คอลัมน์นี้โซทราเวลเลอร์ขอพาทุกคนย้อนเวลาไปหารสชาติในอดีต กับเมนูอาหารไทยที่ห้องอาหาร พระยา ไดนิ่ง (Praya Dining ) โรงแรม “พระยาพาลาซโซ” บูทีคโฮเทลสุดคลาสสิกที่ตัวอาคารมีประวัติมาอย่างยาวนาน ชื่อเดิมเรียกว่า “บ้านบางยี่ขัน” สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ประมาณปี พ.ศ. 2466 เริ่มจากการเป็นคฤหาสน์เรือนหออันหรูหรา มีการเปลี่ยนแปลงเป็นโรงเรียนประมาณช่วงปี พ.ศ. 2522 จนกระทั่งล่าสุดได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่อีกครั้งเป็นโรงแรม “พระยาพาลาซโซ” ในปัจจุบัน
สิ่งที่น่าสนใจของคฤหาสน์หลังนี้คือ การก่อสร้างที่สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมพาลาดิโอ (Palladio) ซึ่งเป็นอาคารทรงสมมาตรสไตล์ฝรั่งผสมจีน ใครที่ชื่นชอบความงดงามของอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งที่จะแวะมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ การเดินทางมายังโรงแรมยังมีเอกลักษณ์พิเศษเพราะโรงแรมไม่อยู่ติดถนน เวลาจะมาที่นี่คุณต้องมาทางเรือเท่านั้น โดยทางโรงแรมมีเรือบริการรับส่งฟรี ส่วนใครที่ขับรถไม่ต้องกังวลใจเรื่องการเดินทางมาโรงแรมเพราะทางโรงแรมมีสถานที่จอดรถเตรียมไว้ แล้วใช้บริการเรือรับส่งเข้าโรงแรมอีกที คุณก็จะได้ชื่นชมกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาเรียกน้ำย่อยก่อนมื้ออาหาร ช่างเป็นประสบการณ์ที่ชวนตื่นเต้นและมีเสน่ห์มากจริงๆ
ร้านอาหารรสชาติอร่อย บรรยากาศแปลกใหม่ เป็นสิ่งที่ผู้อ่านคอลัมน์ร้านอาหารของเราถามเข้ามามากเป็นอันดับต้นๆ และนี่คือหนึ่งในคำตอบที่เราคัดสรรชวนให้ผู้อ่านมาลิ้มลองกับ ชุดซิกเนเจอร์เมนู พระยา ไดนิ่ง (Praya Dining) เซ็ตอาหารไทยตำรับโบราณ ราคา 2,200++ บาท สำหรับ 2 ท่าน และ ราคา 3,600++ บาท สำหรับ 4 ท่าน เมนูเสิร์ฟทั้งหมด 10 คอร์ส เสิร์ฟในแบบแชร์ริ่งคอนเซ็ปต์ โซทราเวลเลอร์ได้ไปลองมาแล้ว จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราจะเล่าให้ฟัง
ชุดซิกเนเจอร์เมนู พระยา ไดนิ่ง (Praya Dining) เริ่มต้นด้วยเมนูคอมพลีเมนทารีเสิร์ฟให้รับประทานก่อนเริ่มคอร์สอาหาร อาจเปลี่ยนไปในแต่ละวันแล้วแต่ว่าเชฟอยากจัดเสิร์ฟเมนูไหนให้ลองชิม เราได้รับเสิร์ฟเป็นเมนู ม้าฮ่อ รสชาติเค็มหวานของตัวไส้เข้ากันได้ดีมากกับรสเปรี้ยวหวานของสับปะรดรับประทานแล้วชวนน้ำลายสอ เรียกน้ำย่อยได้ดี และยังมี ข้าวตังหน้าตั้ง ที่ทอดข้าวตังได้กรุบกรอบดี น้ำจิ้มรสหวานมันเค็ม เพอร์เฟคมาก
ต่อกันด้วยแอพพิไทเซอร์ (Appetizer) กุ้งโสร่ง ล่าเตียง หมี่กรอบกระทงทอง สามเมนูเรียกน้ำย่อย แต่ละเมนูให้ความอร่อยในแบบของตัวเอง กุ้งโสร่งเนื้อกุ้งสดเด้งกรอบมากจนอยากเดินเข้าไปล้วงความลับการทำให้เนื้อกุ้งเด้งขนาดนี้ถึงก้นครัว ล่าเตียง เมนูที่ต้องใช้ความประณีตในการทำเป็นอย่างมาก กว่าจะเทไข่ออกมาเป็นแหให้สวยงามเพื่อห่อไส้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายต้องอาศัยความชำนาญ รสหวานเค็มกำลังดี ส่วนหมี่กรอบกระทงทองกลิ่นหอม เส้นหมี่ฟูกรอบ ทอดได้ดีไม่อมน้ำมัน คลุกเคล้าน้ำซอส 3 รสเปรี้ยวหวานเค็ม อร่อยลงตัว
