หลายคนที่ใช้ชีวิตที่เร่งรีบ จนลืมหยุดพัก คอลัมน์นี้จะช่วยให้คุณได้หยุดคิด และจุดประกายให้คุณได้ให้เวลากับตัวเองได้สำรวจร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณของตัวเอง ว่าอ่อนล้าไปมากแค่ไหน ถึงเวลาหรือยัง ที่คุณจะจัดสรรปันเวลา ให้ความสำคัญกับร่างกายและจิตใจของคุณได้กลับมาฟื้นตัว แข็งแรง และสดใสอีกครั้ง
เรามีโอกาสได้เข้าร่วม Peninsula Wellness Festival เทศกาลสุขภาพ หรือ Wellness Festival ของโรงแรมเพนนินซูลา กรุงเทพฯ ที่จะมีการจัดอย่างต่อเนื่อง และ SOtraveler ก็มีโอกาสได้เข้าร่วมในรอบล่าสุดคือช่วงปลายปี 2566 จึงอยากเอาประสบการณ์ที่ได้เข้าร่วม มาเล่าให้ทุกคนได้ติดตามกัน เพื่อเป็นแรงบรรดาลใจให้ทุกคนได้หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง และนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของใครบางคน ที่จะหันมาดูแลสุขภาพจิต สุขภาพร่างกาย และสุขภาพทางอารมณ์ ของตัวเองอย่างจริงจังก็เป็นได้
Peninsula Wellness Festival ครั้งนี้จัดขึ้นทั้งหมด 3 วัน จัดขึ้นในธีม The Art of Self Love มีกิจกรรมให้เข้าร่วมหลากหลายมากไม่ว่าจะเป็นเวิร์คช็อปการทำอาหารเพื่อสุขภาพโดยเชฟและนักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญ คลาสออกกำลังกายหลากหลายประเภททั้ง โยคะ พิลาทิส มวยไทย ซุมบ้า aqua fit โดยโค้ชและวิทยากรที่มีชื่อเสียง ตลอดจนคลาสเกี่ยวกับการฝึกสติอย่าง Singing Bowl Meditation เป็นต้น
กิจกรรมมีให้เข้าร่วมตั้งแต่เช้าตรู่ จนถึงช่วงค่ำ เรามาพักในแพ็กเกจ Wellness Festival Stay ที่จะเป็นแพ็คแกจ ห้องพักพร้อมอาหารเช้า และสิทธิการเข้าร่วมกิจกรรม สำหรับใครที่อยากรีชาร์ทร่างกายและจิตใจตัวเองแบบเต็มอิ่ม ไร้กังวล แนะนำให้เลือกแพ็กเกจนี้ มาติดตามกิจกรรมที่เราเลือกเข้าร่วมครั้งนี้กัน
Functional Training (by Sanghyeop Park-Wang) คลาสออกกำลังกายที่จะช่วยส่งเสริมความแข็งแรงและความยืดหยุ่นโดยรวม ด้วย Body Weight คือ การออกกำลังกายที่ใช้น้ำหนักของตัวเอง อย่างเช่น Squats, Planks, Push-Ups ใครที่ไม่มีพื้นฐานเลยไม่ต้องกังวล สามารถเข้าร่วมได้ โค้ชจะคอยสอนขั้นตอน และทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ตลอดจนเดินมาปรับท่าทาง เพื่อให้เราเกร็งและออกกำลังกายได้ตรงจุด เป็นคลาสที่สนุกและท้าทายทั้งความอดทนและความแข็งแกร่งของร่างกายทั้งส่วนบนแกนกลางลำตัว และขา สะโพก น่อง
Piloxing (by Benjawan Lertlumsombat-Benz) คลาสออกกำลังกายที่เป็นการผสมผสานระหว่างพิลาทิส การเต้น และการชกมวย เป็นคลาสคาร์ดิโอที่ช่วยให้ปอด หัวใจ แข็งแรง และเบิร์นไขมันไปพร้อม ๆ กัน เรียกเหงื่อได้ดีมาก จังหวะเพลงก็แดนซ์อย่างสนุก โค้ชก็กระตุ้นทุกวินาที เป็นคลาสที่เหนื่อยแต่มีความสุข พอจบคลาสแล้วรู้สึกว่าร่างกายมีความกระปรี้กระเปร่า มีชีวิตชีวา อย่างสัมผัสได้
