เกาะกูด เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่สี่ของประเทศไทย รองจาก ภูเก็ต เกาะช้าง และเกาะสมุย และยังเป็นเกาะสุดท้ายของน่านน้ำตะวันออกไทย เกาะกูดมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ หาดทรายขาว น้ำทะเลใส การเลือกพักในรีสอร์ทที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จะยิ่งทำให้คุณได้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่จนอยากอยู่ที่เกาะกูดเป็นเดือนๆ เลยล่ะ ครั้งนี้ เราพักที่ ไฮซีซั่น พูลวิลล่า แอนด์ สปา (High Season Pool Villa & Spa) รีสอร์ทสไตล์ Pool Villa ตั้งอยู่บริเวณหาดคลองเจ้า และรับประกันได้เลยว่าเรามีการคัดเลือกและทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ก่อนที่จะเลือกเดินทางมารีวิวรีสอร์ทสักที่
เช็คราคาและจอง High Season Pool Villa & Spa ได้ทันทีที่นี่
ด้วยประสบการณ์ที่เราได้สัมผัส ไฮซีซั่น พูลวิลล่า แอนด์ สปา (High Season Pool Villa & Spa) เรายกให้ที่นี่คือหนึ่งในรีสอร์ทที่ติดอยู่ในลิส “5 อันดับรีสอร์ทบนเกาะกูดที่ควรมาพัก” อย่างแน่นอน
สำหรับผู้อ่าน SOtraveler.com รับส่วนลด 10% สำหรับค่าห้องและอาหาร (F&B)
ตั้งแต่วันนี้ – 31 ต.ค. 62 (ยกเว้น 13-16 เม.ย. 62) เมื่อคลิกเข้าไปจองผ่านลิงค์นี้ จอง High Season Koh Kood
การเดินทางไปเกาะกูด เราจะขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมศอก จังหวัดตราด ซึ่งก็มีทางเลือกการเดินทางทั้งสปีดโบ๊ทของทางโรงแรมหรือเดินทางด้วยเรือเฟอรี่เอกชน เพื่อไปยังท่าเรืออ่าวสลัดบนเกาะกูด ไฮซีซั่น พูลวิลล่า แอนด์ สปา มีจุดเด่นที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับแขกที่เข้าพักอยู่อย่างนึงคือ ทางรีสอร์ทจะมีที่จอดรถและล๊อปบี้รองรับลูกค้าของทางรีสอร์ท อยู่ไม่ไกลจากจากท่าเรือแหลมศอกมากนัก ตัดความกังวลเรื่องที่จอดรถไปได้เลย
เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้ว พนักงานจะเข้ามาเช็คกระเป๋าพร้อมติดแท็ก จากนั้นพนักงานของทางรีสอร์ทจะดูแลกระเป๋าเราตั้งแต่ตรงนี้ ช่วยขนกระเป๋าโหลดลงเรือ ขนขึ้นจากเรือและนำไปส่งให้ถึงวิลล่าที่เราพัก เซอร์วิสข้อนี้ถือว่าเป็นข้อที่น่าประทับใจ
จากนั้นเมื่อเข้ามานั่งภายในล๊อปบี้ พนักงานยังต้อนรับด้วยผ้าเย็นกลิ่นตะไคร้ ซึ่งเป็นกลิ่นซิกเนเจอร์ของทางรีสอร์ทที่หอมมากๆ พร้อมกับมีเวลคัมดริ้งให้เลือก ชา กาแฟ น้ำส้ม ให้นั่งจิบ ผ่อนคลายหลังจากที่ขับรถเดินทางกันมาในระยะนึง
