เราใช้ชีวิตอยู่กับความสะดวกสบายในเมืองกรุงทุกวันมันก็ดีอยู่นะ แต่จะดีมากที่สุดถ้าเราได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติและอากาศที่บริสุทธิ์ มัลดีฟส์ เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลางทางในฝันของใครหลายคน ใครที่เคยไปมาแล้วก็คงอยากกลับไปอีกหลาย ๆ ครั้ง ครั้งนี้เรามีโอกาสได้มาพักที่ “โซเนวา ฟูชิ” (Soneva Fushi) แบรนด์รีสอร์ทหรูที่เน้นความหรูหราอย่างยั่งยืนและให้ความสำคัญกับการดูแลธรรมชาติ
การเดินทางมายัง โซเนวา ฟูชิ มัลดีฟส์ ของเราในครั้งนี้สะดวกสบายมากกับใช้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways) ที่บินตรงจากกรุงเทพฯ มาลงที่สนามบิน มาเล่ (MLE) ทุกคนจะได้อ่านเรื่องราวการเดินทางโดยละเอียดของเราในตอนท้ายของบทความ
ก่อนที่เราจะพาทุกคนเข้าสู่รีวิวประสบการณ์การเข้าพักอันเข้มข้น เรามาทำความรู้จักกับที่ตั้งของ “โซเนวา ฟูชิ” (Soneva Fushi) มัลดีฟส์ กันให้มากขึ้นกันก่อนดีกว่า
“โซเนวา ฟูชิ” เป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในเขต บา อะตอล (Baa Atoll) ซึ่งมัลดีฟส์จะเรียกเขตการปกครองแต่ละเขตที่แบ่งว่า อะตอล
บา อะตอล อยู่เยื้องไปทางตอนเหนือของสนามบินมาเล่ เป็นส่วนหนึ่งของเขตสงวนชีวมณฑลแห่ง สหประชาชาติ (UNESCO Biosphere Reserve) ดังนั้นพื้นที่นี้จึงมีความหลากหลายทางชีวภาพ ประกอบไปด้วยแนวปะการังที่มีความสมบูรณ์ ปลาหลากหลายสายพันธ์ เต่าทะเล กระเบนราหู ฉลามขาว และฉลามขาว โผล่ออกมาให้ทุกคนเห็นกันง่ายและบ่อยครั้ง
ภาพนี้ถ่ายในขณะที่เรากำลังนั่งอยู่บนซีเพลน มองเห็นภาพเต็มของโซเนวา ฟูชิ รีสอร์ท ที่ทั้งเกาะเป็นพื้นที่ของรีสอร์ททั้งหมด
ห้องพักของ โซเนวา ฟูชิ จะเป็นวิลล่าที่ตั้งอยู่บนฝั่งทั้งหมดเนื่องจากโดยรอบเกาะมีแนวปะการังอยู่มาก การที่จะสร้างวิลล่าแบบอยู่บนน้ำจึงไม่เหมาะ และนี่คือจุดเด่นของโซเนวา ฟูชิ ที่ตั้งอยู่ที่นี่ ถือว่าเป็นหนึ่งในเกาะดั้งเดิมของมัลดีฟส์ที่มีพันธ์ไม้ท้องถิ่นขึ้นอย่างหนาแน่น
วิลล่าแต่ละหลังจะซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหมู่แมกไม้ที่หนาแน่นบนเกาะส่วนตัว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนอย่างสงบเงียบท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ แต่พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เราพิสูจน์มาแล้วว่า การมาพักที่ “โซเนวา ฟูชิ” ไม่ใช่แค่การได้มาเที่ยวทะเลมัลดีฟส์เพียงแค่นั้น แต่เราจะได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจจากการบริการในแบบฉบับของแบรนด์โซเนวาอีกด้วย
ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริงของโซเนวาเริ่มขึ้นทันทีที่ขึ้นเรือ เราได้รับการดูแลจาก มิสเตอร์ฟรายเดย์ (Mr.Friday) ซึ่งเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกอุ่นใจเมื่อเข้าพักกับรีสอร์ทของโซเนวา
