Signature Bangkok ร้านอาหารฝรั่งเศสสุดหรู โดยเชฟเทียร์รี่ ดราโป (Thierry Drapeau) อดีตมิชลินสตาร์ 2 ดาว ต่อเนื่องกันถึง 9 ปีจากประเทศฝรั่งเศส พร้อมเสิร์ฟเมนูระดับมิชลินสตาร์ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และทันสมัย โดยมีดอกไม้ที่รับประทานได้มาช่วยชูโรงเพิ่มความโดดเด่น ท่ามกลางบรรยากาศที่น่าตื่นเต้นเหมือนเข้าไปชมการแสดงในโรงละครที่ต้องแวะมาลองแล้วคุณจะหลงรัก
เมนูอาหารของ Signature Bangkok เสมือนเป็น “การเดินทางเพื่อค้นพบเพชรเม็ดงามที่ซ่อนตัวอยู่ในแต่ละเมนู” พร้อมบอกเล่าเรื่องราวของวัตถุดิบแต่ละอย่าง เน้นถึงที่มาของวัตถุดิบแต่ละชนิดเพราะวัตถุดิบที่เชฟเลือกมาปรุงแต่ละเมนูนั้นล้วนมีเรื่องราวที่ไม่ธรรมดา เพิ่มความพิเศษให้มากยิ่งขึ้นด้วยการใช้ดอกไม้ที่สวยงามและสมุนไพรที่ละเอียดอ่อนของไทยและต่างประเทศมาช่วยเพิ่มมิติให้วัตถุดิบหลักของแต่ละเมนูเด่นชัดมากยิ่งขึ้น
เชฟเทียร์รี่ ดราโป (Thierry Drapeau) มีพื้นเพมาจากเมืองน็องต์ ตั้งอยู่แถบลุ่มแม่น้ำลัวร์ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงทางด้านอาหารและไวน์ เชฟเปิดร้านอาหารชื่อว่า Thierry Drapeau Logis de la Chabotterie ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก การันตีด้วยการได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ระดับ 2 ดาว ต่อเนื่องกันถึง 9 ปี จนกระทั่งเชฟอยากสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เป็นแบบไฟน์ไดนิ่งในทวีปเอเชีย โดยเชฟเคยมาเป็นเชฟรับเชิญให้กับห้องอาหารฝรั่งเศสมาหลายประเทศในทวีปเอเชีย แต่สุดท้ายเชฟก็เลือกกรุงเทพฯ เป็นสถานที่ตั้งร้านใหม่ของเค้าในนาม Signature Bangkok
Floral Cuisine with Modern French Experience
Signature Bangkok เริ่มต้นให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์แห่งมื้ออาหารนี้อย่างประทับใจด้วยการนั่งผ่อนคลายในเลาจน์ ฟังเสียงเปียโนเพราะๆ ซึ้งๆ พร้อมเพลิดเพลินกับอาหารเรียกน้ำย่อยแบบพอดีคำ (bite-sized) ที่ถูกจัดตกแต่งบนสวนเฟิร์นจำลองขนาดย่อมที่เรียกว่า Little Garden of Chef Thierry Drapeau เปรียบประดุจให้เราได้สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติแห่งแคว้นบริตทานี เมืองทางฝั่งตะวันตกตอนเหนือของฝรั่งเศส
วิธีการทานเริ่มต้นด้วยการยกครีมที่ทำมาจากถั่วขาวและผักขึ้นจิบ เพื่อสัมผัสเนื้อครีมที่นุ่มเบาและมีความหอมของกลิ่นผักอ่อนๆ จากนั้นตามด้วยเมนูบนช้อนที่มีส่วนผสมของพาสลีย์สับละเอียด กระเทียม และเนย ต่อด้วยคริสปี้บอลที่มีความกรุบกรอบ ทานคู่กับน้ำสมุนไพรที่เสิร์ฟมาภายในเปลือกหอยทากฝรั่งเศสทานแล้วรู้สึกสดชื่นมาก ต่อด้วยราวิโอลี่ผักโขม ปิดท้ายด้วยเมนูไข่แดงโฟมที่จะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงเทคนิคการปรุงอันล้ำลึกของเชฟได้เป็นอย่างดี
เมนูแรกของคอร์สเชฟใช้วัตถุดิบหลักคือปลาแมคเคอเรล เป็นการนำปลาแมคเคอเรลมาผสมกับเยรูซาเล็ม อาร์ติโชควัตถุดิบที่มากด้วยคุณประโยชน์นำมาผสมรวมกันทำเป็นครีม ท็อปด้วยอูนิจากประเทศญี่ปุ่นและไข่ปลาคาเวียร์ ล้อมรอบด้วยเม็ดไข่มุกทาปิโอกาสีเขียว ส่วนเม็ดกลมสีแดงคือไข่กุ้งล็อบสเตอร์ ด้านล่างจะเป็นซอสที่ทำมาจากเยรูซาเล็มอาร์ติโชคเช่นกัน
