เปิดประสบการณ์แห่งรสชาติที่งดงาม ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ (Siam Kempinski Hotel Bangkok) กับการโคจรมาพบกันของสองเชฟมากฝีมือระดับโลกอย่าง เชฟยูสุเกะ อาโอกิ (Yusuke Aoki) เชฟขนมหวานชื่อดังจากญี่ปุ่น และ เชฟแฟรงค์ อิสเทล (Franck Istel) หัวหน้าเชฟเบเกอรีแห่งโรงแรมฯ ที่ร่วมกันรังสรรค์ Afternoon Tea เซตพิเศษ ถ่ายทอดความละเมียดละไมของวัฒนธรรมขนมหวานฝรั่งเศสและญี่ปุ่นในทุกคำที่ลิ้มลอง

เชฟยูสุเกะถ่ายทอดศาสตร์ขนมหวานแบบญี่ปุ่นร่วมสมัยที่เปี่ยมด้วยรายละเอียดอันงดงาม ทั้งในแง่รสชาติและการตกแต่ง ขณะที่เชฟแฟรงค์นำเสนอเทคนิคเบเกอรีแบบฝรั่งเศสที่เต็มไปด้วยความละเมียดละไม ผสานความคิดสร้างสรรค์เข้าไว้ในทุกรายละเอียดของขนม เมื่อสองศิลปินแห่งขนมหวานมาร่วมสร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน จึงเกิดเป็นคอลเลกชันของหวานที่ทั้งละมุนละไมและลุ่มลึก ครบถ้วนทั้งรส กลิ่น และสัมผัส ถ่ายทอดเรื่องราวของสองวัฒนธรรมได้อย่างงดงามและมีเอกลักษณ์

แนวคิดของ Afternoon Tea ชุดนี้เน้นการเชื่อมโยงเอกลักษณ์ของวัตถุดิบจากสองซีกโลกอย่างแยบยล ไม่ว่าจะเป็น มัทฉะ ยูสุ ลาเวนเดอร์ หรือแบล็กทรัฟเฟิล ซึ่งล้วนสะท้อนรสนิยมของแต่ละวัฒนธรรมได้อย่างชัดเจน เชฟทั้งสองเลือกวัตถุดิบเหล่านี้มาสร้างสรรค์ขนมในรูปแบบใหม่ ด้วยเทคนิคการทำขนมชั้นสูง ผสมผสานกลิ่นอายความหรูหราจากฝรั่งเศสและความละเอียดอ่อนของญี่ปุ่น เพื่อให้ทุกคำที่ลิ้มลองไม่เพียงมอบความอร่อย แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่เปี่ยมด้วยความตั้งใจและจินตนาการ ถ่ายทอดความเป็นตัวตนของเชฟทั้งสองผ่านรสชาติที่น่าจดจำ

เริ่มต้นด้วย SAVOURIES ที่โดดเด่นด้วยรสชาติและการจัดวางอันประณีต เสมือนบทนำของบทเพลงแห่งรสสัมผัสที่กำลังจะเริ่มต้น ความนุ่มนวลของ Parmesan Sablé with Ceps and Champignon Mushroom เผยรสพาร์เมซานเข้มข้นที่ผสานกับกลิ่นหอมลึกของเห็ดสองชนิด สร้างความกลมกล่อมที่ละเมียดละไมในทุกคำที่สัมผัส ต่อด้วย Smoked Foie Gras with Cherry Glaze, Cinnamon and Aniseed Puff Pastry ที่ถ่ายทอดความหรูหราในรูปแบบที่อบอุ่น ตับห่านรมควันหอมกรุ่นเข้ากันได้ดีกับเชอร์รี พร้อมชั้นแป้งพัฟบางกรอบที่อบอวลด้วยกลิ่นอบเชยและโป๊ยกั๊กอย่างแผ่วเบา เพิ่มมิติให้กับคำนี้ได้อย่างน่าประทับใจ