Raise Yourself Worth Workout (by Hayden Rhodes) เป็นคลาสออกกำลังกายเหมือนกัน แต่เป็นการออกกำลังกายผสมผสานจิตวิทยา เพื่อสร้างความตระหนักรู้และความภาคภูมิใจใจตัวเอง เป็นหลักสูตรที่สะท้อนให้เรารู้สึกดีขึ้นจริงๆ หากมีโอกาสอยากให้ทุกคนได้ลอง คุณจะได้เคลื่อนไหวร่างกายในแบบที่คุณไม่เคยเคลื่อนไหวมาก่อน คุณจะได้คิดในมุมความคิดที่คุณอาจจะไม่เคยคิดมาก่อน คุณจะได้ฝึกจิตจดจ่อกับพลังบวกที่คุณอาจไม่เคยให้เวลาจดจ่อกับมันมาก่อน ไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้เข้าร่วม
Stretching (by Sakol Kamtam-Kol) คลาสนี้เป็นคลาสเบาๆ เน้นการยืดหยุ่นร่างกาย จริงๆแล้วเป็นท่าที่ควรนำไปใช้ในชีวิจประจำวัน และสามารถออกกำลังกายท่าทางเหล่านี้ได้ทุกวัน โดยเฉพาะคนที่นั่งทำงานนานๆ ท่าทางต่าง ๆ จะช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อได้ยืดเหยียดได้เป็นอย่างดี ลดอาการออฟฟิศซินโดรมได้
Singing Bowl Mediation (by Kumpoon Sirivarin-James) คลาสสร้างสมาธิด้วยเสียงจากขันทองเหลือง สร้างความผ่อนคลาย ลดความเคลียด ช่วยให้นอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น
Sunrise Yoga (by Pattharaporn Jangnok-Sa) โยคะยามเช้าสัมผัสแสงแดดอ่อนๆ ที่ศาลเจ้ากวนอู โดยทางโรงแรมจะมีเรือรับส่ง สร้างสมาธิในยามเช้าในบรรยากาศที่สดชื่น พร้อมกับสร้างความยืดหยุ่นให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี
Aqua Fit (by Kumpoon Sirivarin-James) การออกกำลังกายบนน้ำ กิจกรรมที่ท้าทายและต้องใช้ความสามารถในการทรงตัวมากกว่าการยืนบนพื้น และนี่แหล่ะเป็นข้อดีที่จะทำให้เราฝึกฝนให้ร่างกายได้เกร็งเพิ่มความกระชับของสัดส่วนได้ดียิ่งขึ้น
นับว่าเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจที่อยากชวน ผู้อ่าน SOtraveler ทุกคน แวะมาสร้างประสบการณ์ใหม่ๆไปด้วยกัน นอกเหนือจากการร่วมกิจกรรมแล้ว เรายังสามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ค่าเข้าร่วมกิจกรรม Wellness Festival มีให้เลือกตั้งแต่ราคา 600 บาทสุทธิต่อหนึ่งคลาส ราคา 1,500 บาทสุทธิต่อหนึ่งวัน (สำหรับสามคลาส) ราคา 2,500 บาทสุทธิต่อสามวัน (สิทธิการเข้าร่วม 3 คลาสและสามารถเลือกคลาสออกกำลังกายเพิ่มเติม) และสุดคุ้มกับแพ็กเกจ Wellness Festival Stay ที่จะเป็นแพ็คแกจ ห้องพักพร้อมอาหารเช้า และ สิทธิการเข้าร่วมกิจกรรม และไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา check-in และ check-out เพราะทางโรงแรมได้ให้สิทธิประโยชน์ยืดหยุ่นเวลาการ check-in และ check-out ให้ด้วย
สามารถติดตามกิจกรรม Peninsula Wellness Festival เพิ่มเติมได้ทาง
- เว็บไซต์: https://www.peninsula.com/en/bangkok/special-offers/spa/wellness-festival
- Tel: +66 (2) 020 2888
- Email: [email protected]
- Line: @peninsulaspa