กรมอุตุฯ ประกาศเข้าฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ แบบนี้ต้องออกมาตะลุยเสาะหาร้านคาเฟ่นั่งชิลๆกันสักหน่อยแล้ว ใครที่เคยมาไอคอนสยามก่อนหน้านี้ ยังไม่เคยเห็นร้านนี้มาก่อนแน่นอน เพราะเพิ่งเปิดใหม่สดๆร้อนๆ อายุยังไม่ครบเดือน ชื่อร้านว่า ออร์กานิก้า ริวิเย (Organika Rivière) ตั้งอยู่ที่ชั้น M ในสยามทาคาชิมายะ มองหาเรือนไม้ทรงกลาสเฮ้าส์สีขียวตะไคร่น้ำไว้ หาไม่ยากตามมาเช็คอินกันเลย
Water of Scents
ออร์กานิก้า ริวิเย (Organika Rivière) คาเฟ่เพียงหนึ่งเดียวในโซนสยามทาคาชิมายะ บางคนเห็นภาพปกของเรา หรือฟังแค่ชื่อก็เดาได้แล้วว่าร้านนี้เป็นร้านของใคร แต่ไม่คุ้นตาแน่นอน เพราะออร์กานิก้า ปกติจะมาในโทนสีขาวเกือบ 90% แต่พอมาเป็น Organika Rivière ก็พลิกลุคไปอีกบทบาท อยากรู้จักให้มากกว่านี้ ตามมาอ่านย่อหน้าถัดไปกันเลย
ออร์กานิก้า (Organika) แบรนด์เครื่องหอมของคุณศรีริต้า เจนเซ่น ที่ขยายธุรกิจไปยังสปาและคาเฟ่จนติดตลาดเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วอย่างที่ ออร์กานิก้า แฟล็กชิพสโตร์ โครงการพิมาน ซอยสุขุมวิท 49 ตอนนี้ได้เวลาที่ ออร์กานิก้า เปิดกลาสเฮ้าส์หลังใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งหลัง โดยตั้งอยู่ในห้างที่ป๊อปปูล่าที่สุดในตอนนี้คือ ไอคอนสยาม นั่นเอง
คุณศรีริต้าเลือกสีเขียว มาเป็นแม่สีหลักของ ออร์กานิก้า ริวิเย ซึ่งมีที่มาจากสีของตะไคร่น้ำที่ขึ้นตามธรรมชาติในแม่น้ำ สอดคล้องกับคำว่า ริวิเย (Rivière) ที่แปลว่าแม่น้ำในภาษาฝรั่งเศส และสอดคล้องกับที่ตั้งของร้านซึ่งอยู่ในห้างไอคอนสยาม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา นั่งจึงเป็นที่มาของกลาสเฮ้าส์สีเขียวหลังนี้ คุณศรีริต้ายังเล่าให้ฟังอีกว่าเค้ามีความตั้งใจที่จะให้ออร์กานิก้าไดนิ่งแอนด์คาเฟ่แต่ละร้านมีรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน แต่ยังคงความเป็นตัวตนของออร์กานิก้าไว้อย่างชัดเจน
ออร์กานิก้า ริวิเย นี้ไม่ใช่ว่าอยากเปิดคาเฟ่ใหม่ก็เปิดเลย คุณศรีริต้ายังเผยให้ฟังอีกว่า ด้วยความฮอตของออร์กานิก้าสาขาพิมาน ทำให้ลูกค้าที่ทราบว่าออร์กานิก้า มีเปิดช็อปขายโปรดัคที่ไอคอนสยาม ก็มีเสียงสอบถามและเอ่ยถามจากลูกค้าทางคนไทยและต่างประเทศอยากให้เปิดร้านอาหารและคาเฟ่ที่นี่ด้วย คุณศรีริต้าจึงตั้งใจเปิด ออร์กานิก้า ริวิเย นี้ขึ้นมา เพื่อเป็นมุมพักผ่อนชิค ๆ น่ารักและมีบรรยากาศที่อบอุ่น มีเครื่องดื่มให้จิบสดชื่น ๆ พร้อมเมนูอาหารและขนมให้ทานเติมพลังสำหรับคนที่มาเดินเที่ยวที่ไอคอนสยาม
Organika Rivière
Cafe | Restaurant | Product
ออร์กานิก้า ริวิเย แห่งนี้เป็นทั้งช็อปขายสินค้าและเครื่องหอมของแบรนด์ออร์กานิก้า เป็นทั้งคาเฟ่และร้านอาหาร เมนูเครื่องดื่ม อาหาร และ ขนมหวานต่าง ๆ ในร้านล้วนคัดสรรมาพิเศษ ทุกเมนู มีความหลากหลายพอประมาณ เพื่อเป็นทางเลือกแล้วแต่ความชอบของคนที่มาทาน ในวันที่เราไปเยือนออร์กานิก้า ริวิเย คุณศรีริต้าได้สั่งเมนูมาให้เราลองเทสหลายเมนู เพื่อให้เราได้เห็นว่าที่นี่มีเมนูหลายแบบให้เลือก
