สำหรับใครที่มองหาร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง SOtraveler.com ขอแนะนำ Keller Bangkok ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งคอนเซ็ปต์ยุโรปร่วมสมัย นำทีมส่งมอบประสบการณ์มื้ออาหารอันน่าจดจำโดยเชฟเมอร์โค่ เคลเลอร์ (Mirco Keller) รังสรรค์ทุกเมนูอย่างพิถีพิถัน ด้วยวัตถุดิบพรีเมี่ยมที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีทั้งในและต่างประเทศ ผสมผสานเทคนิคการทําอาหารแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคนิคสมัยใหม่ ทำให้เมนูอาหารของ Keller Bangkok มีเอกลักษณ์ พร้อมให้คุณได้สัมผัสรสชาติที่ลงตัวอย่างโดดเด่น ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่น ผ่อนคลาย เป็นกันเอง ทีมงานบริการด้วยความใส่ใจ
Keller Bangkok ให้บริการทั้งเมนูอะลาคาร์ท เลือกสั่งตามความชอบจากเมนูที่มีให้เลือกหลากรูปแบบ หรือจะเลือกสั่งแบบเซ็ตคอร์สก็เป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบดี มีให้เลือก 2 เซ็ตด้วยกันได้แก่ Keller Classic 7 คอร์ส ราคา 3700++ บาท และ Keller Journey 9 คอร์ส 4900++ บาท อาหารยุโรปร่วมสมัยของเชฟเคลเลอร์นั้น แฝงไปด้วยความอบอุ่นตามรอยยิ้มหวานๆ และแววตาอ่อนโยนอันเป็นเอกลักษณ์ชอบเชฟ ใครได้ลิ้มลองอาจต้องมนต์สเน่ห์เมนูไฟน์ไดนิ่งในแบบฉบับของเชฟเคลเลอร์ ที่สะท้อนความหลงไหลในการทำอาหารและความสมบูรณ์แบบของเขาได้เป็นอย่างดี
Keller Bangkok ตั้งอยู่ในคฤหาสน์หรูชื่อว่า Baan Turtle ซอยสวนพลู 2 ซ่อนตัวอย่างสง่างามประดุจเพชรงามแห่งสาทร พื้นที่ที่คุณสามารถพาครอบครัวและเพื่อนฝูงมาใช้เวลาร่วมกันในบรรยากาศที่หรูหราแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น การตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันและเข้ากันได้อย่างลงตัว สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบ
ครั้งนี้เราขอนำเสนอเมนูในรูปแบบอะลาคาร์ท ซึ่งแต่ละเมนูที่เราได้ลองในวันนี้ล้วนเป็นเมนูที่อยู่ในเซ็ตคอร์ส Keller Classic และ Keller Journey แล้วแต่ว่าอยากสั่งเป็นอะลาคาร์ทหรือสั่งเซ็ตคอร์สก็เลือกได้ตามโอกาสของมื้ออาหาร ถ้ามาเป็นครอบครัว หรือมากับคู่รัก อยากทานเพลินๆ Keller Journey คือคำตอบที่เพอร์เฟคมากสำหรับมื้อของคุณ และอย่าลืมอัพเกรดมื้ออาหารให้พิเศษมากยิ่งขึ้นด้วยเครื่องดื่มแพริ่งสุดสร้างสรรค์ อย่างเช่นม็อกเทลที่เราเลือกมานำเสนอในวันนี้
เริ่มต้นแนะนำกันด้วยเมนู Berliner Senfei ไข่มัสตาร์ดจากเบอร์ลิน เมนูที่เชฟเคลเลอร์ได้แรงบรรดาลใจมาจากความทรงจำในวัยเด็ก โดยคุณแม่ของเชฟเคลเลอร์ได้ทำเมนูนี้ให้เชฟทานตอนที่เชฟอยู่เบอร์ลิน ประเทศเยอรมันบ้านเกิดของเชฟ ประกอบไปด้วยมันฝรั่งรมควันบด ไข่แดง ซอสมัสตาร์ด และออสเซียตราคาเวียร์ที่ให้รสเค็มตัดกับบีทรูทดอง ทานแล้วรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ส่งต่อมาถึงคนรับประทานอย่างเรา