ต่อเนื่องด้วย Crispy Nori Taco with Avocado, Salmon Gravalax and Wakame ที่นำเสนอความกรุบกรอบของทาโก้สาหร่ายเคลือบเบา ๆ ด้วยกลิ่นทะเล เคียงคู่กับแซลมอนหมักเนื้อนุ่มที่หอมละมุนในสไตล์ Gravalax เติมความนวลด้วยอะโวคาโดเนื้อครีมมี่และวากาเมะเค็มเล็กน้อย เมนูนี้จึงเปรียบเสมือนการยกกลิ่นอายแห่งมหาสมุทรมาวางบนจานอย่างมีศิลปะ อีกหนึ่งคำที่ไม่ควรพลาดกับ Truffled Egg Mayonnaise Sandwich แซนด์วิชไข่เนื้อเนียนนุ่มที่กลิ่นหอมของทรัฟเฟิลแผ่ซ่านออกมาทันทีที่กัด ความเข้มข้นของมายองเนสที่ผสมผสานอย่างกลมกล่อมกับไข่ต้มบดละเอียด เสิร์ฟมาในขนาดพอดีคำ พร้อมความละเมียดละไมในทุกองค์ประกอบ


เข้าสู่โซน SWEETS ที่เปรียบเสมือนบทกวีแห่งความหวาน เริ่มต้นด้วยเมนูเด่นอย่าง Matcha Opera Layered Cake ที่จัดวางอย่างวิจิตรบรรจงด้วยเลเยอร์สีเขียวเข้มและเนื้อสัมผัสที่เนียนละมุนตา ความเข้มข้นของมัทฉะเกรดพรีเมียมผสานเข้ากับบัตเตอร์ครีมเนื้อนุ่มและชั้นเค้กบางเบา เกิดเป็นความสมดุลที่น่าประทับใจในทุกคำ ถัดมาคือ Yuzu Vanilla White Chocolate Vacherin ขนมหวานสีขาวสะอาดตาที่นำเสนอผ่านโครงสร้างกรอบบางกรุบซึ่งแตกเบา ๆ ในปาก เผยให้สัมผัสถึงครีมวานิลลาหอมละมุนที่ซ่อนกลิ่นเปรี้ยวสดชื่นของยูสุไว้อย่างลงตัว กลมกล่อมกับความหวานนุ่มของไวท์ช็อกโกแลตในสไตล์ฝรั่งเศสอย่างมีชั้นเชิง



อีกหนึ่งเมนูที่ต้องลองคือ Hoji Tea Jivara Mousse with Apricot Confit มูสเนื้อเนียนที่รวมเอาความหอมอบอุ่นของชาโฮจิเข้ากับความละมุนลุ่มลึกของช็อกโกแลตจิวาร่า เกิดเป็นสัมผัสที่ทั้งนุ่มนวลและกลมกล่อม เสริมด้วยแอปริคอตกวนที่ให้รสเปรี้ยวสดชื่นตัดเลี่ยนได้อย่างชาญฉลาด ขณะที่ Strawberry Verrine with Sakura Jelly and Milk Blanc Manger นำเสนอกลิ่นอายฤดูใบไม้ผลิไว้อย่างงดงามในถ้วยเล็ก ๆ ชั้นเจลลี่ซากุระสีชมพูใสโปร่งแสงให้ความรู้สึกเบาดุจกลีบดอกไม้ พร้อมด้วยเนื้อนมขาวเนียนนุ่มและสตรอว์เบอร์รีสดที่หอมหวาน ช่วยปลุกอารมณ์ความสดใสและละเมียดละไมในทุกชั้นรสชาติ ปิดท้ายความสมบูรณ์แบบด้วย Scones ที่อบใหม่อย่างพิถีพิถัน ทั้งแบบดั้งเดิมและมัทฉะ กลิ่นหอมของเนยแท้ผสานกับสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อม Yuzu Curd เปรี้ยวหอมสดชื่น แยมราสป์เบอร์รีหวานอมเปรี้ยว และ Devonshire Clotted Cream เนื้อเนียนเข้มข้น เพิ่มเสน่ห์ให้ทุกคำที่ลิ้มลอง