“Hot Chocolate Marshmallow” (230 THB) สำหรับคนที่ไม่ดื่มกาแฟ หรือพ่อแม่ที่พาเด็กๆ มาเที่ยวแนะนำให้สั่งเมนูนี้มาชิม เป็นช็อคโกแล็ตแท้เกรดพรีเมี่ยมที่คุณศรีริต้าเลือกมาเอง รสชาติเข้มข้น ท็อปด้านบนด้วยมาร์ชเมลโล่นุ่มจนล้นถ้วย อาจจะค่อนข้างหวานสำหรับคนที่ไม่ชอบรสชาติหวาน แต่ถามว่าหวานอร่อยมั้ย บอกเลยว่าหวานอร่อยดีเลยล่ะ เพียงแต่เราติดลิ้นในรสชาติที่หวานน้อยเท่านั้นเอง
“Macchiato” (120 THB) กาแฟมัคคิอาโต้เสิร์ฟในแก้วช๊อตพร้อมกับฟองนมรูปหมีสุดคิ้วท์ด้านบน ความหอมและความเข้มข้นของกาแฟใช้ได้เลยล่ะ แถมยังน่ารักอีกด้วยเป็นเมนูที่สั่งมาแล้วจะได้ความคูลถึงสองอย่างอย่างแรกคืออร่อย อย่างที่สองคือดีต่อการเรียกยอดไลค์บนเฟสบุคและไอจี น่ารักอย่างนี้ใคร ๆ ก็อยากกดไลค์ให้ใช่มั้ยล่ะ
“Chocolate Mint Smoothie” (255 THB) หนึ่งในเมนูขายดีของที่นี่ เพราะช็อคโกแล็ตมิ้นท์เองก็เป็นของหวานโปรดของใครหลายคนอยู่แล้ว เมื่อร้านมีเสิร์ฟสมูทตี้โกแล็ตมิ้นน่าตาและรสชาติเข้มข้นแบบนี้ แถมยังท๊อปด้านบนด้วยวิปครีมแบบจัดเต็ม ไม่พลาดที่จะต้องสั่ง โดยเฉพาะตอนที่เดินช็อปปิ้งมาเหนื่อยๆ แก้วนี้เลย เย็นสดชื่นตั้งแต่จิบแรก
“Charcoal Latte” (165 THB) เก๋และชิคไปอีกสำหรับเมนูลาเต้ของที่นี่ เพราะเค้าได้ผสมชาร์โคล(Charcoal) เข้าไปในกาแฟด้วยนี่สิ ไม่ซ้ำใครแน่นอน
“Irish Coffee” (295 THB) ค็อกเทลที่ผสมจากกาแฟร้อน ไอริสวิสกี้ น้ำตาล ท็อปปิงด้วยวิปครีม เพิ่มเติมด้วยคาราเมลหอมหวาน ใครอยากลองไอริชคอฟฟี่เข้มๆ ต้องสั่ง
“Two Is Better Than One Memoirs of and Into The Woods” 269 (THB) ชาผลไม้ออร์แกนิกสองชนิด เสิร์ฟพร้อมเนื้อผลไม้ และผลเสาวรส สำหรับเมนูนี้เราแนะนำ เหมาะสำหรับทุกคน ทุกวัย ด้วยความหอมของชาผลไม้ขึ้นจมูกตอนกลืนลงไปในลำคอ ชวนให้สดชื่นมาก
“Orange Is New Black” (220 THB) อีกนิดความชิคที่ผสมกันอย่างลงตัว ระหว่างน้ำส้มและกาแฟดำเข้มข้น ใครจะดื่มทีละเลเยอร์ (layer) หรือคนให้เข้ากันก็สดชื่นอร่อยได้ทั้งสองแบบ
เราคัดเครื่องดื่มมาให้ดูหลายเมนู น่าจะถูกใจและเชิญชวนให้ทุกคนอยากมาลองชิมกันบ้าง คราวนี้เรามาดูในส่วนของเมนูอาหารกันบ้าง
“Crab Pasta” (450 THB) พาสต้าเนื้อปูก้อนโตเน้นๆ ผัดด้วยซอสมะเขือเทศสูตรพิเศษ ใครที่ชอบทานปูอยู่แล้ว เมนูนี้เนื้อปูก้อนเต็มคำ อร่อยไม่ผิดหวังแน่นอน
“Spaghetti Salsiccia” (360 THB) สปาเกตตี้ไส้กรอกอิตาเลียน ผัดกับสมุนไพรอย่างดี เติมความหอมและเผ็ดร้อนด้วยกระเทียมและพริกแห้ง
“Crisps Mushroom and Egg Tart In a Pan” (355 THB) เป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำของที่นี่ ด้านนอกเป็นแป้งตอร์ติย่า (Tortilla) และด้านในเป็นไข่ เห็ด ชีส และทรัฟเฟิลออยล์ เสิร์ฟในรูปแบบเดียวกับไข่กระทะ ถือเป็นความอร่อยที่อธิบายยาก แต่อยากให้คุณได้ลอง
