หากใครผ่านไปผ่านมาในย่านสาทร คงคุ้นตากับภาพของคฤหาสน์สีเหลืองนวล ภายใต้สถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก อายุกว่า 130 ปี ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นท่ามกลางอาคารรูปทรงทันสมัยน้อยใหญ่ใจกลางเมือง อันเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ เดอะเฮ้าส์ ออน สาทร (The House on Sathorn) โรงแรม W Bangkok นอกจากความสวยงามที่สะดุดทุกสายตาแล้ว ภายในยังเป็นที่ตั้งของ ‘พาย (PAII)’ ร้านอาหารโมเดิร์นไทยซีฟู้ดรสเลิศ ที่เราจะพาทุกคนมารู้จักกันวันนี้นั่นเอง
‘พาย (PAII)’ ตราตรึงมนตร์เสน่ห์ของอาหาร ควบคู่กับบรรยากาศสุดประทับใจ
‘พาย (PAII)’ ตั้งอยู่อยู่ริมถนนสาทรเหนือ ใกล้กับ BTS สถานีช่องนนทรี ถือเป็นโลเคชั่นที่สามารถเดินทางได้สะดวก จุดเด่นที่สำคัญของ ‘พาย (PAII)’ คือ การนำอาหารไทยที่มีรสชาติไทยแท้ตามแบบฉบับ มานำเสนอใหม่ในรูปแบบที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการคัดสรรวัตถุดิบที่โดดเด่นของแต่ละพื้นที่ ทั้งจากท้องถิ่น และนำเข้า มาสร้างสรรค์เป็นเมนูสุดพิเศษเพื่อตราตรึงความประทับใจในรสชาติ และคุณภาพให้แก่ทุกคนที่มาลิ้มลอง
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราประทับใจคือ บรรยากาศของที่นี่ ที่พาเราย้อนกลับไปซึมซับศิลปะการตกแต่งในสมัยรัชกาลที่ 5 ทั้งงดงาม และทรงคุณค่าจนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกแห่งชาติ เมื่อเข้าไปด้านในแสงไฟสีนวลละมุนช่วยลดความเคร่งขรึมของสถานที่ เพิ่มความรู้สึกอบอุ่น ดูสบาย ๆ ให้กับมื้อพิเศษของทุกคน พาย (PAII) ในความรู้สึกของเราจึงกลายเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารไทยที่มีมนตร์เสน่ห์ครบทั้งรสชาติ และบรรยากาศที่เชิญชวนให้ทุกคนไปสัมผัสจริง ๆ
ในวันนั้น พาย (PAII) ต้อนรับเราด้วย Welcome Drink สมุนไพรสูตรพิเศษ รสละมุน ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นด้วยกลิ่นหอมจากตะไคร้อ่อน ๆ ควบคู่ไปกับเมนูคอมพลิเมนทารี่อย่างข้าวเกรียบกุ้งที่มาพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดตำสด รสชาติจัดจ้าน ถือเป็นการเริ่มต้นความอร่อยได้ดีทีเดียว
และเมนูอาหารที่เราจะพาทุกคนมาชมในวันนี้เรียกได้ว่าเป็นเมนูใหม่ที่ พาย (PAII) ได้เลือกสรรทั้งรสชาติ และวัตถุดิบก่อนจะนำมาปรุงด้วยสูตรเฉพาะตามแบบฉบับ เพื่อให้เหล่าคนรักอาหารไทยได้มาร่วมลิ้มลอง เราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีเมนูอะไรบ้าง
