Juksunchae (จุกซุนแช) ร้านอาหารเกาหลีไฟน์ไดน์นิ่งชั้นเลิศ ซ่อนตัวอยู่บนชั้น 5 ของอาคาร Woodberry Common ในซอยร่วมฤดี นำเสนอประสบการณ์มื้ออาหารเกาหลีที่มีเอกลักษณ์ ต่างจากอาหารเกาหลีที่คุณเคยรู้จักอย่างสิ้นเชิง นำทีมโดย Henry Lee หัวหน้าเชฟผู้มีเสน่ห์เปี่ยมล้น ทั้งความใส่ใจในการทักทายแขกทุกๆคน การนำเสนออาหารแต่ละเมนูด้วยความมั่นใจ ยิ่งเมื่อได้ลิ้มลองรสชาติแล้วบอกเลยว่าคุณต้องตกหลุมรักอย่างคลั่งไคล้กับ Juksunchae
การวางครัวแบบเปิดของ Juksunchae ทำให้เราได้เห็นกระบวนการปรุงอาหารของเชฟ Henry Lee และทีมงานอย่างตั้งใจ พนักงานในร้านให้บริการได้สมกับความเป็นร้านไฟน์ไดนิ่ง เป็นอีกร้านที่เรารู้สึกประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึงร้านจนกระทั่ง ตอนกลับก็ก้าวออกจากร้านด้วยรอยยิ้มของความสุข
Korean Fine Dining
Juksunchae นำเสนอในรูปแบบเซ็ตคอร์สเมนู โดดเด่นในเรื่องของการคัดสรรเอาวัตถุดิบคุณภาพดีจากประเทศเกาหลี และวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ ครีเอทเมนูเกาหลีจานพิเศษที่คุณจะไม่เคยสัมผัสอาหารเกาหลีแบบนี้จากที่ไหนในกรุงเทพฯ มาก่อน
เริ่มต้นความอร่อยด้วยเมนูอามูส บุช Yuza, Moon-Eo Dubu Bugak โดย Bugak คือเมนูอาหารทอดของเกาหลี เชฟใช้แผ่นเต้าหู้ตากแห้งนำไปทอด ห่อด้วยปลาหมึกสับกับน้ำสลัดยูสุ แตงกวา และหอมแดง ทานแล้วสดชื่นมาก
ตามด้วย Eo Mandu หรือเมนูเกี๊ยวปลาระดับราชสำนักเกาหลี ปกติจะใช้แป้งห่อ แต่เมนูนี้เชฟประยุกต์ใช้เนื้อปลาซีบรีม เนื้อฉ่ำ รสชาติละมุนลิ้น เป็นแป้งห่อเกี้ยว ข้างในมีหมูสับ กิมจิย่าง และเบคอนโฮมเมด โรยด้วยผงสาหร่ายและซอสกุยช่าย
ต่อด้วย Lobster Jook เชฟเรียกเมนูนี้ว่าโจ๊กล็อปสเตอร์ ประกอบด้วยเนื้อล็อปสเตอร์สับผสมกับล็อปสเตอร์บิสรสชาติสุดเข้มข้น
ถัดมาคือเมนู Yukhoe, Memil ทาร์ทาร์เนื้อ เชฟใช้เนื้อจากเกาหลีผสมสมุนไพร ท็อปปิ้งของต้นหอม ซอสไข่แดง และบักวีต หอมกลิ่นน้ำมันงา
เมนูต่อมาคือ Doenjan Ddalgi สตรอว์เบอร์รี่รสหวานฉ่ำ สอดไส้เต้าเจี้ยวเกาหลีกับมาสคาโปนชีส หวานเค็มลงตัวมาก
ต่อกันกับเมนู Domi Hoe ปลาซีบรีมสไลด์บาง เนื้อนุ่มหวานตามธรรมชาติ ทานคู่กับลูกแพรหิมะเกาหลีหมักกับทับทิบจนเป็นสีแดงสวย ราดด้วยซอสที่มีส่วนผสมของกระเทียม ขิง น้ำตาลทรายแดง แอปเปิ้ลไซเดอร์ และพริกป่นเกาหลีชั้นดี หรือโคชูจังที่เราคุ้นเคยกันนี่เอง นี่เป็นการทานปลาดิบในสไตล์เกาหลีที่เชฟอยากนำเสนอ
