ไม่กี่วันที่ผ่านมา SOtraveler.COM ได้รับเกียรติจากแบรนด์ปัญญ์ปุริ (PAÑPURI) เพื่อมาร่วมงานเปิดตัวบ่อน้ำร้อนออนเซนที่ชั้น 12 ตึกเกษร ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “ปัญญ์ปุริ เวลเนส แอนด์ ออนเซน” (PAÑPURI WELLNESS & ONSEN) ออร์แกนิค สปา และออนเซนระดับลักซ์ชัวรี่ใจกลางกรุงเทพฯ แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ตอบรับเทรนด์ในการดูแลใส่ใจสุขภาพของคนในปัจจุบัน
หลายคนคงอยากรู้รายละเอียดเกี่ยวกับบ่อน้ำร้อนออนเซน เปิดใหม่ของ PAÑPURI กันแล้วล่ะ เราขอเล่าบรรยากาศกันตั้งแต่ทางเข้าเลยดีกว่า ออกจากลิฟท์ชั้น 12 เกษรทาวเวอร์ เกษรวิลเลจก็จะพบกับล็อบบี้ต้อนรับสีขาวดีไซน์แบบมินิมอลเรียบง่าย พนักงานจะนำสลิปเปอร์มาให้ใส่และนำรองเท้าไปเก็บให้ในล้อคเกอร์ให้ พื้นที่บริเวณนี้จะมีเครื่อง Humidifier (เครื่องปล่อยไอน้ำ) ที่ใช้กลิ่นเปลือกส้มผสมกับตะไคร้ช่วยให้มีกลิ่นที่สดชื่นทั่วพื้ันที่สปา โดย PAÑPURI WELLNESS & ONSEN มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดกว่า 2,000 ตารางเมตร หรือพื้นที่ทั้งชั้นของตึก
บริเวณล็อบบี้จะมีอาหารและเครื่องดิ่มเพื่อสุขภาพให้บริการ และแน่นอนว่าอาหารและเครื่องดื่มเป็นอาหาร Organic ที่เป็นธรรมชาติ 100% ดีต่อสุขภาพ รวมทั้งยังควบคุมแคลอรี่ไม่ให้เกิน 600 แคลอรี่อีกด้วย เหมาะมากๆสำหรับคนที่รักสุขภาพและดูแลรักษาบอดี้ให้ฟิตเปรี๊ยะ
PAÑPURI ONSEN
ก่อนที่จะแช่น้ำกันคงอยากทราบราคากันตั้งแต่เริ่ม ราคาการแช่ออนเซนจะอยู่ที่ 750 บาทต่อครั้งสำหรับผู้ใหญ่ และ 450 บาทต่อครั้งสำหรับเด็ก โดยจ่ายหนึ่งครั้งสามารถแช่ได้ตลอดทั้งวันตราบที่ยังอยู่ในพื้นที่สปาแต่ควรระวังและแช่แต่พอดีตามคำแนะนำของพนักงาน
อุปกรณ์ที่ทุกคนจะได้รับได้แก่ เสื้อคลุมอาบน้ำ ผ้าขนหนู น้ำดื่ม สายข้อมือที่ใช้ระบบไร้สายที่ทำหน้าที่เป็นกุญแจเปิดปิดล้อคเกอร์ พร้อม E-wallet ไว้ใช้ซื้ออาหารและเครื่องดื่ม
บ่อแช่น้ำร้อนออนเซนเปิดบริการทั้งหมด 3 โซนคือ Public Male (ฝั่งชาย) Public Female (ฝั่งหญิง) และ Private Onsen ซึ่งเป็นบ่อน้ำร้อนส่วนตัว ฝั่งผู้ชายนั้นไม่อนุญาติให้ใส่เครื่องนุ่งห่มใดๆ เข้าไปเด็ดขาดยกเว้นผ้าขนหนูที่ทางสปาเตรียมไว้ให้ ส่วนฝั่งผู้หญิงจะมีชุดชั้นในชั่วคราวให้ใส่ปกปิดร่างกายระหว่างลงได้
สำหรับเด็กๆ สามารถลงบ่อแช่น้ำร้อนออนเซนได้ แต่ต้องอยู๋ในการควบคุมของผู้ปกครองในแต่ละฝั่งเด็กผู้ชายก็ต้องอยู่กับพ่อ และ เด็กผู้หญิงก็ต้องอยู่กับแม่
พื้นที่ออนเซนที่นี่ถูกออกแบบโดยบริษัทออกแบบชื่อดัง A-Asterisk โดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น Nobuhiro Nakamura ดีไซน์และตกแต่งพื้นที่ให้มีกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่นผสมผสานอยู่ทุกมุม ภายในมีโซนฝักบัวน้ำอุ่นให้ได้ล้างตัวก่อนลงบ่อ ภาชนะและเก้าอี้ทำมาจากวัสดุใสที่นำเข้าจากญี่ปุ่นได้อารมณ์สุดๆ