ต่อด้วย Ōra King Salmon แซลมอนที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างยั่งยืนตามธรรมชาติในประเทศนิวซีแลนด์ ในน่านน้ำที่ใสสะอาด กระทั่งได้รับการขนานนามว่าเป็นแซลมอนที่ดีที่สุดในโลก จุดเด่นคือมีรสสัมผัสที่ค่อนข้างเด้งปริมาณไขมันธรรมชาติสูงมีลวดลายคล้ายหินอ่อนดั่งเนื้อวากิว เชฟนำมาเสิร์ฟเคียงคู่กับน้ำสลัดส้มยูสุน้ำผึ้ง สาหร่ายพวงองุ่น ครีมดาชิ รสชาตินุ่มเนียนลิ้น องค์ประกอบแต่ละอย่างช่วยยกระดับความหวานของ Ōra King Salmon ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
เมนูต่อมาชื่อว่า Duet of Duck and Pumpkin เป็นการผสมผสานเมนูแบบอีสมีทส์เวส สะท้อนถึงการเดินทางทางด้านการทำอาหารของเชฟเคลเลอร์ในเอเชียและในยุโรป เกิดเป็นเมนูเกี้ยวเป็ดทานคู่กับฟัวกราส์เทอร์รีนซอสเสาวรส ยกระดับรสชาติอันเลิศหรูของกันและกันได้เป็นอย่างดี เกี้ยวเป็ดมีความนุ่มหอม ฟัวกราส์เทอร์รีนช่วยเพิ่มสัมผัสการทานให้ดียิ่งขึ้น
ถัดมาที่เมนูซุป มี 2 เมนูที่เราอยากแนะนำ ได้แก่ Mushroom Soup ซุปเห็ดเสิร์ฟให้ทานคู่กับ ขนมปังโฮมเมด เนยสาหร่ายฮิจิกิ และตับไก่บด รสชาติกลมกล่อม นุ่ม หอม
อีกหนึ่งเมนูซุปคือ Warm Vichyssoise ซุปวิชชีสวาซแบบอุ่น เสิร์ฟให้รับประทานทานคู่กับขนมปังโฮมเมด และครีมสดโฮมเมดสไตล์ฝรั่งเศส รสชาติสุดละมุนลิ้นไม่แพ้กัน
ต่อกันด้วยเมนู Egg Custard คัสตาร์ตไข่ ที่เสิร์ฟ ไข่ขาว เนื้อปู เซเลอรี่ มาในน้ำซุปไก่ผสมเห็ดทรัฟเฟิล รสชาติกลมกล่อม หวาน มันเค็มกำลังดี
Fish Mousse เมนูซิกเนเจอร์ที่ใครหลายคนมาทานแล้วติดใจจนนำไปบอกเล่าต่อๆกันด้วยความประทับใจ เป็นเมนูมูสปลาที่ท็อปด้วยไข่ปลาเทราต์และเนื้อปลาฮามาจิ ท็อปด้วยน้ำเลมอน Vinaigrette ที่นำความสดชื่นและความเปรี้ยวอ่อนๆมาสู่จานได้อย่างกลมกลืน เสริมด้วยข้าวเกรียบกุ้งโฮมเมดกรุบกรอบ อร่อยสมคำล่ำลือ
Obsiblue Prawns เมนูที่ใช้กุ้งทะเลพันธุ์หายาก มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ หวาน และกรุบกรอบ เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดบัตเตอร์มิลค์-วาซาบิที่ผสมออสเซียตราคาเวียร์ลงไปด้วย เวลาทานให้ตักถึงชั้นล่างสุดแล้วทานทุกองค์ประกอบเข้าไปพร้อมกันในหนึ่งคำ เพื่อให้รสชาติจากส่วนผสมหลักแต่ละอย่างเสริมซึ่งกันและกัน
อีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด Reistopf เมนูที่ดัดแปลงมาจากอาหารเยอรมันแบบดั้งเดิม เชฟเลือกใช้ข้าวซึยาฮิเมะ ข้าวญี่ปุ่นคุณภาพสูง ที่ได้รับสมญานามว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งข้าว เสิร์ฟพร้อมเนื้อปู เห็ดชิตาเกะ สวีสเบรด ราดด้วยซอสเบอร์บล็องที่มีส่วนผสมของหอยแมลงภู่ รสชาตินุ่มละมุน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