เมื่อถึงกำหนดเวลาขึ้นเรือ พนักงานก็จะขับรถรางมารับตรงทางขึ้นล๊อปบี้ เพื่อพาเราไปขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมศอก ในระยะทางที่ใกล้มาก ใช้เวลาประมาณห้านาทีระหว่างล๊อปบี้ของทางรีสอร์ทกับท่าเรือแหลมศอก
เมื่อเดินทางมาถึงท่าเทียบเรืออ่าวสลัด บนเกาะกูด จะมีพนักงานโรงแรมถือป้ายมารอต้อนรับ พร้อมกับพาไปขึ้นรถสองแถวเพื่อเดินทางไปยัง ไฮซีซั่น พูลวิลล่า แอนด์ สปา
รถสองแถวนี้เป็นของทางรีสอร์ทเอง รับส่งเฉพาะแขกที่พักที่ ไฮซีซั่น พูลวิลล่า แอนด์ สปา เท่านั้น
หลังจากขึ้นรถสองแถว พนักงานก็นำผ้าเย็นกลิ่นตะไคร้และน้ำเย็นเสิร์ฟให้บนรถ
จากท่าเทียบเรืออ่าวสลัดไปยังรีสอร์ท เดินทางด้วยรถสองแถวของโรงแรม ใช้ระยะเวลาประมาณสิบห้านาที เพลินกับการชมสองข้างทางบนเกาะกูด จนรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็ว
เมื่อเดินทางมาถึงที่ ไฮซีซั่น พูลวิลล่า แอนด์ สปา ถือว่าทางโรงแรมมีกระบวนการในการสื่อสารระหว่างกันได้ดี ทำให้ขั้นตอนการเดินทาง การเช็คอิน ส่งต่อการดูแลแขกได้อย่างราบรื่น ในทันทีที่รถจอด พนักงานก็ออกมารอ พร้อมต้อนรับด้วย พวงมาลัยดอกรัก ดอกกล้วยไม้และผ้าเย็นกลิ่นตะไคร้อีกครั้ง
ขั้นตอนการเช็คอิน เรียบร้อยตั้งแต่ตอนอยู่ที่ล๊อปบี้ของทางรีสอร์ทตรงท่าเรือแหลมศอก ทราบหมายเลขห้องพักตั้งแต่ตอนนั้น ดังนั้นเมื่อมาถึงที่รีสอร์ท พนักงานจึงทราบข้อมูลเราทั้งหมด พร้อมที่จะพาเราไปยังวิลล่าที่เราจะพักได้ทันที สำหรับวิลล่าที่เราเข้าพักในครั้งนี้เป็นวิลล่าหมายเลข 102 ห้องพักแบบ Beach Front Suite Pool Villa ที่มีความอลังการและกว้างมากๆ มาชมกันต่อเลยดีกว่า
Villa No.102 Beach Front Suite Pool Villa
ห้องพักที่ ไฮซีซั่น พูลวิลล่า แอนด์ สปา (High Season Pool Villa & Spa) จะเป็นแบบวิลล่าทุกหลัง มีให้เลือกพักทั้งหมด 3 แบบ ในส่วนของวิลล่าที่เราได้พักในครั้งนี้เป็นแบบ Beach Front Suite Pool Villa ซึ่งเป็นแบบวิลล่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของทางรีสอร์ท มีพื้นที่กว่า 180 ตารางเมตร แน่นอนว่าวิลล่าแบบนี้จะตอบโจทย์การพักผ่อนของคุณได้อย่างเต็มที่มากๆเลยล่ะ
นอกจากวิลล่าหลังใหญ่แล้ว Beach Front Suite Pool Villa ยังมีทางเดินที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว ทอดตัวยาวมายังศาลาส่วนตัวที่อยู่ติดริมชายหาดอีกด้วย
บริเวณนี้มีเชือกกั้น เป็นบริเวณส่วนตัวสำหรับแขกที่พักวิลล่านี้เท่านั้น
