เมื่อฤดูหนาวเริ่มแผ่คลุมกรุงเทพฯ แม้เราจะไม่คุ้นเคยกับความเย็นจัดมากนัก แต่ก็ยังมีช่วงเวลาที่อากาศเย็นสบายให้เราได้สัมผัสกันบ้าง วันนี้เราขอชวนคุณมาสัมผัสประสบการณ์เมนูไฟน์ไดน์นิ่งประจำฤดูหนาว ที่รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นเลิศ ณ ร้าน R-HAAN ร้านอาหารไทยไฟน์ไดน์นิ่งที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาว โดยเชฟชุมพล แจ้งไพร ปรุงด้วยความเชี่ยวชาญในการเลือกใช้เครื่องเทศและวัตถุดิบท้องถิ่นที่ดีที่สุด การผสมผสานรสชาติไทยดั้งเดิมกับเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่ รับประกันได้ว่า ทุกคำที่คุณลิ้มลอง จะพาคุณเดินทางไปยังภูมิภาคต่างๆ ของไทย และทำให้คุณหลงใหลในเสน่ห์ของรสชาติอาหารไทยที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์
เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยการต้อนรับที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ นำเสนอมาในแผนที่ประเทศไทย ที่จะชวนคุณเดินทางผ่านภูมิภาคต่าง ๆ ของไทย ผ่านเมนูที่เชฟรังสรรค์มาในรูปแบบอามูชบูชหรือเมนูเรียกน้ำย่อย 5 คำ 5 ภาค
เริ่มต้นคำแรกที่ภาคเหนือกับ ส้ามะเขือส้มอะโวคาโดยอดดอย จากการผสมผสานระหว่างความหวานของอะโวคาโดจากโครงการหลวงที่เรียบง่ายแต่ลุ่มลึกกับซอสมะเขือเทศคอนฟิตที่เคี่ยวจนเข้มข้น กรอบกรุบนอกแต่เนื้อด้านในนุ่มละมุน ซึ่งจัดเสิร์ฟในแป้งทองรูปทรงงดงาม ตามด้วยเมนูจากภาคอีสาน ลาบแกงไข่ผำฟิวเจ้อโปรตีน เมนูที่นำเอาเมนูลาบที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคอีสานมาประยุกต์ใหม่ โดยใช้เนื้อปลาดุกซึ่งมีรสชาติอ่อนหวานและเนื้อแน่นผสมกับผักพื้นบ้านและข้าวคั่วที่มีกลิ่นหอม ต่อด้วยเมนูภาคกลาง ช่อม่วงชาววังเห็ดหอมวังน้ำเขียว ช่อม่วงชาววังที่มีรูปร่างเหมือนดอกไม้เป็นอาหารว่างไทยโบราณ ที่นำเห็ดหอมจากวังน้ำเขียวมาใส่ไว้ภายในแป้งข้าวเหนียวใส่น้ำตาลทรายและมะพร้าวขูด จากนั้นห่อให้มีรูปร่างเหมือนดอกไม้ ช่วยเพิ่มความหอมหวานของมะพร้าวและรสชาติที่สมบูรณ์แบบให้กับเห็ดหอม รสชาติที่ได้จากการผสมผสานของส่วนผสมนี้คือรสหวานมันจากมะพร้าวที่ตัดกับความอ่อนนุ่มของเห็ดหอมและแป้งข้าวเหนียว ช่วยสร้างความสนุกและเพลิดเพลินในทุกคำ
ต่อเนื่องไปยังภาคตะวันออก เส้นจันทร์ผัดมันปูเลียง เมนูนี้เป็นการใช้เส้นจันทร์ผัดในน้ำมันปูที่มีความหอมหวานและเนื้อเนียนจนได้รสชาติเค็มหวานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความลุ่มลึก จากนั้นเสิร์ฟพร้อมกับเครปต้นหอมที่มีความกรอบนอกนุ่มใน เมื่อทานร่วมกัน จะได้สัมผัสทั้งความกรอบของเครปและความหนืดหนึบของเส้นจันทร์ที่มีรสชาติมันปู