อีกหนึ่งเมนูสุดสร้างสรรค์ White Pasta พาสต้าสีขาวนำเสนอแบบผสมผสานอาหารเอเชียและยุโรป เชฟเลือกใช้วัตถุดิบเสิร์ฟเคียงคู่พาสต้าอย่าง หอยเชลล์ที่ดีที่สุดจากบริตตานี ฝรั่งเศส, ปลาหมึก, ไข่ปลาเทราท์ และสับปะรด ราดด้วยน้ำซุปที่มีความคล้ายกับลักซาของประเทศสิงคโปร์ เวลาทานอย่าลืมตักสับปะรดควบคู่ไปด้วยในแต่ละคำ ช่วยเพิ่มความหอมหวานได้เป็นอย่างดี
MR Wagyu Beef 8+ Rib Eye เมนูที่ดูเรียบง่ายแต่รสชาตินั้นยอดเยี่ยม MR ย่อมาจาก Margaret River ณ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย พื้นที่ที่มีความสวยงาม อากาศมีความบริสุทธิ์ ขึ้นชื่อด้านธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทำให้วัวที่เลี้ยงบนพื้นที่นี้ปราศจากความเครียด เนื้อวากิวที่ได้จึงมีรสชาติเข้มข้น นุ่มละมุนด้วยไขมันลายหินอ่อนสวยงาม เชฟเสิร์ฟคู่กับ แตงกวาดอง เมล็ดมัสตาร์ด ทานคู่กับมันฝรั่งบดชุบข้าวพอง
อีกหนึ่งเมนูอิ่มท้องเบาๆ Japanese Blackfin Seabass ปลากระพงดำญี่ปุ่น เนื้อนุ่มมากหอมมาก เสิร์ฟคู่กับพาร์สนิปเพียวเร พริกญี่ปุ่นชิชิโต และซอสสไตล์ฝรั่งเศสช่วยเสริมรสชาติเมนูนี้ให้มีความกลมกล่อมมากขึ้น
เดินทางมาถึงเมนูขนมหวานไม่ควรพลาด Chocolate Ganache เมนูของหวานที่เชฟเคลเลอร์ได้แรงบรรดาลใจวัยเยาว์ที่คุณแม่ชอบทำของหวานช็อคโกแลตให้รับประทาน ประกอบไปด้วยไอศกรีมที่ทำมาจากถั่วเหลืองไวท์ช็อกโกแลต บราวนี่ท็อปด้วยซอสเสาวรสและเฮเซลนัท และยังเสิร์ฟนมเฮเซลนัทให้ทานคู่อีกด้วย
และอีกหนึ่งของหวานที่สร้างความฟินปิดท้ายมื้ออาหารได้เป็นอย่างดี Meringue ขนมเมอแรงค์เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมนมแซฟฟรอน, แอปริคอตคูลิส, ราสเบอร์รี่, ครัมเบิ้ล รสชาติหวานหอมกลมกล่อมกำลังดี ไม่หนักไม่เบาจนเกินไป
สำหรับขนมหวานปิดท้ายมื้ออาหาร เชฟเลือกเสิร์ฟเป็น มาการองแบล็คเคอแรนท์ ชูว์เลมอน และช็อคโกแล็ต
Mocktail Pairing
ในระหว่างที่รับประทานแต่ละเมนู อย่าลืมสั่งเครื่องดื่มเพื่อชูรสชาติและเพิ่มความสุนทรีของมื้ออาหารมากยิ่งขึ้น เราอยากแนะนำม็อกเทล Hot Rose ส่วนผสมประกอบไปด้วยน้ำทับทิม, น้ำแครนเบอร์รี่, น้ำกุหลาบ, น้ำเชื่อมกลิ่นกุหลาบ กลิ่นหอมผลไม้และรสชาติฟรุตตี้ ทำให้สามารถดึงรสชาติเมนูเรียกน้ำย่อย และเมนูซุปในช่วงเริ่มต้นคอร์สอาหารได้ดี อย่างเช่น Ōra King Salmon, Duet of Duck and Pumpkin หรือ Warm Vichyssoise
ต่อกันด้วย Green Sour ม็อคเทลที่มีส่วนผสมของ น้ำกีวี, น้ำแตงกวา, น้ำแอปเปิ้ลเขียว,น้ำเชื่อมดอกอัญชัน และใบโหระพา รสชาติเปรี้ยวหอมกลิ่นกีวีปิดท้าย เหมาะกับการทานคู่กับเมนู Egg Custard ช่วยเสริมความกลมกล่อมของซุปให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้นไปอีก