เสิร์ฟกันต่อกับเมนูสลัด (Salad) ยำทวาย ยำไทยโบราณที่ดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่พอดูส่วนประกอบแล้วรู้เลยว่าต้องอาศัยความใจเย็นในการเตรียมวัตถุดิบเป็นอย่างมาก เป็นการนำผัก 7 ชนิด ได้แก่ผักบุ้ง พริกหยวก ถั่วงอก ถั่วพู ถั่วฝักยาว กระหล่ำ ดอกขจร หั่นให้ความยาวพอดีตักรับประทานง่าย จากนั้นนำไปลวกแล้วจัดเรียงบนจานเสิร์ฟพร้อมเนื้อไก่ฉีก รับประทานคู่กับน้ำยำกะทิที่ให้รสชาติคล้ายน้ำจิ้มสะเต๊ะ รสหวานมันเข้มข้นหอมมันกะทิ อร่อยไม่ธรรมดาจริงๆเมนูนี้
ทางด้านเมนูซุป (Soup) แกงรัญจวนเนื้อ ใครที่ไม่ทานเนื้อสามารถเลือกเป็นหมูได้ แต่ก่อนอาจจะเป็นเมนูที่หาทานได้ยาก แต่เดี๋ยวนี้ร้านอาหารไทยหลายๆ ร้านเริ่มทำกันเยอะขึ้นเป็นเมนูที่กลับมาได้รับความนิยมกันอีกครั้ง เมนูนี้หากปรุงไม่ได้ที่รสชาติจะโดดไปรสใดรสหนึ่ง แกงรัญจวน ของที่นี่ รสเปรี้ยว เค็ม หวานกลมกล่อม หอมกลิ่นเครื่องเทศสมุนไพรอย่างตะไคร้ ใบโหระพา และกลิ่นน้ำพริกกะปิ อย่างชัดเจน รับประทานแล้วแล้วรู้สึกสดชื่นคล่องคอ ผ่านฉลุย
เข้าสู่เมนูจานหลัก (Main Dish) พล่าเนื้อ ใครที่ไม่ทานเนื้อสามารถเปลี่ยนเป็นหมูได้เช่นกัน เนื้อนุ่มย่างได้หอมดี น้ำราดรสชาติจัดจ้าน เผ็ด หวานอมเปรี้ยว ผสมหอมแดง ตะไคร้ หน้าตาชวนน้ำลายสอตั้งแต่จานวางเสิร์ฟลงบนโต๊ะ
ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ กุ้งแม่น้ำเนื้อแน่นสดขนาดจัมโบ้ ราดด้วยน้ำแกงฉู่ฉี่สีสวย เนื้อแกงเนียนละเอียด รสเค็มหวานมันเข้มข้นและกลมกล่อม
ต่อกันด้วยเมนูที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 หมูผัดส้มเสี้ยว หน้าตาคล้ายหมูผัดพริกแกงเหลือง แต่เด็ดที่รสชาติและกลิ่น รสชาติออกเผ็ดหวานและมีรสเปรี้ยวโดด ด้วยเพราะว่าปกติเมนูผัดเราจะไม่ค่อยเติมรสเปรี้ยวกัน พอมีรสเปรี้ยวนวลแซม ทำให้เกิดรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยรสเปรี้ยวนี้ได้จากใบส้มเสี้ยวซึ่งเป็นใบไม้ที่มีรสเปรี้ยวโขลกผสมลงในเครื่องแกงเหลือง
และยังมีเมนู ผัดผักนพเก้า ที่เป็นผัดผักเก้าชนิดหวานกรอบสุกกำลังดี รสชาติกลมกล่อม รับประทานแกล้มกันกับเมนูอื่นๆ
ตบท้ายด้วยเมนู ขนมหวาน (Dessert) ที่มีให้เลือก 2 อย่างคือ บัวลอยลูกตาล ที่ทำมาจากลูกตาลแท้ๆ ปั้นกับแป้งจนได้บัวลอยเม็ดเล็กสีเหลืองทอง เคี้ยวหนึบหนับกำลังดี รับประทานคู่กับกะทิอบควันเทียนรสชาติหวานอ่อนๆตัดเค็มเล็กน้อย ให้ทานเพิ่มอีกสักถ้วยก็ยังไหว
ส่วนอีกหนึ่งเมนูชื่อไม่ค่อยคุ้นหูกันมากนัก อินทนิล เป็นขนมไทยโบราณที่ไม่ค่อยพบกันได้บ่อย ส่วนประกอบเป็นเม็ดสาคูแท้ผสมกับน้ำใบเตยหอมต้มจนสุก จากนั้นนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กพอดีคำ เสิร์ฟราดด้วยกะทิอบควันเทียน รสชาติหอมหวานมันชวนติดใจไม่แพ้กัน
สำหรับอาหารมื้อต่อไป หากเลือกไม่ได้ว่าจะหาของอร่อยรับประทานกันที่ไหน ขอแนะนำให้ลองแวะมาที่ “พระยา ไดนิ่ง” รับรองว่ามื้ออาหารของคุณจะพิเศษอย่างแตกต่างจากมื้ออื่นๆ อิ่มท้องหอบเอาความประทับใจกลับบ้านไปอย่างล้นปรี่ อย่าลืมโทรมาจองล่วงหน้านะ ของดีที่นั่งมีไม่เยอะมาก ดูแลกันอย่างอบอุ่นมากเลยล่ะ
Signature set 10 คอร์ส
- ราคา 2,200++ บาท สำหรับ 2 ท่าน
- ราคา 3,600++ บาท สำหรับ 4 ท่าน
พระยา ไดนิ่ง (Praya Dining ) โรงแรมพระยาพาลาซโซ
- เบอร์โทร : 02-8832998, 081-4028118
- Website : https://www.prayapalazzo.com/
- Facebook : https://www.facebook.com/prayapalazzo/
การเดินทาง : จอดรถที่ท่าเรือวัดราชาธิวาส ซอยสามเสน9 ถ้าถึงป้อมรปภ. แจ้งว่ามาโรงแรมพระยาพาลาซโซได้เลยครับ ไม่เสียค่าที่จอดรถ และโทรเรียกเรือโรงแรมได้ที่เบอร์ 081-4028118