สำหรับผู้ที่กำลังมองหาประสบการณ์การจิบชายามบ่ายที่ไม่เหมือนใครและเต็มไปด้วยความพิถีพิถัน โอกุระ อาฟเตอร์นูนที โอมากาเสะ (Okura Afternoon Tea Omakase) ที่ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ และบาร์ (Up and Above Restaurant and Bar) ของ โรงแรมดิโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ถือเป็นอีกโอกาสพิเศษที่น้อยคนนักจะได้สัมผัส แต่ SOtraveler กลับได้รับโอกาสสุดพิเศษนี้ ด้วยบริการที่เปิดให้เฉพาะเดือนละสองวันในสุดสัปดาห์ที่สามของทุกเดือน และมีที่นั่งจำกัดเพียงแปดที่นั่งต่อรอบ ทำให้ทุกประสบการณ์ไม่เพียงแต่หรูหราและพิเศษเท่านั้น แต่ยังมอบความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดที่เชฟและทีมคัดสรรมาอย่างลงตัว
ในชุด โอกุระ อาฟเตอร์นูนที โอมากาเสะ (Okura Afternoon Tea Omakase) นำเสนอความงดงามของศิลปะญี่ปุ่นผสานกับความหรูหราของชายามบ่ายยุโรป ที่ถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นประสบการณ์ที่เหนือระดับ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดโอมากาเสะของประเทศญี่ปุ่น ที่มีความหมายตรงตัวว่า “ฉันฝากไว้กับเธอ” ซึ่งในบริบทของทางห้องอาหารสามารถแปลได้ว่า “ฝากท้องของฉันไว้กับเชฟ” ทำให้ทุกเมนูถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ทำให้การจิบน้ำชายามบ่ายครั้งนี้เป็นมากกว่าประสบการณ์ทั่วไป
การสร้างสรรค์เมนูในชุดน้ำชาโอมากาเสะนี้ได้รับการดูแลโดย เชฟเซบาสเตียน ฮูแกแวร์ฟ (Sebastiaan Hoogewerf) หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ของโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สั่งสมมา เชฟเซบาสเตียนได้ผสมผสานรสชาติแบบญี่ปุ่นและยุโรปได้อย่างลงตัว แต่ละเมนูถูกออกแบบและปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศ เพื่อให้ทุกคำที่ลิ้มลองนั้นเต็มไปด้วยรสชาติที่น่าประทับใจและความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน
เริ่มต้นมื้อสุดพิเศษด้วยเมนู Fresh Sashimi Of Toyosu Market ที่นำเสนอปลาสดใหม่จากตลาดโทโยสุ เสิร์ฟพร้อมกับซอสโทมะสุ สวีต สไปซี่ ซอย ที่เพิ่มความหวานและเผ็ดอย่างลงตัว ต่อมาคือ Smoked Hokkaido Scallops หอยเชลล์ฮอกไกโดรมควัน เสิร์ฟพร้อมกับครีมต้มข่า, น้ำมันสมุนไพร และคาเวียร์เพอร์ซีอุส ซึ่งเป็นคาเวียร์ที่ได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ทำให้ได้คาเวียร์ที่มีคุณภาพสูงและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ รสชาติของหอยเชลล์ที่นุ่มนวลเข้ากันได้ดีกับซอสครีมต้มข่าที่มีความหอมของสมุนไพร และเพื่อเพิ่มความสดชื่นระหว่างเพลิดเพลินกับทั้งสองเมนู กับเครื่องดื่ม Mango Mix ที่ประกอบด้วยมะม่วงสติกกี้คอร์เดียล, ใบสะระแหน่ และโซดา ซึ่งมีกลิ่นหอมของมะม่วงและมอบความสดชื่นที่ลงตัว


เมนูถัดไปคือ Hiyayakko Tofu เต้าหู้เนื้อนุ่มละมุนเสิร์ฟกับน้ำซอสนันบันสุ (Nanbansu), หอยเม่นฮอกไกโด และถั่วฮิจิกิ (Hijiki Mame) ที่มีรสชาติหวานจากธรรมชาติ ช่วยเสริมความกลมกล่อมของเต้าหู้เนื้อเนียน จากนั้นคุณจะได้ลิ้มลอง Glacier 51 Toothfish ปลา Toothfish ที่อยู่ในน้ำลึกในแถบขั้วโลกใต้ เนื้อปลาที่เสิร์ฟพร้อมซอสยูซุ มิซโซ เบอเรอ์ บลองค์ (Yuzu Miso Beurre Blanc) รสชาติของปลานั้นอร่อยและมีความนุ่มละมุน ไม่ต่างจากเนื้อวากิวจากท้องทะเล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของปลาชนิดนี้ เพื่อเสริมประสบการณ์ในการทานอาหาร เมนู Royal Highball จะถูกเสิร์ฟพร้อมกับลิ้นจี่คอร์เดียล (Lychee Cordial), น้ำเชื่อมลำใย (Longan Syrup) และโซดา ที่มีกลิ่นหอมหวานและรสชาติที่ลงตัว ช่วยชูรสชาติของทั้งสองเมนูได้อย่างดี