ยังไม่หมดเพียงเท่านี้…ภายในเซตยังมี Pass Around ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ความหวานในรูปแบบที่น่าประทับใจ เริ่มด้วย Mini Chocolate Canelé ขนมฝรั่งเศสคลาสสิกที่ถูกตีความใหม่ด้วยการเคลือบช็อกโกแลตเข้มข้นด้านนอก เสริมความกรอบเล็กน้อยตัดกับเนื้อในที่หนึบแน่นหอมกลิ่นวานิลลาอย่างลงตัว ถัดมาเป็น Petite Tropézienne à la Vanille and Mangue ความละมุนของคัสตาร์ดวานิลลาที่ผสานความสดชื่นของมะม่วงในแป้งบริยอชเนื้อนุ่ม เสิร์ฟมาในขนาดพอดีคำ ให้ความรู้สึกเหมือนได้ลิ้มลองความสดใสของฤดูร้อนในฝรั่งเศส ปิดท้ายด้วย Lavender-Infused Chocolate Lollipops ที่เติมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกลาเวนเดอร์ลงในช็อกโกแลตคุณภาพเยี่ยม สร้างอารมณ์ละมุนละไมในทุกคำที่ได้ลิ้มลอง




เติมเต็มประสบการณ์ด้วย Madeleine Pistachio Raspberry ขนมสไตล์ฝรั่งเศสที่อบจนผิวด้านนอกกรอบนิด ๆ แต่ยังคงความนุ่มละมุนภายใน หอมเนยแท้ผสานกลิ่นพิสตาชิโอ และเพิ่มความสดชื่นด้วยไส้ราสป์เบอร์รีรสเปรี้ยวหวานที่ทำให้ทุกคำมีชีวิตชีวา ถัดมาเป็น Black Truffle Macaron มาการองที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลต์สำหรับสายกินหรู กลิ่นทรัฟเฟิลอันเป็นเอกลักษณ์แผ่ซ่านออกมาทันทีที่กัด พร้อมไส้ครีมที่เนียนนุ่มและสมดุลอย่างน่าประทับใจ และปิดท้ายประสบการณ์ของหวานอย่างละเมียดละไมด้วย Soft Chocolate Cherry Slice Cake เค้กช็อกโกแลตเนื้อนุ่มเข้มข้นที่แทรกรสเปรี้ยวของเชอร์รีไว้อย่างแนบเนียนในทุกคำ มอบความประทับใจที่ยังคงติดอยู่บนปลายลิ้น


ภายในเซต Afternoon Tea ยังรวมชาและกาแฟระดับพรีเมียมให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมสดชื่นของชาจากใบชาคุณภาพ หรือกาแฟรสเข้มกลมกล่อมที่ชงอย่างพิถีพิถัน เสริมให้ช่วงเวลาแห่งการจิบชายามบ่ายนี้งดงามยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเลือกจิบชาเคียงขนมหวาน หรือดื่มกาแฟเข้ม ๆ คู่ของว่างก็คู่ควรอย่างยิ่งกับบรรยากาศหรูสงบภายใน โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ (Siam Kempinski Hotel Bangkok) พร้อมเสิร์ฟ ณ 1897 เลาจน์ ในรูปแบบ Afternoon Tea Set ราคา 2,490++ บาทสำหรับสองท่าน หรือเลือกสัมผัสในรูปแบบบุฟเฟ่ต์ Afternoon Tea ที่นิช เลาจน์ ในราคาเพียง 1,850++ บาทต่อท่าน เท่านั้น

1897 Lounge
- Location: ชั้น 1 โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ (Siam Kempinski Hotel Bangkok)
- Opening Hours: ทุกวัน เวลา 8.00 – 24.00น. | Afternoon Tea เวลา 13.00 – 17.00น.
- Reservations: 02-162-9000 | Email: [email protected]
- Facebook: SiamKempinskiHotelBangkok
- Instagram: @siamkempinski
- Website: https://www.kempinski.com/en/siam-hotel