Time Out Bangkok presents Mekhong Elite Table 2019 เดินทางมาถึงร้านอาหารไทยร้านที่สามกับร้าน Royal Osha ร้านอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่โดดเด่นทั้งการตกแต่งร้านและเมนูอาหารที่นำเสนอออกมาได้อย่างสวยงามพร้อมกับคงไว้ซึ่งรสชาติที่จัดจ้านแต่กลมกล่อมอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยไว้ได้อย่างชัดเจน ยิ่งได้ทานคู่กับค็อกเทลสัญชาติไทย Mekhong แล้วยิ่งช่วยชูรสชาติซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี
Time Out Bangkok presents Mekhong Elite Table 2019 ที่ร้าน Royal Osha เสิร์ฟทั้งหมด 6 คอร์สกับ 4 ค็อกเทล Mekhong ที่บรรจงรังสรรค์อย่างพิถีพิถัน ช่วยเสริมและยกระดับรสชาติแต่ละเมนูได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เริ่มต้นกันที่อามูสบูชเรียกน้ำย่อย รสชาติเปรี้ยวหวานมันกระตุ้นต่อมรับรสให้พร้อมสัมผัสรสชาติอาหารและค็อกเทลในวันนี้ได้เป็นอย่างดี
ตามมาด้วยคอร์สที่ 1 พล่าหอยนางรมข้าวคั่ว (Phla ‘Fine De Claire’ Oyster) หอยนางรมฟินเดอแคลร์รสชาติหวานสดชื่นคลุกเคล้ากับส่วนผสมของพล่าที่ประกอบไปด้วยน้ำพริกเผา หอมแดง ตะไคร้ ท็อปด้านบนด้วยโฟมมะกรูด รสชาติเปรี้ยวหวานเค็ม ทานพร้อมกันทั้งคำแล้วชุ่มฉ่ำไปทั่วทั้งปาก
เมนูนี้ต้องยกค็อกเทล Mekhong Thai Sabai จิบตามหลัง ด้วยส่วนผสมของ Mekhong, น้ำมะนาวสด, ไซรัป, ใบโหระพาไทย, โซดาสแปลช ให้รสชาติที่เปรี้ยวอมหวานหอมสมุนไพรเข้ากันได้ดีกับพล่าฟินเดอแคลร์ ด้วยรสสัมผัสแล้ว Mekhong Thai Sabai สามารถทานคู่กับเมนูที่มีวัตถุดิบหลักเป็นปลาและอาหารทะเลได้ดี
คอร์สที่ 2 ปลาเน้ืออ่อนทอดกรอบ ซอสพริกแกงมาโย (Crispy Fish) เสิร์ฟแบบรมควันเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม เชฟเลือกใช้วัตถุดิบหลักเป็นปลาเนื้ออ่อนจากสิงห์บุรี นำมาทอดกรอบจนสามารถทานได้ทั้งตัว
ทานคู่กับพริกแกงมาโยที่ใช้พริกแกงใต้มาผสมกับมายองเนสที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน เชฟแนะนำให้ทานคลุกเคล้ากันทั้งปลาเนื้ออ่อนพริกกระเทียมและซอสพริกแกงมาโย อร่อยกรุบกรอบ รสชาติของซอสพริกแกงมาโยจัดจ้านจากพริกแกงใต้ผสมผสานกับความหวานมันของมายองเนสกลายเป็นซอสที่สามารถทานคู่กับปลาเนื้ออ่อนทอดได้เข้ากันเป็นอย่างดี
