ็ดเสร็จ All-Inclusive เพิ่มอีก 9 แบรนด์ อาทิเช่น Hyatt Ziva, Hyatt Zilara, Zoëtry และ Alua Hotels & Resorts เป็นต้น เพื่อนำเสนอจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบ สำหรับทุกไลฟ์สไตล์และทุกช่วงวัยของชีวิต ด้วยประสบการณ์ที่ไร้ขีดจำกัด
3 แนวโน้มภาพการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหลังวิกฤติโรคระบาด
นักเดินทางที่ชื่นชอบความหรูหราจำนวนมาก ต้องการแสวงหาประสบการณ์เฉพาะตัวที่ตรงใจ ซึ่งทำให้พวกเขามีความรู้สึกถึงสถานที่และสอดคล้องกับค่านิยมส่วนตัวของพวกเขา
1 ) A Recovery Led By Leisure Travel
การเดินทางเพื่อการพักผ่อนยังคงเป็นเป้าหมายหลักของนักเดินทาง พวกเขาใช้จ่ายมากขึ้น เดินทางและอยู่นานขึ้นเพื่อเติมเต็มความปรารถนาสำหรับประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน และยังมีไลฟ์สไตล์ในการผสมผสานการใช้ชีวิตแบบ “workations” และ “bleisure” คือ การใช้ชีวิตแบบผสมผสานระหว่างการพักผ่อนและการทำธุรกิจควบคู่ไปกับการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ นั่นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้พวกเค้าเข้าพักนานขึ้น และเหนือสิ่งอื่นใดพวกเค้าก็ให้ความสำคัญกับสุขภาพของตนเองหรือ well-being เช่นกัน
2 ) Sustainability Is The New Luxury
ผลที่ตามมาจากการระบาด ทำให้นักเดินทางที่ชื่นชอบความหรูหรา ได้ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น เพื่อรักษาโลกใบนี้ให้ยั่งยืนต่อไปได้ และมีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด สำหรับแบรนด์ไฮแอท มีโปรแกรม “World of Care” ที่เปิดตัวมาเพื่อขับเคลื่อนและยกความสำคัญด้านนี้โดยเฉพาะ
3 ) Immersive, Authentic Experiences On The Rise
เหล่านักเดินทางยังมีความต้องการสถานที่พักผ่อนที่มีความเป็นส่วนตัว ผู้คนไม่หนาแน่น และต้องการสัมผัสประสบการณ์ทางคุณค่ากับร้านอาหารและร้านค้าในท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น
สำหรับ ไฮแอท ประเทศไทย ให้บริการมามากกว่า 30 ปี ปัจจุบันมีทั้งหมด 7 โรงแรมด้วยกัน ได้แก่ Park Hyatt Bangkok, Hyatt Regency Phuket Resort, Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit, Hyatt Regency Hua Hin, Grand Hyatt Erawan Bangkok, Hyatt Place Bangkok Sukhumvit และ Hyatt Regency Koh Samui
และนอกจากนี้ Angelina Hua, Director of Brand Marketing and Communications Asia Pacific และ Sunny Yu Grosic, Director of Sales & Market Andaz Pattaya Jomtien Beach ยังได้ร่วมแชร์ถึงแบรนด์ไฮแอทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่เปิดแล้วและกำลังจะเปิดตัวในปี 2022 จุดหมายปลายทางที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวสมัยใหม่แบบครบทุกมิติ ได้แก่
- Alila Kothaifaru Maldives (Open MAY 2022)
- Park Hyatt Jakarta (Open JUL 2022)
- Grand Hyatt Gurgaon (Open JUL 2022)
- Hyatt Centric Juhu Mumbai (Open AUG 2022)
- Hyatt Centric Sector 17 Chandigarh (Open Q3 2022)
- Fuji Speedway Hotel (Open OCT 2022)
- Hyatt Centric Kota Kinabalu (Open OCT 2022)
- Andaz Pattaya Jomtien Beach (Open Q4 2022)
- Grand Hyatt Shenzhou (Open Q4 2022)
Alila Kothaifaru Maldives (Open MAY 2022)