ต่อกันด้วยเมนูพิเศษอีกหนึ่งเมนู เป็นเมนูไข่ ไข่ใบนี้นำเข้ามาจากประเทษฝรั่งเศส มีลูกเล่นซ่อนอยู่ภายใน วิธีการทานต้องใช้มีดตัดลงไปบนไข่แล้วคุณจะไม่เจอแค่ไข่แดงแน่นอน เชฟใช้เทคนิคการปรุงแบบสโลว์คุกเพื่อให้ไข่ขาวด้านนอกสุกแต่ข้างในเป็นไฮไลท์เด็ดของเชฟที่คุณต้องมาสัมผัสเอง เสิร์ฟคู่กับเห็ดทรัฟเฟิลสดและเห็ดแชมปิญอง
ส่วนเมนูซุปมีวัตถุดิบหลักคือฟัวกราส์ เชฟนำฟัวกราส์ไปเซียร์เล็กน้อยเสิร์ฟกับหอยนางรมจากแคว้นบริตทานีให้กลิ่นอายทะเลแต่ไม่คาว หอยเชลล์จากแคว้นนอร์มังดีเพิ่มสัมผัสความนุ่มลิ้นและรสหวาน ราดด้วยซุปดาชิกลายเป็นซุปที่รสชาติกลมกล่อมลงตัวสุดๆ
เมนูต่อมาเป็นเมนูปลา เชฟเลือกใช้ปลาโซลที่เชฟนำเข้ามาจากเมืองน็องต์ เสิร์ฟกับครีมที่มีส่วนผสมของหญ้าฝรั่นกับเยรูซาเล็ม อาร์ติโชค ตัดรสชาติด้วยเยลลี่ส้มจี๊ด และอัลมอนด์สไลด์ ดูจากหน้าตาคงคิดว่ารสชาติจะออกมาเรียบๆแต่ไม่เลย กลายเป็นเมนูที่ครบรสเปรี้ยวหวานมันเค็ม เซอร์ไพรซ์มาก
ไก่พื้นเมืองฝรั่งเศสที่มีชื่อเรียกว่า “ไก่เบรส” ตั้งชื่อตามถิ่นกำหนด เขาว่ากันว่าไก่เบรสเป็นไก่ที่อร่อยที่สุดในโลกจนได้ฉายาว่าไก่ขุนนางหรือบางคนก็ยกให้เป็นราชินีไก่ และเมนูที่เราจะได้ทานกันต่อไปเป็น เมนูที่ปรุงขึ้นจากไก่เบรส เชฟตั้งชื่อเมนูนี้ว่า Douttry from “Bresse” เชฟนำชิ้นส่วนของไก่เบรสทั้ง อก, ขา และน่อง มาปรุงในรูปแบบต่างๆ พร้อมเยรูซาเล็ม อาร์ติโชค ทานสลับกันไปแล้วเข้ากันลงตัวมาก เนื้อไก่นุ่มฉ่ำแน่นประทับใจมาก
เดินทางกันมาถึงเมนูขนมหวาน เริ่มเสิร์ฟด้วยเมนูน่ารักที่เชฟเล่าว่าเป็นขนมหวานแห่งความทรงจำในวัยเด็กแห่งเมืองน็องต์ มีส่วนผสมหลักจากครีมชีส โยเกิร์ตและมะม่วง เนื้อครีมชีสเนียนนุ่ม ตัดกับรสหวานอมเปรี้ยวของส่วนประกอบร่วมช่วยเพิ่มแท็กเจอร์ให้การรับประทานสนุกยิ่งขึ้น
ส่วนเมนูขนมหวานเมนูหลัก เชฟตั้งชื่อว่า Chocolate Grand Cru “Maison Barry” รวมช็อกโกแลตโฮมเมดรสพิเศษหลากหลายแบบที่คุณต้องมาลิ้มลองด้วยตัวคุณเอง
ความอร่อยยังไม่จบ ยังมีเซอร์ไพรซ์ปิดท้ายด้วยช็อคโกแลตไข่อีสเตอร์ ที่เชฟนำช็อคโกแลตมาขึ้นรูปเป็นไข่ใบใหญ่ซ่อนช็อคโกแลตทรัฟเฟิลไว้ข้างใน ก่อนทานทุกคนจึงต้องโยนไข่ลงบนโต๊ะให้แตกเพื่อทานช็อคโกแลตทรัฟเฟิล เปรียบเปรยว่าเป็นการโยนไข่อีสเตอร์ หนึ่งประเพณีที่ทำกันในวันอีสเตอร์ เป็นความสนุกเล็กๆน้อยๆสร้างรอยยิ้มปิดท้ายมื้ออาหาร
เพราะ Signature Bangkok เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสที่มีรูปแบบเฉพาะตัว ปรุงแต่ละเมนูอย่างพิถีพิถันด้วยวัตถุดิบคุณภาพ จึงเหมาะกับการชวนเพื่อน คนรักและครอบครัวมาสัมผัสโมเมนต์พิเศษนี้ไปด้วยกัน มื้อต่อไป หากเลือกไม่ได้ว่าจะชวนกันไปเติมความอร่อยกันที่ไหน ขอแนะนำให้ลองแวะมาที่ “Signature Bangkok” รับรองว่าคุณเต็มอิ่มกับบรรยากาศ อิ่มท้องกับรสชาติ และร้องว้าวไปกับทุก ๆ เมนู
ห้องอาหารฝรั่งเศส Signature Bangkok
- เปิดเวลา 18:00 – 21:00 น. ทุกวันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- โทร: 02-309-3939
- อีเมล: [email protected]
- ที่อยู่: ชั้น 11 โรงแรมวี กรุงเทพฯ 117/39-40 ถนนพญาไท ราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
- เว็บไซต์: www.signaturebangkok.com