ก่อนที่จะไปชมหาดทรายขาวและน้ำทะเลใสกัน เรามารับชม Beach Front Suite Pool Villa กันก่อนดีกว่า
ด้านหน้าของวิลล่ามีสระว่ายน้ำส่วนตัวระบบเกลือและเปลตาข่ายให้นอนอาบแดด อ่านหนังสือ นอนกลิ้งเล่นได้ตลอดทั้งวัน
ได้สัมผัสทั้งบรรยากาศชายทะเล และแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ที่อุดมสมบูรณ์
ถ้าอยากนอนอาบแดดก็มีเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านหน้าอีก 2 ตัว ในช่วงที่แสงแดดเย็นลง ตอนดูวิวทะเลตรงนี้ก็เพลินเหมือนกัน แต่ยังมีจุดที่เพลินมากกว่านี้ ต้องมาติดตามอ่านกันต่อ
เมื่อเปิดเข้ามาในห้อง ก็พบกับคอมพลิเมนทารี่เวลคั่มดริงก์เป็น น้ำมะพร้าวเสิร์ฟทั้งลูก เนื้อมะพร้าวอ่อน น้ำมะพร้าวหวานอร่อย ชื่นใจมาก
พร้อมกับคอมพลิเมนทารี่เวลคั่มฟรุ๊ต ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ
บรรยากาศดีแบบนี้เราขอ ยกเอามะพร้าวมานอนดื่มดูวิวทะเลให้เย็นใจ
ทางขึ้นวิลล่ามีที่ล้างเท้า ล้างทราย ใช้งานได้สะดวกดี
วิลล่าแบบ Beach Front Suite Pool Villa นี้จะแยกพื้นที่เป็นห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าว ระเบียงดูพระอาทิตย์ตก ห้องนอน ห้องอาบน้ำที่กว้างมากๆ มีห้องน้ำถึงสองห้อง พื้นที่ใช้สอยกว้างขวางทุกจุด
ทีวีมีสองเครื่อง ในห้องนั่งเล่นและห้องนอน วิวจากห้องนอนก็มองเห็นทะเลสุดฟินอย่างภาพที่เราเก็บมาฝากกัน
พื้นที่สำหรับทานข้าว แยกบริเวณออกมาให้นั่งกันเหลือเฟือ
เตียงนอนที่นี่เป็นเตียงที่สั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่าเตียงคิงไซส์ทั่วๆไป นอนกลิ้งสบาย นุ่มมาก
พื้นที่ห้องนอน ยังกว้างมาก มีเก้าอี้ไม้ไผ่ให้นั่งชิลและเตียงเดย์เบดให้นอนชมวิวเนื้อผ้าที่ใช้หุ้มโซฟา มีความพิเศษหนานุ่ม ทำให้นั่งสบาย เดย์เบดตรงนี้นอนสบายมาก
ด้านซ้ายมือติดกับห้องน้ำเป็นห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ที่เราจะพาไปชมกันต่อๆไป
ระเบียงทางเดินเชื่อมระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอน มีความกว้างมากและที่สำคัญคือเป็นมุมพิเศษที่เรามานั่งตรงนี้มากที่สุดมุมนึง
เพราะว่าจากระเบียงตรงนี้ เมื่อนั่งจะเห็นวิวทะเลที่สวย ปิดแอร์แล้วเปิดรับลมธรรมชาติแล้วผ่อนคลายมาก เราจึงมักจะมานั่งจิบเครื่องดื่มร้อน ชมวิวตรงนี้
มีสะพานให้เดินไปยังระเบียงสระว่ายน้ำอีกด้วย มุมที่มองย้อนกลับไปยังระเบียงโซฟาที่เราชอบนั่ง
มาถึงส่วนห้องน้ำที่กว้างและใช้งานได้เต็มที่อีกบริเวณนึงอ่างล้างหน้า ปั้นขึ้นด้วยดิน
อ่างอาบน้ำที่ด้านบนเป็นกระจก มีขนาดใหญ่ นอนแช่น้ำได้ผ่อนคลายมากๆ
