KAVEE (กวี) ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งน้องใหม่ตั้งอยู่ในโครงการ Ashton Morph สุขุมวิท 38 ห่างจาก BTS ทองหล่อประมาณ 300 เมตร นำทีมโดย เชฟเต้-วรธน อุดมชโลทร เชฟหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ มุมมอง เทคนิค และความรักความหลงใหลในการทำอาหารอย่างแรงกล้า เชฟเต้จบด้านอาหารมาจากโรงเรียนสอนทำอาหาร Le Cordon Bleu และ The Culinary Institute of America (CIA) และผ่านการทำงานร่วมกับร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ในสหรัฐอเมริกามาหลายร้าน ก่อนเดินทางกลับมาเมืองไทยและเป็นหนึ่งในทีมงานของร้านอาหาร Le Du คู่กับเชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ร้านอาหารไทยรางวัลมิชลิน 1 ดาว มีผลงานที่โดดเด่นจนเกิดเป็นร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง KAVEE สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่รับลูกค้าได้เต็มที่ 14 ที่นั่ง และต้องมีการสำรองที่นั่งมาล่วงหน้าเท่านั้น เนื่องจากวัตถุดิบบางอย่างต้องใช้เวลาเตรียมหลายวัน กระทั่งขนมอบ ขนมปังที่เสิร์ฟในร้านก็หมักแป้งและอบกันวันต่อวัน
เมนูอาหารของ KAVEE จะเป็นเมนูอาหารสไตล์ตะวันตกที่สอดแทรกความรู้สึกของอาหารไทยให้คุณได้ประสบการณ์ใหม่อันน่าสนุกในการรับประทานเมนูสไตล์ตะวันตกแต่มีความรู้สึกเอ๊ะอยู่ในใจกับรสชาติ สัมผัส หรือกลิ่นที่คุณอาจเคยลิ้มรสในอาหารไทยมาก่อน แต่ละเมนูได้รับการรังสรรค์ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศ ให้ทุกคนได้ชิมแล้วก็อยากกลับมาชิมอีก รู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้กลับมาเยือน KAVEE
KAVEE – Testing Menu
8 คอร์ส ราคา 2,890.- THB/ท่าน
เทสติ้งเมนูจากการสร้างสรรค์ของเชฟเต้ เริ่มตั้งแต่การรับประทานหอยนางรม Ostra Regal Oyster หอยนางรมรสเลิศคุณภาพพรีเมียมจากเมืองบริททานี ประเทศฝรั่งเศส ให้กลิ่นและรสชาติที่คล้ายเนย มีความหวานและเค็มในระดับที่สมดุลกันพอเหมาะพอดี เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงเป็นแรดิสหั่นบางๆ ราดด้วยซอสที่ทำมาจากใบทำมังและโอลีฟออยล์ โดยใบทำมังเป็นสมุนไพรที่นำมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี บ้านเกิดพ่อของเชฟเต้ หลายคนอาจไม่คุ้นเคยมากนัก กลิ่นจะมีความคล้ายกับสับปะรดและฝรั่งรวมกัน
ตามด้วยเมนูที่ปรุงจาก Shrimp ทาร์ตกุ้งที่ไส้ของทาร์ตทำมาจากกุ้งดองซีอิ้วสไตล์จีนแต้จิ๋ว แกล้มกับเครื่องเคียงอย่าง ขิง ผักชี กระเทียม และสมุนไพรที่เชฟปลูกเอง รับประทานแล้วให้ความสดชื่น
เมนูถัดมาโดดเด่นและประทับใจมาก Foie gras Cheesecake ทาร์ตฟัวกราส์ที่ทำออกมาคล้ายชีสเค้ก แต่งหน้าด้วยผลไม้ตามฤดูกาลอย่างฤดูกาลนี้ก็จะเป็นองุ่น ฤดูกาลที่ผ่านมาก็จะเป็นสตรอเบอร์รี่ แต้มด้วยมูสกะทิเล็กน้อย ตัดความครีมมี่ลงด้วยเมอแรงค์ที่มีส่วนผสมจากกระเจี๊ยบแดงของไทย รสเปรี้ยวอมหวานเค็มเบาๆ จะช่วยสร้างความสดชื่นและชูให้ความหอมมันของฟัวกราส์โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
เมนูต่อมาเชฟเต้อยากชวนให้ทุกคนได้ลิ้มลองขนมจีนซาวน้ำ ซึ่งเป็นเมนูที่คุณแม่ และคุณยายของเชฟเต้ปรุงรับประทานกันบ่อยครั้งที่บ้าน เชฟเลือกใช้ Hokkaido Scallop เป็นวัตถุดิบหลักของจานนี้ ชั้นล่างสุดของจานคือมูสกะหล่ำดอก ผลไม้ดอง และเนื้อหอยเชลล์ฮอกไกโดที่เชฟเปรียบเปรยว่าเป็นลูกชิ้นในขนมจีนซาวน้ำ ท็อปด้านบนด้วยกะทิสโนว์ที่ทำมาจากเนื้อมะพร้าวทึนทึกบดแล้วนำไปแช่แข็งจนจับตัวเหมือนเกล็ดน้ำแข็งนุ่มเบาคล้ายหิมะ เพิ่มสัมผัสความมันประหนึ่งกะทิ เพิ่มรสชาติด้วยซอสส้มที่ทำจากผิวส้มจีนบด วิธีการรับประทานให้คลุกเคล้าทุกอย่างผสมแล้วรับประทานเข้าไปพร้อมกัน ก็จะได้สัมผัสของขนมจีนซาวน้ำที่มีรสหวานมันเค็มเปรี้ยวกลมกล่อม แบบไม่มีรสใดโดดเกินออกมา
