เมื่อเรามีโอกาสเข้าไปลิ้มลองบาร์แห่งใหม่ที่ไม่คุ้นเคย เมนูแรกที่เราจะสั่งมาลองก็ต้องซิกเนเจอร์ดริ้งก์ของทางร้าน และเราก็เชื่อว่านี่คือไฮไลท์ที่จะโชว์ความเจ๋งของร้าน ส่วนอีกหนึ่งดริ้งก์ที่เรามักจะสั่งมาลิ้มลองบ่อยๆ ก็คือ ‘ เนโกรนี ( Negroni ) ’ นี่แหล่ะ ความขมนุ่มแทรกหวานเล็กน้อยของเนโกรนี สร้างความพึงพอใจและให้ความรีแล็กซ์กับเราได้ดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาพระอาทิตย์เริ่มหรี่แสงลงเป็นต้นไป วันนี้เราจึงขอหยิบยกเอา ‘ เนโกรนี ’ บุรุษหนุ่มสีจัดจ้านแววตาแฝงไปด้วยความสุขุมนุ่มนวล มาแนะนำให้ทุกคนรู้สึกสนิทกับเค้ามากยิ่งขึ้น
จากที่เราได้อ่านข้อมูลและพูดคุยกับนักดื่มผู้ช่ำชองหลายๆ ท่าน พบว่าข้อมูลเกี่ยวกับ ‘เนโกรนี (Negroni)’ ต่างกันเล็กน้อย สิ่งที่ทุกคนบอกเล่าได้ตรงกันคือ เนโกรนีเกิดขึ้นครั้งแรกที่ ประเทศอิตาลี ในยุค 1920s ยุคประวัติศาสตร์ที่อเมริกาห้ามขายเหล้า (Prohibition Era) โดยมีเอกลักษณ์ประจำตัวดังนี้
1.เป็นค็อกเทลประเภท Bitter เหล้าสมุนไพรมีรสขมเมื่อดื่มจะมีกลิ่นหอมและมี รสหวานแทรกมาเพียงเล็กน้อย ผู้เขียนเรียกรสชาตินี้ว่ารสขมนุ่ม
2.มีส่วนผสมหลัก 3 อย่างคือ Gin-Red Vermouth-Campari อัตราส่วนผสมพื้นฐานตรงๆ ง่ายๆ คือ 1:1:1 สีแดงของเวอร์มุธจะถูกผสมลงไปในเหล้าจิน ตามมาด้วยบิตเทอร์อย่าง Campari
3.สีแดงเข้มสด ที่บางคนเปรียบให้เป็นสีเลือดนก เป็นสเน่ห์อันคมเข้ม
4.มีชิ้นของส้มประดับอยู่ในแก้ว
อย่างไรก็แล้วแต่ความเป็น ‘เนโกรนี ’ ในแต่ละที่ก็ย่อมมีความแตกต่างกันมากน้อยก็แล้วแต่ความครีเอทีฟของบาร์เทนเดอร์และมิกโซโลจิสต์แต่ละบาร์ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เหมือนตัวตนของคุณ ไม่ว่าคุณจะแต่งตัว เติมสี เติมกลิ่นใส่ตัวคุณเข้าไปยังงัยสุดท้ายตัวตนคือสิ่งที่ชัดเจนและทำให้คนได้จดจำว่านี่ตัวคุณ หรือถ้ามากกว่านั้นก็อาจต้อง ทำอะไรที่ไม่ธรรมดา เพราะ “ธรรมดาโลกไม่จำ” …ใครหลายคนได้กล่าวไว้
ทีนี้ถึงตาคุณแล้วล่ะ ช่วยบอกเราหน่อยว่า Negroni ที่คุณชอบมากที่สุดอยู่ที่ไหน