เมนู ปลาเน้ืออ่อนทอดกรอบ ซอสพริกแกงมาโย เสิร์ฟให้ทานคู่กับค็อกเทล Pina Splash ที่มีส่วนผสมของ Mekhong, น้ำสับปะรด, น้ำมะนาว, ไซรัป ท็อปด้านบนด้วยน้ำโซดาและผงทองคำ ส่วนผสมของน้ำสับปะรดให้ความสดชื่น หวานหอมจิบแล้วซ่าลิ้น
คอร์สที่ 3 แสร้งว่ากุ้งทะเลลายเสือ (Seang Wa King Tiger Prawn) หนึ่งในเมนูพิเศษของทางร้าน ประกอบไปด้วยกุ้งทะเลลายเสือขนาดใหญ่ ย่างไฟแบบสุกประมาณ 80% เนื้อนุ่มคงความหวานกรอบของเนื้อกุ้งลายเสือ คลุกเคล้ากับส่วนผสมสมุนไพรของน้ำยำแสร้งว่าอย่างตะไคร้ ใบมะกรูด ใบสาระแหน่ รวมไปถึงน้ำยำที่ใช้น้ำมะกรูดเป็นส่วนผสมเพิ่มความหอมสดชื่น อร่อยล้ำแบบครบเครื่อง
เมนูนี้แพริ่งคู่กับค็อกเทล Copper Bird ค็อกเทลพิเศษจากคุณเจน แก้วยอด สุดยอดบาร์เทนเดอร์ไทย ฝีมือระดับโลก ครีเอทค็อกเทลขึ้นจากส่วนผสมที่หลากหลายโดยมีเบสจาก Mekhong ผสมกับน้ำผึ้งที่ได้จากผึ้งที่คุณเจนเลี้ยงเองเพื่อควบคุมสภาวะแวดล้อมให้ได้กลิ่นและรสชาติตามที่ต้องการ และยังมีขึ้นฉ่ายฝรั่ง กีวี่ ว่านหางจระเข้ มะกรูด พร้อมรสสัมผัสจากโฟมยูคาลิปตัสและสตรอเบอรี่จากโครงการหลวง สีมีลักษณะคล้ายสีทองแดง
แก้วนี้ดูเหมือนจะหนักแต่หวานและหอมเหมือนหนุ่มบุรุษวัยสามสิบปลาย ๆ ลุคเข้มแต่แต่งตัวเรียบโทนสีเบจ ทานคู่กับ แสร้งว่ากุ้งทะเลลายเสือ แล้วจะทำให้คุณตกหลุมรักกับความเข้ากันของคู่นี้ได้อย่างง่ายดาย
คอร์สที่ 4 เป็นคอร์สซุป ต้มส้มปลาเก๋าใบมะขามอ่อน (Andaman Grouper Herbal Soup) ปลาเก๋าจากสมุทรสาครทอดทั้งเกล็ด เสิร์ฟพร้อมกับมะเขือเทศย่าง เห็ด ใบมะขามอ่อน ในส่วนของซุปจะอยู่ในโถที่ประกอบไปด้วยน้ำต้มส้ม และเครื่องสมุนไพร ใบมะขามอ่อน ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด
ขั้นตอนการเสิร์ฟพนักงานจะใช้แก็สพ่นไฟไปที่น้ำต้มส้มที่อยู่โถด้านล่างจนเกิดความร้อนแล้วน้ำจะถูกดูดขึ้นไปโถบนที่มีเครื่องสมุนไพร ประหนึ่งว่าให้น้ำต้มส้มขึ้นไปอินฟิวส์จนได้กลิ่นสมุนไพรอ่อน ๆ กระทั่งหยุดพ่นแก็สน้ำต้มส้มก็จะไหลกลับลงมาที่โถอีกครั้งพร้อมเสิร์ฟ
พนักงานจะเทน้ำต้มส้มลงในจานจนกลายเป็นเมนู ต้มส้มปลาเก๋าใบมะขามอ่อน ที่สมบูรณ์แบบ ปลาเนื้ออ่อนเนื้อนุ่ม น้ำต้มส้มหอมกลิ่นสมุนไพร ความเปรี้ยวจากยอดมะขามอ่อนอยู่ในระดับที่พอดีกับรสหวานเค็ม เป็นรสชาติที่กลมกล่อม