ซึ่งช่วยเสริมความอร่อยให้กับการผสมผสานของวัตถุดิบได้อย่างสมบูรณ์แบบและน่าประทับใจ ปิดท้ายด้วยภาคใต้ แกงตับใต้ปลาขมิ้นชัน การนำเสนอความลึกซึ้งของรสชาติจากภาคใต้ของไทย โดยใช้ตับปลาขมิ้นชันที่ผ่านกระบวนการหมักมาอย่างดี มาเสิร์ฟในรูปแบบเทอรีนที่มีความนุ่มละมุน จัดคู่กับซอสผลไม้สดอย่างสับปะรดที่ให้รสเปรี้ยวหวานและเพิ่มความสดชื่น รวมถึงแครกเกอร์ขมิ้นที่กรอบและหอม ช่วยเสริมรสชาติให้มีความลงตัวและซับซ้อนในทุกคำที่ลิ้มลอง
จากนั้นเข้าสู่คอร์สที่หนึ่ง เมี่ยงปลาทูแม่กลองแห่งสองสายน้ำ เมี่ยงปลาทูเมนูสุดคลาสสิกจากภาคกลางที่ถูกนำมาเสิร์ฟในรูปแบบใหม่ โดยนำปลาทูมาเสิร์ฟพร้อมกับสมุนไพรสดที่ซับซ้อนและชวนให้นึกถึงอารมณ์ความรู้สึกของอาหารไทยโบราณที่ยังคงความสดใหม่และความมีชีวิตชีวา
คอร์สที่สอง ขนมเบื้องโบราณสืบสานแห่งภูมิปัญญา การสร้างสรรค์ขนมเบื้องที่ปรุงอย่างพิถีพิถันในแบบดั้งเดิม ที่มีความกรอบภายนอกและไส้ที่เต็มไปด้วยรสชาติของมะพร้าวอ่อน หอมหวาน เหมาะแก่การเรียกน้ำย่อย
คอร์สที่สาม กุ้งมังกรเจ็ดสีเจ็ดรสเจ็ดกลิ่น กุ้งมังกรสดจากทะเลอันดามัน เนื้อหวานกรุบ สดเด้ง มาพร้อมกับซุปต้มข่ากะทิที่มีความครีมมีแต่ไม่หนักจนเกินไป พร้อมรสเปรี้ยวจากน้ำมะนาวและสมุนไพรไทยต่างๆ เป็นเมนูที่ทุกคนต้องประทับใจเมื่อได้มาชิมด้วยตัวเอง
คอร์สที่สี่ ข้าวใหม่ปลามันเหนือจรดใต้ ข้าวกล้องออร์แกนิกเสิร์ฟในรูปแบบรีซอตโต้ที่ให้รสชาติหวานจากข้าวและเนื้อสัมผัสที่ครีมมีด้วยการเพิ่มน้ำซุปจากปลาทะเล เสิร์ฟพร้อมปลาตะลุมพุกทอดกรอบและน้ำจิ้มหวานจากพริกขี้หนูและขิง เสริมด้วยซอสหวานจากพริกขี้หนูแบบไทยๆ ที่เพิ่มความเผ็ดร้อนและความหวานเค็มที่เข้ากันได้อย่างลงตัว
ล้างปากกันสักหน่อยกับซอร์เบต์ เสาวรสรอยัล ที่ทุกคนจะสัมผัสกับความสดชื่นของเสาวรสที่ผสมผสานจนได้รสเปรี้ยวและหวานกลมกล่อม พร้อมเนื้อสัมผัสที่เบาและสดชื่น เหมาะสำหรับคลายรสชาติจากคอร์สเมนูที่ผ่านมาทั้งหมด เพื่อรอเข้าสู่คอร์สใหม่
เข้าสู่เมนคอร์ส เสิร์ฟในรูปแบบสำรับเมนูให้ทานคู่กับข้าว ประกอบไปด้วย หลนปู่ไข่ทานคู่ใจเครื่องเคียง หลนปูรสกลมกล่อม มีความครีมมีจากกะทิสด รสชาติ หวาน มัน เค็มกำลังดี เสิร์ฟพร้อมไข่เค็มแดงที่ทอดกรอบ และผักสดหลากหลายชนิดให้สัมผัสถึงความสดใหม่ บ่งบอกถึงความงามของอาหารไทยได้เป็นอย่างดี เป็นเมนูที่ชวนให้เค้าอยากกลับไปอีกหลายๆครั้ง
และยังมี ต้มยำกุ้งไทยภาคภูมิใจไปยูเนสโก้ น้ำซุปต้มยำสูตรดั้งเดิมจากรสชาติเข้มข้นของตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกไทยที่เพิ่มความเผ็ดร้อน ทำให้ได้กลิ่นหอมของสมุนไพรตัดรสชาติกับกุ้งแม่น้ำสด เป็นเมนูที่ขาดไม่ได้ ประหนึ่งว่าเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของห้องอาหารที่ใครมาก็ถามถึงทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติ ด้วยความติดใจในรสชาติและความหอมที่เชฟปรุงได้อย่างพอดิบพอดี