“Grilled Chicken with Pesto Sauce” (395 THB) ไก่ย่างสมุนไพรหอม ๆ เสิร์ฟพร้อมเบบี้โพเทโท่ย่างกับหอมใหญ่ พร้อมกับซอสเพสโต้สูตรโฮมเมด
“Quesadilla” (330 THB) แป้งตอร์ติย่า (Tortilla) ย่างกรอบ ยัดไส้ด้วยแซลมอน เห็ด และเพสโต้ซอส โรยหน้าด้วยมะกอกดำ ทานคู่กับซอสทาร์ท่าแบบแม็กซิกัน
“Mushroom Truffle Soup” (280 THB) ซุปเห็ดชิทาเกะเข้มข้น ผสมกับซุปเห็ดแบล็คทรัฟเฟิล และราวิโอลี่ไส้เห็ด ความโดดเด่นของจานนี้ คงไม่ต้องพูดถึง เพราะแค่ความหอมของแบล็คทรัฟเฟิลก็ทำให้คนรอบข้างกลืนน้ำลายแล้ว ความอร่อยคงต้องบอกว่าเป็นคอมบิเนชั่นของ “เห็ด” ที่ลงตัวมาก
“Grilled Pork Chop” (410 THB) พอร์คชอพย่างที่ความสุกกำลังดี เสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งอบ และซอสมัสตาร์ด เป็นที่รู้กันว่าการทานพอร์คชอพแบบดั้งเดิมนั้นต้องทานคู่กับมัสตาร์ด ซึ่งจานนี้ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม อร่อยและอิ่มได้ภายในจานเดียว
มาถึงตอนนี้ถึงเวลาของเมนูขนมหวานกันแล้วล่ะ เมนูที่เราเลือกมานำเสนอมีดังต่อไปนี้
“Fancy Flower Panna Cotta” (295 THB) พานาค็อตต้าลาเวนเดอร์ กุหลาบ และวานิลา สามสี โรยด้วยชิ้นผลไม้ต่าง ๆ และเบอร์รี่ ทานพร้อมกันเข้ากันได้ดีมาก
“Lemon Curd Crepe” (315 THB) สำหรับจานนี้ส่วนตัวต้องบอกว่าเป็นจานโปรดที่ชอบที่สุด ถึงขนาดว่าถ้าแวะมาทานแล้วสั่งของหวานมาทานได้หนึ่งอย่าง จะต้องสั่งจานนี้แน่นอน
มันคือเครปครีมเลม่อน ที่เนื้อเครปมีความนุ่มละมุนมากๆ มวลของครีมและซอสเลม่อนไม่หนาหรือบางจนเกินไป เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานขนมที่ไม่หวานมากอย่างเรารักเลย
“Whole Apple Crumble” (350 THB) แอปเปิ้ลอบทั้งผล กับซินนามอน และคุ้กกี้ครัมเบิล(crumble) ราดด้วยซอสเบอร์รี่ สำหรับจานนี้ตัวผลแอปเปิ้ลที่นำไปอบมายังมีความอุ่นๆอยู่ รสชาติจะมีหอมหวานกลิ่นซินนามอนติดด้วย ทานคู่กับครัมเบิลแล้วเข้ากันดี แต่จานนี้เหมาะสำหรับทาน 2 คนขึ้นไปนะ สั่งมาทานคนเดียวระวังทานไม่หมดนะ
“Strawberry Vanilla Crepe” (315 THB) เมนูนี้มีความคล้ายกับ Lemon curd crepe ด้านบน แต่ครีมวานิลาจะหอมกว่า เพราะที่นี่เค้าใช้ครีมสดทำใหม่วันต่อวัน ทานคู่กับซอสสตรอเบอรรี่ บอกเลยว่าอร่อยแบบไม่ต้องสืบ
“Smoked Forest Dark Chocolate” (310 THB) เค้กดาร์คช็อคโกแล็ตฝรั่งเศษ ไส้เมลท์ช็อคโกแลต (melt chocolate) เข้มข้น โรยหน้าด้วยวอลนัท เบอร์รี่ และผลไม้ต่างๆ ถูกใจบรรดาช็อคโกแล็ตเลิฟเวอร์แน่นอน สำหรับเมนูนี้
สำหรับใครที่แวะเวียนมาช็อปปิ้งที่ห้างไอคอนสยาม แนะนำเลยว่าต้องแวะมา ออร์กานิก้า ริวิเย (Organika Rivière) อาจจะเป็นคาเฟ่เล็กๆ แวะมาเติมพลังก่อนแล้วค่อยเดินช๊อปปิ้งต่อก็จะเลี่ยงเวลาคนเยอะในช่วงเย็นๆค่ำๆได้พอสมควร ยังงัยลองแวะมาดูกันก่อนที่ชั้น M ด้านในในสยามทาคาชิมายะ เดินเข้ามาเลยแล้วสังเกตกลาสเฮ้าส์สีเขียวตะไคร่น้ำไว้
- พิกัดและสถานที่ : ห้างไอคอนสยาม (ICON SIAM) ซอยเจริญนคร 5 ถนนเจริญนคร
- เวลาทำการ : 10:00 น. -22:00 น.
- เบอร์โทร : 02-742-6281