อร่อยกันจนมาถึงคอร์สที่ 5 ซึ่งเป็นเมนคอร์ส สเต็กเนื้อวากิวสันในกับซอสแกงกะหรี่ (Wagyu Beef Tenderloin Steak With Thai Curry Sauce) เนื้อสันเนื้อนุ่ม ย่างเสิร์ฟกับซอสแกงกะหรี่ที่เข้มข้นไปด้วยเครื่องเทศยี่หร่า ลูกผักชี และยังมีมันต้มและแป้งทอดที่ทำออกมาคล้ายกับยอร์คเชียร์พุดดิง คือเสิร์ฟแบบโมเดิร์นแต่ให้สัมผัสรสชาติอาหารไทย
เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับค็อกเทล Golden Amber Tears ที่มีส่วนผสมของ Mekhong, ชองบอร์ด, โมนินไซรัปกลิ่นกุหลาบ, น้ำมะตูม, น้ำมะนาว, มะตูมอบแห้ง รสชาติหวานปลายลิ้น เพิ่มยกระดับสัมผัสรสชาติของเนื้อวากิวและซอสแกงกะหรี่ให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น
มื้อนี้เต็มไปด้วยความสุขที่ลงตัวไปทั้งอาหารและเครื่องดื่ม หลังจากจบเมนคอร์ส ร้านจะเสิร์ฟซอร์เบท์คั่นรับประทานล้างปาก หอมกลิ่นส้มซ่าและขิง มีรสเปรี้ยวอมหวานจากเนื้อสละ
ปิดท้ายดินเนอร์ด้วยคอร์สที่ 6 ขนมหวานพื้นบ้านปักษ์ใต้ที่หาทานได้ยากในปัจจุบันชื่อว่า ขนมโค (Kanom Ko) แป้งนุ่มไส้หวานหอมน้ำตาลโตนด น้ำกะทิมีรสเค็ม ๆ มัน ๆ ผสมกับข้าวพองไรซ์เบอร์รี่ หอมกลิ่นอบควันเทียน
เซอร์ไพรซ์ปิดท้าย Time Out Bangkok presents Mekhong Elite Table 2019 ที่ร้าน Royal OSHA นี้ด้วยการแสดงรำและหุ่นละครเล็กปิดท้ายให้ทุกคนได้ประทับใจ
ยังมีเวลาที่คุณเองจะมาสัมผัสกับประสบการณ์ Time Out Bangkok presents Mekhong Elite Table 2019 นี้ได้ด้วยตัวคุณเอง กับเมนูคอร์สอาหารไทยแพริ่งคู่กับเครื่องดื่มค็อกเทลไทยในราคา 1,941 บาท สำหรับ 1 ท่าน และ 3,500 บาทสำหรับ 2 ท่าน
- เสน่ห์จันทร์ (Saneh Jaan)
- ห้องอาหารสุพรรณิการ์ สาขาสาทร (Supanniga Eating Room)
- รอยัล โอชา (Royal OSHA) มีโปรโมชั่นต่ออีก 1 เดือน **
- เอ็ทตี้ทเวนตี้ (80/20) (8 ส.ค. 2019 – SOLD OUT)
- พาย (Paii at the House on Sathorn) (22 ส.ค. 2019- SOLD OUT)
- บูรพา (Burapa Eastern Thai Cuisine & Bar By Sri Trat) (5 ก.ย. 2019)
- บ้านสุริยาศัย (Baan Suriyasai) (12 ก.ย. 2019)
ชวนคนรัก ครอบครัว และก๊วนเพื่อนสนิทมาสัมผัสกับประสบการณ์มื้ออาหารสุดพิเศษแบบนี้กัน ทำการจองที่นั่งผ่านลิงค์นี้กันได้เลย http://go.eventpop.me/TimeOutBangkokxMekhongEliteTable