ชุดอเมนนิตี้ของทางรีสอร์ทมีความโดดเด่นมากจริงๆ กับกลิ่นตะไคร้ที่หอมเป็นเอกลักษณ์
พื้นที่ใช้สอยตรงห้องน้ำ กว้างขวางใช้งานได้สะดวก พื้นไม่ลื่นเมื่อเปียกด้วย
อ่างแช่น้ำที่เรา แช่เช้าเย็น รีสอร์ทยังมีเกลือแช่ตัวกลิ่นตะไคร้ให้แช่สร้างความผ่อนคลายอีกด้วย
อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่คือ Thai Bath ห้องอาบน้ำแบบเอาดอร์สไตล์ไทย ตักน้ำอาบจากโอ่ง ทางรีสอร์ทยังเตรียมผ้าขาวม้าและผ้าซิ่นให้ใช้งานกันอีกด้วย
ภายในห้องนอนก็ชวนให้เราอยากล้มตัวนอนตลอดเวลา เก้าอี้นั่งทำงานตรงนี้ก็ชวนให้นั่งทำอะไรไปเพลินๆ พร้อมกับดูวิวไปด้วย
เฟอร์นิเจอร์ที่นี่เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ไผ่
เรือลำนี้จะติดอยู่บริเวณห้องน้ำของวิลล่าทุกหลัง
หลังคามุงซ้อนทับด้วยเสื่อกกทำให้ไม่ร้อนในช่วงกลางวัน
ภายในวิลล่ามีชากาแฟและเครื่องทำกาแฟไว้ใช้งาน
และเมื่อได้กาแฟร้อนๆแล้วเราก็จะมานั่งจิบดูวิวตรงนี้
สำรวจห้องพักกันเรียบร้อนแล้ว เราจะพามาเดินชมบรรยากาศรอบๆรีสอร์ทกันบ้าง
ป้ายบอกทางรีสอร์ทติดไว้ละเอียดดี ไม่หลงแน่นอน
การตกแต่งของ ไฮซีซั่น พูลวิลล่า แอนด์ สปา (High Season Pool Villa & Spa) จะเน้นความกลมกลืนกับธรรมชาติ ผสมผสานกับศิลปะวัฒนธรรมของไทย หากสังเกตโดยละเอียดจะพบว่าการตกแต่งหลายๆส่วนทั้งในวิลล่าและภายในรีสอร์ทจะมีแรงบรรดาลใจมาจากวัฒนธรรมท้องถิ่นของไทย
ตัวอย่างเช่นระหัดวิดน้ำ ที่อยู่ระหว่างทางเดินภายในรีสอร์ท
แหตกปลา ก็มีให้แขกที่มาพักได้เห็น สะท้อนถึงวัฒนะธรรมการดำเนินชีวิตของคนไทยพื้นบ้าน
แปลงปลูกผักที่ใช้ปลูกและเก็บเกี่ยวจริง
มาถึงไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของ ไฮซีซั่น พูลวิลล่า แอนด์ สปา นั่นคือ สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ และ ชายหาดหน้ากว้าง
สระว่ายน้ำระบบเกลือนี้ทางรีสอร์ทเรียกว่า Galaxy Salt Pool เป็นสระเกลือที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะกูด ขนาด 15×30 ตารางเมตร
ถึงแม้แต่ละวิลล่าจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว แต่การได้ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศว่ายที่สระส่วนกลาง สักช่วงหนึ่งของการพักผ่อนก็น่าสนใจหรือจะมานั่งเล่นพักผ่อนก็ดีเหมือนกัน
ในแต่ละวัน ทางรีสอร์ทจะมีกิจกรรมที่เปิดให้แขกที่เข้าพัก ได้เข้าร่วมทำกิจกรรมด้วยกันฟรี ตารางกิจกรรมมีเขียนไว้บนป้ายที่ริมชายหาด