มาถึงโซนแช่น้ำแร่ออนเซน แต่ละบ่อจะอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 บ่อและทางออนเซนก็มีคำแนะนำการแช่ออนเซนตามอาการต่างๆด้วยว่า จะต้องเริ่มจากบ่อไหนไปบ่อไหน Deep Sleep, De-Strees, Energy boost, Clean Detox
(1)บ่อ Signature เอาน้ำแร่จากเมือง คุซัทสึ (Kusatsu) เมืองที่ตั้งอยู่จังหวัดกุนมะ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 ออนเซ็นที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนังและไขข้อ ลดความเมื่อยตึงของกล้ามเนื้อ
(2) บ่อตามฤดูกาล (Seasonal) จะมีการสับเปลื่ยนน้ำแร่จากเมืองต่างๆ เปลื่ยนไปเรื่อยๆ ให้ลูกค้าได้ลองใช้ตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ยังมี (3) บ่อโซดา (4) บ่อน้ำเย็น และ (5) บ่อเจ็ท (Vitality Pool) ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และเสริมการไหลเวียนของเลือด
น้ำในบ่อออนเซน ได้รับการควบคุมคุณภาพน้ำด้วยมาตรฐานและการบวนการที่ออกแบบมาอย่างรอบคอบ ด้วยระบบน้ำล้นและระบบเปลี่ยนน้ำอัตโนมัติที่เป็นเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อทำความสะอาดและเติมน้ำทุกชั่วโมง โดยชั้น 9 จะเป็นชั้นกักเก็บน้ำที่จะคอยเปลื่ยนน้ำและควบคุมอุณหภูมิรวมถึงมีการกรองน้ำชั่วโมงละ 2 ครั้งเพื่อให้น้ำยังสะอาดอยู่เสมอ ระดับของคลอรีนจะคงที่อยู่ที่ประมาณ 0.5-1.0 ppm ที่สำคัญคือมีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ PAÑPURI WELLNESS & ONSEN ทุกชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมีห้องสตีมและห้องซาวน่าเกลือหิมาลัย ที่ช่วยเรื่องระบบหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ ไซนัส และขับสารพิษออกจากร่างกายได้อีกด้วย
ราคาผู้ใหญ่อยู่ที่ 750 บาทต่อครั้ง สำหรับเด็ก 450 บาทต่อครั้ง นอกจากนี้ PAÑPURI WELLNESS & ONSEN ยังสมาชิกแบบรายเดือนและแบบรายปีให้สมัครอีกด้วยด้วย คุ้มค่าคุ้มราคาและน่าสนใจมากๆ
และนี่คือข้อมูลคร่าวๆ ที่ SOtraveler.com นำมาฝากกันจากการเข้าร่วมงานเปิดตัว ทุกคนสามารถมาค้นพบความผ่อนคลายเหนือระดับกับศาสตร์แห่งการลูแลสุขภาพและความงามแบบองค์รวมจากธรรมชาติกันได้แล้ววันนี้ที่ ปัญญ์ปุริ ชั้น 12 อาคารเกษร ทาวเวอร์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00-23:00 โทรศัพท์ 02-253-8899
ใครมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่่มเติม สามารถ Add Line: @sotraveler เพื่อพูดคุยและถามข้อมูลกับเราได้ กด Add ไว้เลย
[…] + ดูบทความโดยละเอียดที่นี่ […]
ออนเซนนี้ดีสุด หรูสุดๆจริงครับ
ยังไม่ได้ไปลองเลย