ต่อกันด้วยเมนูที่ทำจาก River Prawn กุ้งแม่น้ำจากแม่น้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี บ้านเกิดคุณพ่อของเชฟ จุดเด่นของกุ้งแม่น้ำตาปีจะอยู่ที่เนื้อกุ้งจะมีความแน่น เด้ง มัน ไม่มีกลิ่นโคลน ย่างและเสิร์ฟพร้อมซอสพูเรที่ทำจากแครอทและวนิลา เจลมะนาว และซอสมันกุ้งสุดเข้มข้น
ในระหว่างรับประทานกุ้งแม่น้ำ เชฟจะเสิร์ฟขนมปังเคียงคู่มาด้วยเพื่อให้สอดคล้องกับการรับประทานข้าวสวยในสำรับอาหารไทย โดยสามารถจิ้มกับเนยที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน หรือจะจิ้มกับซอสมันกุ้ง และรับประทานคู่กับเมนคอร์สอื่นๆได้เช่นกัน
เมนูไฮไลท์ Dry-aged Barbary duck เมนส์คอร์สเมนูแรกที่ทำมาจากเป็ดออร์แกนิคที่เลี้ยงแบบปล่อยอิสระจากเขาใหญ่ เนื้อเป็ดจะมีความนุ่มและไขมันแทรกชั้นกำลังดี เชฟนำมาดรายเอจประมาณ 2 สัปดาห์ รมควันและอบด้วยฟาง ก่อนนำมาย่างจนหนังเป็ดกรอบเนื้อนุ่มฉ่ำ เสิร์ฟเคียงคู่กับซอสลูกพรุน บีทรูด เมล็ดมัสตาร์ดที่เอาไปดอง มันฝรั่งที่ตุ๋นในน้ำมันเป็ด ราดด้วยซอสที่ทำมาจากกระดูกเป็ดอินฟิวส์กับสมุนไพรไทย เครื่องเทศไทย
เมนส์คอร์สเมนูที่สอง Lamb saddle แกะส่วนสันนอก และสันใน เสิร์ฟเคียงคู่กับเบคอนที่ทำจากเนื้อแกะส่วนท้อง ต่อมไทรอยแกะชุบแป้งทอด ครีมกะเทียม ราดด้วยซอสที่ปรุงมาจากกระดูกแกะ ซึ่งปกติในเมนูอาหารฝรั่งเศสจะใช้กระดูกในการปรุงซอสเป็นสูตรพื้นฐาน เชฟเต้ได้แรงบรรดาลใจในการปรุงเมนูนี้จากก๋วยเตี๋ยวเนื้อ จึงมีการหยดน้ำมันพริกเพื่อให้ความเผ็ดและมีกลิ่นหอม หากได้ชิมก็จะนึกถึงความเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อ แต่หน้าตาเมนูไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ
Coconut เมนูล้างปาก ฐานด้านล่างมีสับปะรดย่าง ใบสะระแหน่ กับเยลลี่เสาวรสผสมน้ำส้ม ตามด้วยด้วยครีมกะทิเพิ่มความหอมมัน ตามด้วยกานิต้าที่ทำจากน้ำส้มสด ท็อปด้านบนสุดด้วยเมอร์แรงที่โรยผงพริกไทยเสฉวนเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสสัมผัสที่หลากหลาย เวลารับประทานแนะนำให้รับประทานจากบนลงล่าง
ขนมหวานเป็น Truffle ไอศกรีมแบล็กทรัฟเฟิล ที่ด้านล่างสุดเป็นมูสดาร์คช็อกโกแลต พีนัทบัทเทอร์ครัมเบิ้ล ให้รสหวานเค็มและขมจากช็อกโกแลต ตกแต่งด้านบนด้วยช็อคโกแลตเส้นคดโค้งไปมาที่คล้ายกับดีไซน์ของโคมไฟลอยตัวที่ประดับอย่างโดดเด่นบนเพดานของร้าน
ขนมหวานปิดท้ายมื้ออาหาร มี 3 รูปแบบ ได้แก่ Toasted Sticky Rice, Nampla, Orange & Passion Fruit ชูครีมอบใหม่สอดไส้ข้าวเหนียวดำที่นำไปคั่วเพื่อให้มีกลิ่นคล้ายข้าวหลาม ตามด้วยมะพร้าวคั่วซอสคาราเมลท็อฟฟี่ที่ให้สัมผัสกลิ่นหอมที่มาจากน้ำปลาจากจังหวัดระยอง และเจลลี่ส้มผสมเสาวรสเคลือบพริกเกลือ
ใครอยากลองมาชิม Testing Menu โดยเชฟเต้-วรธน อุดมชโลทร ที่ KAVEE (กวี) ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น แล้วมาลองชิมอาหารฝีมือของเชฟที่น่าประทับใจนี้ด้วยตัวคุณเอง
KAVEE (กวี)
- เวลาทำการ : เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-22.00 น. (จองล่วงหน้าเท่านั้น)
- พิกัด : ซอยสุขุมวิท 38 https://goo.gl/maps/1UhXcBus5PiVQSuN6
- สำรองที่นั่งได้ที่เบอร์ : 08 0995 9095
- เว็บไซต์ : www.facebook.com/kaveerestaurant/
- เฟสบุ้ค : https://www.facebook.com/kaveerestaurant
- อินสตาแกรม : https://www.instagram.com/kaveerestaurant/