เมนูแรก หอยหลอดผัดซอสเอ็กโอ | Hoy Lord Pad Sauce XO (520 บาท) หอยหลอดคุณภาพเยี่ยมจากแม่กลองถูกคัดสรรเป็นพิเศษเพื่อนำมาผัดกับซอส XO สูตรโฮมเมด ความกรุบ และเด้งของหอยหลอดที่สดใหม่เข้ากันได้ดีกับรสชาติจัดจ้านกล่มกล่อมของตัวซอส หอมกลิ่นพริก และกระเทียม ถูกใจคนชอบอาหารรสจัดอย่างแน่นอน
กลับมาที่เมนูรสชาติไทยแท้อย่าง ยำตะไคร้กุ้งลายเสืออย่าง | Yam Takrai Goong Lai Seua Yang (990 บาท) กุ้งลายเสือย่างสุกแบบพอดี เนื้อเด้ง ได้กลิ่นหอม เสิร์ฟแบบผ่ากลางเพื่อให้ทานง่าย ราดด้วยยำตะไคร้เครื่องแน่นด้านบน ถือเป็นจานที่มีความครบรสมากที่สุดอีกจานหนึ่ง
ต่อกันที่เมนูที่ดูเหมือนง่าย ๆ แต่ พาย (PAII) นำมาปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นเมนูไม่ธรรมดาอย่าง ลาบปลาหมึกยักษ์ย่าง | Larb Nhuad Pla Mhuek Yak Yang (1,200 บาท) ทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบหลักอย่างปลาหมึกยักษ์จากสเปน คลุกเคล้ากับเครื่องปรุงลาบสูตรเฉพาะ นำเสิร์ฟในรูปลักษณ์ที่แตกต่าง แต่ยังได้รสเข้มข้น หอมกลิ่นข้าวคั่ว ถูกใจใครหลายคนแน่นอน
ต่อมาเป็นเมนูอาหารไทยแท้ที่ค่อนข้างหาทานแบบอร่อย ๆ ได้ยากอย่างฉู่ฉี่ พาย (PAII) เลือกเสิร์ฟเป็นเมนู ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ I Choo-Chee Goong Mae Nam (1,950 บาท) ที่นำกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ไปย่างจนมีกลิ่นหอม ราดด้วยซอสฉู่ฉี่เข้มข้นหอมกลิ่นมะพร้าวคั่ว และใบมะกรูดอันเป็นเอกลักษณ์ของฉู่ฉี่ตามแบบฉบับไทยแท้ สัมผัสที่นุ่มเด้งของกุ้งแม่น้ำเข้ากันได้ดีกับรสอันจัดจ้านของซอสฉู่ฉี่ ยิ่งทานคู่กับข้าวกล้องออร์แกนิคร้อน ๆ ยิ่งเพิ่มความอร่อยให้กับจานนี้จริง ๆ
ข้าวกล้องออร์แกนิคที่หุงได้เรียงเม็ดสวยงาม จากเกษตรกรจังหวัดนครปฐม
ใครที่ไม่สันทัดกับเมนูรสเผ็ดจัดจ้าน เราขอแนะนำ หอยเชลล์ผัดผงกระหรี่ I Hoy Shell Pad Phong Kori (1,050 บาท) เมนูที่เน้นในเรื่องของความกลมกล่อมในรสชาติกับวัตถุดิบสุดพรีเมี่ยมอย่าง หอยเชลล์ฮอกไกโด ที่ผัดมาแบบขลุกขลิกกับผงกะหรี่ รสชาติเข้มข้น แต่ไม่จัดจ้านเหมือนเมนูอื่น ถ้าพาครอบครัวมาทาน เมนูนี้น่าจะถูกใจเด็ก ๆ เป็นพิเศษ
อีกหนึ่งเมนูธรรมดา ๆ ที่ พาย (PAII) สามารถปรุงออกมาได้น่าประทับใจคือ เนื้อย่างเสือร้องไห้ I Nuea Yang Suea Rong Hai (1200 บาท) ที่ใช้เนื้อวัวส่วนอก หมักกับเครื่องปรุง และนำไปย่างให้ได้ความสุกปานกลาง ต้องบอกเลยว่าพอได้ลองทานแล้ว ตัวเนื้อมีความนุ่ม หอม ทานคู่น้ำจิ้มยิ่งช่วยชูให้รสชาติของเนื้อมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ปลาเต๋าเต้ยยำถั่วพู | Pla Jaramet Yam Tua Poo (790 บาท) เมนูยำถั่วพูแสนคุ้นเคยที่ปกติมักเสิร์ฟพร้อมกับกุ้ง วันนี้ พาย (PAII) ขอเปลี่ยนเป็นเสิร์ฟคู่กับปลาเต๋าเต้ยที่นำไปย่างจนส่วนหนังมีความกรอบ แต่เนื้อในยังนุ่ม เข้ากันได้ดีกับน้ำยำรสกล่มกล่อม มีความกรุบกรอบจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่เสริมเข้ามาเพิ่มมิติให้จานนี้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น
อีกเมนูหนึ่งถือว่าเป็นเมนูที่เรียกความตื่นตาตื่นใจจากเราได้มากทีเดียวคือ ต้มจืดทะเลน้ำมันกระเทียมดำ | Tom Jeut Talay Nam Man Gratiam Dam (890 บาท) ต้มจืดที่รสชาติไม่ได้จืดเหมือนชื่อ แต่มาพร้อมกับความกลมกล่อมของน้ำซุป กุ้ง และปลาหมึกที่เนื้อสด เด้ง ไม่คาว เพิ่มเติมความหอม และคุณค่าทางอาหารด้วยวัตถุดิบราคาแพงอย่าง ‘น้ำมันกระเทียมดำ’ รสหวานอมเปรี้ยว ที่หาทานค่อนข้างยาก ช่วยเติมเต็มรสชาติได้ดีทีเดียว
ปิดท้ายเมนูอาหารคาวด้วย เห็ดผัดเนย Hed Pad Noe (210 บาท) ที่นำเอาเห็ดหลายชนิดไปผัดบนกระทะด้วยเนย (seaweed butter) จนได้กลิ่นหอม มีความนุ่ม มันแต่ไม่เลี่ยน เป็นอีกเมนูที่เหมาะสำหรับเด็ก ๆ
ของหวานสุดสร้างสรรค์ ที่ผสานความเป็นไทยกับตะวันตกได้อย่างลงตัว
สำหรับเมนูของหวาน พาย (PAII) ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังอีกเช่นกัน เพราะได้นำวัตถุดิบแบบไทยอย่างตะไคร้หอมมาผสมผสานกับเมนูขนมอิตาเลี่ยนจนกลายเป็น พานาคอตต้ารสตะไคร้หอม | Lemongrass Panna Cotta (400 บาท) ที่ตัวเนื้อมีความเนียนนุ่ม หอมกลิ่นตะไคร้ ตัดรสเปรี้ยวด้วยเสาวรส และมะม่วงผลไม้ของไทยด้านบน
อีกหนึ่งเมนูของหวานที่เราได้ลองชิมคือ ทีรามิสุ ชาไทย | Thai Tea-ramisu (450 บาท) ที่ใช้ชาไทย รสเข้มข้นเป็นส่วนผสมหลัก โรยด้วยผงโกโก้ตามแบบฉบับของทีรามิสุ ถือว่าเป็นทีรามิสุที่ทานง่าย รสชาติกำลังดี
ใครที่อยากมาสัมผัสประสบการณ์ความอร่อย พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศสุดคลาสสิกด้วยตัวเอง สามารถมาได้ทุกวันที่ พาย (Paii) ณ เดอะเฮ้าส์ ออน สาทร (The House on Sathorn), โรงแรม W Bangkok นอกจากเมนูที่กล่าวนำมาฝากกันในวันนี้ ที่นี่ยังมีเมนูอาหารไทยอื่น ๆ ที่โดดเด่นในเรื่องรสชาติ และวัตถุดิบอีกหลายเมนูรอให้ทุกคนได้มาลิ้มลอง
ร้าน พาย (PAII)
- ตั้งอยู่ เดอะเฮ้าส์ ออน สาทร, โรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพ
- เวลาบริการ ทุกวัน เวลาเที่ยงวัน ถึง เที่ยงคืน (12:00 PM -12:00 AM)
- เบอร์โทรติดต่อ 02-344-4025
- อีเมล [email protected]