และยังมีเมนูให้เลือกระหว่าง แพนงไทยคู่ใจเป็ดย่าง เป็นแกงแดงที่เคี่ยวจนรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมกับเนื้อเป็ดย่างที่กรอบและเนื้อนุ่ม พร้อมรสชาติหวานจากกะทิและพริกขี้หนูที่เพิ่มความร้อนแรงอย่างลงตัว
หรือจะเลือกเป็น แกงพริกขี้หนูสวนเนื้อซี่โครงไทยวากิว เป็นการนำซี่โครงเนื้อวากิวมาปรุงรสในพริกแกงเขียวขี้หนูสวนรสเผ็ดกลมกล่อม เนื้อสัมผัสนุ่มละลายในปาก ผสมผสานรสเผ็ดร้อนของพริกขี้หนูกับรสชาติของเนื้ออย่างลงตัว
เมนูขนมหวาน มีให้เลือกสองเมนูด้วยกันได้แก่ ข้าวเหนียวมะม่วง 3 สายพันธุ์กะทิสด GI ข้าวเหนียวมะม่วงที่ใช้มะม่วงสามสายพันธุ์เกรดพรีเมียมจากภูมิภาคต่างๆ ในไทย ทำให้ข้าวเหนียวมีความหวานหอมจากมะพร้าวสดในแต่ละชั้นของการเสิร์ฟ ทั้งรสชาติหวานมันและความเปรี้ยวของมะม่วงที่มอบประสบการณ์ที่สุดพิเศษ
หรือจะเป็น สังขยาหน้าหนาว 110 วัน สังขยาฟักทองที่ปรุงให้เข้มข้นและละเอียดจนได้สัมผัสที่เนียนนุ่ม พร้อมกับรสหวานละมุนจากฟักทองที่เพิ่มความอร่อยได้อย่างแสนพิเศษ
ปิดท้ายมื้ออาหารด้วยเปอร์ติทโฟร์ ขนมหวานคำเล็กๆเล็กที่ทำให้รู้สึกเหมือนสัมผัสความอบอุ่นจากบ้าน พร้อมด้วยรสชาติหวานหอมจากการใช้วานิลลาและน้ำผึ้งคัดพิเศษที่มอบความนุ่มนวลให้แก่ร่างกาย ประกอบไปด้วย มาเดอลีนวานิลลา น้ำผึ้ง ทองเสน่หากุหลาบจุฬาลงกรณ์ ดาราทอง และช็อคโกแลตชาไทย
เมนูไฟน์ไดน์นิ่งประจำฤดูหนาวที่ R-HAAN เป็นการเชื่อมโยงวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กับผู้รับประทานในทุกคำที่สัมผัส ตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่ดีที่สุด ไปจนถึงการผสมผสานรสชาติและเทคนิคการทำอาหารที่ทันสมัย เชฟชุมพลและทีมงานได้สร้างสรรค์เมนูที่ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงความงดงามของอาหารไทยแบบดั้งเดิม แต่ยังถ่ายทอดประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าจดจำในทุกๆ คำ สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่พิเศษและเต็มไปด้วยเสน่ห์ของฤดูหนาว เชิญมาที่ R-HAAN เพื่อเพลิดเพลินไปกับความยอดเยี่ยมในทุกเมนูที่เตรียมไว้รอทุกคนมาลิ้มลอง
R-HAAN (2 Michelin Stars)
- Price: 5,212 THB++ per person | Wine Pairing available at 3,212 THB++ per person
- Reservation: www.r-haan.com
- Tel: +66 (0) 95 141 5524 (Available from 12:00 – 21:00 hours)
- Email: [email protected]
- Facebook: R-HAAN
- Instagram: @rhaan_restaurant