ถัดมาคือ Lobster Jang ล็อบสเตอร์ดองซีอิ๊วเกาหลีแบบ DIY เชฟจะให้ใช้สาหร่ายห่อข้าวแล้วท็อปด้วยไชเท้าดอง รสหวานเค็มอ่อนๆ อร่อยมาก
ต่อด้วยเมนู Gul Bulgogi บูลโกกิหอยนางรม เชฟเสิร์ฟโดยวางเปลือกหอยนางรมร้อนฉ่า ตามด้วยหอยนางรมที่คลุกเคล้าบูลโกกิซอสลงเสิร์ฟท็อปด้วยโฟมใบเพอริลล่า
ถัดมาคือ Beoseot Jat เห็ดเกาหลี 7 ชนิดย่างกับซอสสูตรพิเศษ ทานพร้อมกับโฟมไพน์นัท อีกหนึ่งเมนูที่เซอร์ไพรซ์เรามาก โฟมไพน์นัทช่วยยกระดับสัมผัสของเทกเจอร์และกลิ่นหอมของเห็ดแต่ละชนิดได้ดีมาก
ต่อด้วย Seong-Gye-Al Bibimbap บิบิมบับอูนิ ที่อัดแน่นมาด้วยวัตถุดิบพรีเมียม อาทิเช่น อูนิ คาเวียร์ ข้าวพอง กิมจิ เห็ดหอมตุ๋น ใบเพริลลา ซอสเบอร์บองกิมจิขาว พร้อมคัสตาร์ดอูนิ เวลาทานคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน ดีเยี่ยมมาก
มาถึงเมนูเนื้อสุดอร่อย Galbi เนื้อซี่โครงลายหินอ่อน เสิร์ฟพร้อมกิมจิขาวและ ไส้กรอกโฮมเมดที่มีส่วนประกอบของเห็ดหอม เนื้อวัวบด หมูบด พริก หอมอร่อย
ต่อด้วยเมนู Foie Gras, Bam ฟัวกราส์ชิ้นโตเนื้อนุ่มละลายในปาก เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงเกาหลีห้าชนิดที่ทำมาจากเกาลัด ได้แก่ โครเกตเกาลัด เกาลัดบดกับเกาลัดสดขูด กิมจิเกาลัด อินทผลัมและเกาลัด เป็นต้น
ล้างปากกันด้วย Mokgeolli, Soobak, Omija แตงโมกรานิต้าและน้ำเชื่อมโอมิจาเบอร์รี่ แต่งกลิ่นด้วยมักกอลลี
เมนูของหวาน Hotteok, Vanilla Ice Cream “โฮต็อก” ขนมเกาหลีที่คล้ายกับโมจิ สอดไส้ถั่วสามชนิดได้แก่เฮเซลนัท อัลมอนด์ และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมวานิลลา และแครกเกอร์งา
จบด้วย Petit Four ส่งท้ายมื้ออาหารด้วยรอยยิ้มอย่าง ทาร์ตสตรอว์เบอร์รี่ยูสุ เค้กช็อกโกแลตจินเจอร์
Juksunchae – Korean Fine Dining Restaurant
- ชั้น 5 อาคาร Woodberry Common ในซอยร่วมฤดี เพลินจิต
- Line: @juksunchae
- Instagram: @juksunchae
- Email : [email protected]
- Open: Wednesday – Monday (Closed on Tuesday)
- 6:30pm – 11:00pm
- Location : https://maps.app.goo.gl/HsDbz2NTYSNKTZxE7
- Parking is available