จุดเด่นของโรงแรมและรีสอร์ทของแบรนด์ Alila คือการผสมผสานระหว่างการออกแบบที่เป็นนวัตกรรมใหม่และความหรูหราในสถานที่ที่มีเอกลักษณ์ ชูงานฝีมือที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างประณีต การต้อนรับแบบเฉพาะบุคคล
Alila Kothaifaru Maldives ประกอบด้วยพูลวิลล่า 80 หลัง โดย 44 หลังอยู่บนชายหาด และ 36 หลังตั้งอยู่เหนือน้ำพร้อมทางลงสู่ทะเลโดยตรง พร้อมให้บริการนักเดินทางที่ต้องการหลบหนีมาพักบนเกาะที่หรูหรา การผสมผสานของความสงบ และทะเลที่อุดมสมบูรณ์จากธรรมชาติที่น้อยคนนักจะได้สัมผัส จะเป็นประสบการณ์ที่คุณจะจดจำตลอดไป รีสอร์ตอยู่ใกล้กับอ่าว Hanifaru Bay ที่มีชื่อเสียงของ UNESCO และอยู่ใกล้กับเกาะ Vaadhoo ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่ดีที่สุดในการชมปรากฏการณ์ ‘Sea of Stars’ อันตระการตา
Park Hyatt Jakarta (Open JUL 2022)
ภาพจำจาการ์ตาของนักเดินทางหลายคนอาจจะเป็นเมืองที่ผู้คนพลุกพล่าน แต่ Park Hyatt Jakarta ตั้งอยู่ในย่าน Menteng อันเงียบสงบใจกลางย่านธุรกิจที่พลุกพล่าน ไฮไลท์อยู่ที่ Kita Restaurant & Bar ร้านอาหารและบาร์ญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บนชั้นรูฟท็อปของโรงแรม โรงแรมมีทั้งหมด 220 ห้อง ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกต่อการติดต่อธุรกิจ สอดคล้องกับหัวใจสำคัญของแบรนด์ Park Hyatt ในฐานะสถานที่ซ่อนตัวอย่างลึกลับ มีความหรูหรา สำหรับนักเดินทาง ‘bleisure’ (business+leisure) ตกแต่งภายในแบบร่วมสมัยและเรียบง่าย ได้รับแรงบันดาลใจจากความงามของป่าฝนในชาวอินโดนีเซีย
Fuji Speedway Hotel (Open OCT 2022)
โรงแรมแห่งแรกในญี่ปุ่นภายใต้แบรนด์ Unbound Collection by Hyatt ที่รวบรวมโรงแรมอิสระที่ไม่ซ้ำแบบใคร และบอกเล่าเรื่องราวที่จะช่วยสร้างความทรงจำอันงดงามอย่างไม่ลืมเลือนตลอดไป และนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ที่ซับซ้อนแต่เป็นธรรมชาติ
โรงแรมตั้งอยู่ท่ามกลางฉากหลังอันตระการตาของภูเขาไฟฟูจิ โดยจะตั้งอยู่ในบริเวณสนามแข่งรถ Fuji Speedway อันเก่าแก่ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางกีฬามอเตอร์สปอร์ตอันโดดเด่น มีทั้งหมด 120 ห้อง ตั้งอยู่ในเมือง Shizuoka ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์จากโตเกียวประมาณ 80 นาที สามารถมองเห็นวิวอันตระการตาของภูเขาไฟฟูจิ รวมไปถึงมีสปาที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติให้ผ่อนคลายกันอีกด้วย
Andaz Pattaya Jomtien Beach (Open Q4 2022)
คำว่า Andaz มาจากคำว่า “สไตล์ส่วนตัว” ในภาษาฮินดู โดยแบรนด์นี้ต้องการนำเสนอแนวคิดร่วมสมัยและไม่มีสคริปต์สำหรับนักเดินทางที่ต้องการค้นหาความแท้จริงของท้องถิ่น ที่นี่จะเป็นโรงแรม Andaz แห่งแรกในประเทศไทย
สถานที่พักผ่อนบนพื้นที่ของอดีตที่เป็นที่ดินส่วนบุคคล มีห้องพักและวิลล่า 204 ห้อง พร้อมแบรนด์เพื่อสุขภาพสุดหรูของไทยที่จะให้บริการในส่วนของสปา และสร้างกลิ่นขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับ Andaz Pattaya Jomtien Beach
ทางด้านของประสบการณ์ทางด้านอาหาร Andaz Pattaya Jomtien Beach พร้อมมอบประสบการณ์ทางด้านอาหารแบบอินเทอร์แอคทีฟ มีบีชคลับที่นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบ ocean-to-table รวมถึงร้านอาหารเอเชีย, สเต็กเฮาส์ และอาหารอิตาเลียนสไตล์ทรัตโทเรีย (Trattoria)