เป็นข้อดีของรีสอร์ทนี้ที่มีหน้าหาดที่กว้างมาก ทำให้เราได้สัมผัสกับน้ำทะเลใสๆ หาดทรายขาวๆของเกาะกูดได้อย่างเต็มที่ น้ำใสมากจริงๆ อดใจไม่ไหวหรอกเมื่อได้มาเห็นความใสของน้ำ บางช่วงเวลาเห็นถึงการไล่โทนของน้ำตั้งแต่เขียว ฟ้า น้ำเงินเนวี่บลู กันไปเลย ลักษณะของชายหาดเป็นชายหาดที่ค่อยๆลาดลงไปในทะเล น้ำไม่ลึกมาก วิ่งเล่น กระโดดเข้าหาคลื่นได้สนุกมากทีเดียว
ใครที่ห่วงสุขภาพ เกรงว่าจะกินอิ่มนอนหลับจนร่างกายไม่ได้เผาผลาญเอาแครอรี่ออกเสียบ้าง ทางรีสอร์ทก็มีฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ครบครันให้ออกกำลังกายอยู่ภายในรีสอร์ท
ในส่วนของด้านหน้าที่เป็น Reception ซึ่งตอนที่เรามาถึง ทุกอย่างราบรื่นมากจนเราสามารถเดินเข้าไปที่วิลล่าหลังที่พักได้ทันที จนไม่มีโอกาสได้แวะเวียนมาชมบริเวณด้านหน้าของรีสอร์ท ได้จังหวะเดินเล่นเราเลยแวะมาดูสักหน่อย
ติดกับ Reception เป็นพื้นที่สำหรับขายโปรแกรมทัวร์ต่างๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการทริปที่พิเศษยิ่งกว่า
ติดกันเป็นร้านขายของที่ระลึก ที่ขายทุกอย่างไว้ครบ
ใครไม่มีพร๊อบ หมวก แว่นตา ชุดเดรส สำหรับถ่ายรูปบนชายหาดล่ะก็ มาซื้อหาที่นี่ได้ ราคาถือว่าสมเหตุสมผล
เดินชมไปมารู้สึกเพลินดี จนเกือบได้ของติดไม้ติดมือ
หลังจากที่ได้ชมห้องพักและบรรยากาศโดยรอบของทางรีสอร์ทกันแล้ว ยังมีจุดที่น่าสนใจและไฮไลท์อีกหลายๆอย่างที่จะเล่าให้ทุกคนได้อ่านกัน ติดตามในตอนที่ 2 ต่อกันได้เลย
เช็คราคาและจอง High Season Pool Villa & Spa ได้ทันทีที่นี่
ใครสนใจที่จะมาใช้บริการสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.highseasonresort.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร (+66) 02 416 8899 อีเมล [email protected]
Quick Link : High Season Resort, Koh Kood
- อาหารเช้า 2 สไตล์จะไพร์เวทที่วิลล่า หรือ จัดเต็มกับบุฟเฟ่ต์อาหารเช้านานาชาติก็เลือกได้
- High Spa นวดผ่อนคลายได้ดีมาก นี่เป็นสปาดีที่ต้องแนะนำ
- High Season Love Boat สุดเอกคลูซีพกับการล่องเรือทานอาหาร บรรยากาศสุดโรแมนติก
- Afternoon Tea Bird’s Nest มาถึงต้องจัด ห้ามพลาด!
- The Coffee Terrace ร้านกาแฟดีดีบนเกาะกูด
- Beach Front Restaurant ไฮซีซั่น พูลวิลล่า แอนด์ สปา เกาะกูด
- สิ้นสุดวันอย่างสวยงามกับการชมพระอาทิตย์ตกที่เกาะกูด
- ร้านอาหารอิตาเลี่ยนรสชาติดี มีที่เกาะกูด
ชอบที่นี่มากครับ ห้องใหญ่ ห้องน้ำอลังการมาก amenities ในห้องน้ำก็หอมมาก อยากกลับไปอีกครับ