สำหรับ Keller Sour Virgin ประกอบไปด้วย น้ำสับปะรด, น้ำเชื่อมอัลมอนด์, ไข่ขาว, ชาโฮจิฉะเย็น รสชาติเบา สดชื่น มีกลิ่นหอม แนะนำให้ทานคู่กับ Fish Mousse ทำให้มูสและเนื้อปลามีรสชาติที่นุ่มนวลเข้มข้นขึ้นอย่างมีมิติ
ม็อคเทล La Violetta มีส่วนผสมของแบล็คเคอแรนท์, ชาแดง, น้ำเชื่อมโรสแมรี่ และน้ำมะนาว รสเปรี้ยวอมฝาด เข้มข้นมาก ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการตัดเลี่ยน La Violetta จึงเหมาะที่จะทานคู่กับเมนูเนื้อและเมนูคู่กับอาหารที่มีรสชาติเปรี้ยวหรือเผ็ดได้ แนะนำให้ทานคู่กับ White Pasta และ MR Wagyu Beef 8+ Rib Eye
ม็อคเทล Sunbeam มีส่วนผสมของน้ำมะนาว, น้ำผึ้ง, มะนาวเปอร์เซีย, โทนิคเกรปฟรุตสีชมพู รสชาติเปรี้ยวของไวน์ขาวสร้างความสดชื่นให้ผู้ดื่มได้ดี คู่กับอาหารที่มีรสชาติเปรี้ยวหรือเผ็ดได้ โดยเฉพาะอาหารทะเล ช่วยตัดความคาวได้ดีเยี่ยม
ม็อคเทล “Keller” Iced Tea ชาแดง น้ำเชื่อมวานิลลา น้ำมะนาว รสชาติหอมละมุน ฝาดเล็กน้อย พิ่มสุนทรีย์และความเพลิดเพลินระหว่างทานขนมหวาน เหมาะสมมากที่จะทานคู่กับ Chocolate Ganache
ม็อคเทล La Vie en Rose Virgin มีส่วนผสมของน้ำมะนาว, สตรอเบอร์รี่, น้ำเชื่อมกุหลาบ, เรดเคอร์แรนท์ รสชาติหวานหอม อ่อน นุ่มละมุน มีกลิ่นหอมจากดอกกุหลาบค่อนข้างชัด รสชาติหวานหอม เหมาะที่จะแพริ่งกับเมนูขนมหวาน Meringue
อีกหนึ่งเครื่องดื่มที่แพริ่งได้ดีมากกับ Reistopf คือ Je (T‘) Aime ชาดอกเบญจมาศและชะเอม เสิร์ฟเป็นชาร้อน กลิ่นหอมรสหวานธรรมชาติกำลังดี ช่วยเสริมรสนุ่มละมุนของ Reistopf ให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น
Keller Bangkok คือร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งม้ามืดที่อยู่ในลิสร้านที่เราจะแวะมาลองและไม่ได้คาดคิดว่าจะมีอะไรที่พิเศษกว่าร้านไฟน์ไดนิ่งอื่นๆในกรุงเทพฯ หลังจากที่ได้มาลองแล้วต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ Keller Bangkok เป็นร้านที่กำลังรอ to the moon จริง ๆ ทั้งรสชาติ การบริการ บรรยากาศของร้าน ลงตัวอย่างไร้ที่ติ และดีอย่างเหนือกว่าร้านไฟน์ไดนิ่งอื่น ๆ เป็นการพิสูจน์อีกครั้งว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามานั่งสัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตัวคุณเอง
Keller Bangkok
- พิกัด : บ้าน Turtle เลขที่ 31 ซอย สวนพลู 2 แขวง ทุ่งมหาเมฆ เขต สาทร กรุงเทพมหานคร 10120
- Google Map : https://goo.gl/maps/GVSdevpfYLLoBcKV9
- เวลาทำการ : วันพุธ-วันจันทร์ เวลา 17.30-22.00 น. (หยุดวันอังคาร)
- สำรองที่นั่งได้ที่เบอร์ : 02-092-7196
- อีเมล [email protected]
- เว็บไซต์ : http://www.kellerbangkok.com/