ปิดท้ายเมนูคาวด้วย Razor Clams หอยแมลงภู่ผิวบางเสิร์ฟพร้อมคาราซูมิ (Karasumi), เฟรโกล่า (Fregola), เซเลอรี เวอลูเต้ (Celery Velouté) และไข่รานู (Ranou Egg) ที่ผสมผสานรสชาติทะเลและความนุ่มของไข่ได้อย่างลงตัว เมนูนี้ถูกเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องดื่ม Peach Umeshu ที่มีรสชาติหวานจากลูกพีชและความหอมของอูเมะชู ช่วยเติมเต็มความลงตัวของรสชาติในทุกคำ
เข้าสู่เมนูของหวานเริ่มต้นด้วย Native Organic Vanilla เชฟนำวานิลลาจากภาคเหนือของประเทศไทยที่เชฟไปเลือกสรรมาด้วยตัวเอง มาผสมผสานกับมะยงชิตและดอกมาริโกลด์ (Marigold) สร้างรสชาติหอมหวานและสดชื่นที่เป็นเอกลักษณ์ ต่อมาคือ Thai Tea คุกกี้ชาไทยแบบเย็นที่ทำสดด้วยไนโตรเจนเหลว (Liquid Nitrogen) ช่วยเพิ่มความสดชื่นจากอุณหภูมิที่เย็นจัดและเสริมรสชาติชาไทยให้อร่อยยิ่งขึ้น แถมยังได้เพลิดเพลินทั้งสองเมนูด้วยรสชาติของชาร้อน Mariage Frères “Rouge Metis” ที่มีกลิ่นหอมของผลไม้และเครื่องเทศ ช่วยสร้างความสมดุลให้กับเมนูของหวานได้ดี
ปิดท้ายมื้อสุดพิเศษด้วยเมนูของหวานเริ่มต้นด้วย Cacao Pod ที่เสิร์ฟมาในรูปแบบของฝักเมล็ดคาเคา ภายในอัดแน่นไปด้วยไส้บานอฟฟี่ที่รสชาติหวานมันและเข้มข้น เมื่อตัดแล้วไส้จะทะลักออกมาอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ต่อมาคือ Mayong-Chid ไอศกรีมมะยงชิตที่มีเนื้อสัมผัสหวานฉ่ำและสดชื่น เสิร์ฟพร้อมเนื้อมะยงชิตที่คงความหวานอร่อยตามธรรมชาติ เป็นการปิดท้ายที่สดชื่นและหวานละมุน ขาดไม่ได้กับชาร้อน Mariage Frères “The L’Opera” ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การจิบชาในช่วงท้ายของมื้อได้อย่างลงตัว


การได้สัมผัส โอกุระ อาฟเตอร์นูนที โอมากาเสะ (Okura Afternoon Tea Omakase) คือการได้รับประสบการณ์ชายามบ่ายสุดหรูหราและเป็นส่วนตัว ที่น้อยคนนักจะมีโอกาสได้สัมผัส ทั้งในด้านการบริการที่เป็นเอกลักษณ์และความพิถีพิถันในการคัดสรรเมนูอันวิจิตร เมนูต่าง ๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละเดือน ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่สดใหม่และตามฤดูกาล โดยเชฟจะคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การทานชายามบ่ายที่ไม่เหมือนใคร บริการนี้เปิดให้ในทุกสุดสัปดาห์ที่สามของทุกเดือน ที่ห้องอาหารอัพ แอนด์ อะบัฟ และบาร์ (Up and Above Restaurant and Bar) โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ตั้งแต่เวลา 15:00 น. ถึง 17:00 น. ในราคาท่านละ 1,950++ บาท พร้อมเครื่องดื่ม
Up and Above Restaurant and Bar
- Location: โรงแรมดิโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok)
- Opening Hours: ทุกสุดสัปดาห์ที่สามของเดือน เวลา 15.00 น. – 17.00 น.
- Reservations: 02-687-9000 หรือ [email protected]
- Facebook: TheOkuraPrestigeBangkok
- Instagram: @okuraprestigebkk
- Website: www.okurabangkok.com