ชาน (Shan) คือ ชื่อของ Mr.Friday ที่จะเป็นผู้ช่วยอำนวยความสะดวกและจัดสรรประสบการณ์ในทริปนี้ของเราให้ตรงกับไลฟ์สไตล์และความชอบของเรา ชานเข้ามาทักทายและแนะนำตัวกับเราตั้งแต่บนเรือเรียกชื่อเราได้อย่างถูกต้อง รับรู้ได้ถึงการเตรียมตัวมาอย่างดี
ชานกล่าว “Welcome to Soneva Fushi” พร้อมกับยื่นถุง “No News, No Shoes” ขึ้นมา เพื่อให้เราถอดรองเท้าใส่ลงไป
No News, No Shoes คือปรัชญาของแบรนด์โซเนวา ที่อยากให้เราได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ปิดรับข่าวสารที่จะสร้างความเคร่งเครียดให้กับเราอย่างที่เราใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ และถอดรองเท้าเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติอย่างแนบชิด
ยิ่งเดินทางเข้าใกล้รีสอร์ทมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น จนในที่สุดเราก็เทียบท่าและขึ้นฝั่งที่โซเนวา ฟูชิ
เมื่อมาถึงเกาะเราเลือกที่จะไปวิลล่าที่เราพักด้วยการเดิน เพื่อที่ระหว่างเดินเราจะได้ฟังข้อมูลที่จำเป็นต้องทราบคร่าว ๆ เกี่ยวกับที่นี่ ถ้าใครไม่อยากเดินก็เลือกที่จะใช้บริการรถบักกี้ให้ไปส่งที่วิลล่าได้ แต่เราแนะนำให้ลองดู เป็นการอุ่นเครื่องกับประสบการณ์เดินเท้าเปล่าบนเกาะนี้ได้ดีเลยล่ะ
ชานแนะนำและเล่าข้อมูลบนเกาะให้ทราบทั้งสัตว์ที่อาจพบเจอ บนบก บนฟ้า ในน้ำ พื้นที่บนเกาะสามารถเดินด้วยเท้าเปล่าได้ทั้งหมด เราฟังข้อมูลที่ชานเล่าด้วยความตั้งใจ จนเราได้เปิดหนังสือที่อยู่ในวิลล่าพบว่าข้อมูลที่ชานเล่าให้ฟังอยู่ในหนังสือทั้งหมด และชานเองก็เล่าให้เราฟังได้อย่างครบถ้วน
ประสบการณ์อันเข้มข้นกำลังจะเริ่มขึ้น น่าตื่นเต้นและน่าติดตามมากใช่มั้ยล่ะ ตอนต่อไปเราจะชวนทุกคนเข้าไปดูยังวิลล่าที่เราพัก ซึ่งเป็นวิลล่าหมายเลข 59
Stay in Villa 59 | “โซเนวา ฟูชิ” (Soneva Fushi)
วิลล่าหมายเลข 59 เป็นวิลล่าแบบ Soneva Fushi Villa Suite with Pool อยากรู้ว่าวิลล่าแต่ละหมายเลขเป็นแบบไหนลองดูในแผนที่ของรีสอร์ทได้เลย
วิลล่าแต่ละหลังจะสร้างด้วยไม้เป็นหลักผนังเป็นปูน มีความกลมกลืนกับธรรมชาติ จำลองการใชัชีวิตบนเกาะตามวรรณกรรมเรื่องโรบินสัน ครูโซ (Robinson Crusoe) ที่ตัวละครเอกติดเกาะและใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติในกระท่อมกลางป่าพร้อมกับเด็กพื้นเมืองคนหนึ่งที่เค้าช่วยให้รอดชีวิตจากการถูกคนป่าอีกเผ่าหนึ่งตามล่า โรบินสันได้ตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่า ฟรายเดย์ “Friday” เนื่องจากวันศุกร์เป็นวันที่โรบินสันเจอเด็กคนนี้ โซเนวาจึงตั้งชื่อบัทเลอร์ส่วนตัวของเราว่า Mr./Mrs. Friday เช่นกันซึ่งคือผู้ที่คอยดูแลเราตลอดระยะเวลาที่พักอาศัยอยู่ที่นี่
โดยหลัก ๆ วิลล่าที่พักของ โซเนวา ฟูชิ จะแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งพระอาทิตย์ขึ้น (sunrise side) กับ ฝั่งพระอาทิตย์ตก (sunset side) ทั้งสองฝั่งมีชายหาดขาวเม็ดละเอียดและน้ำใสเหมือนกัน มีความต่างอยู่เล็กน้อยตรงที่
ฝั่งพระอาทิตย์ตก จะเหมาะสำหรับคนที่ชอบดำน้ำตื้น เพราะด้านนี้จะมีแนวปะการังให้ดำน้ำ เห็นเกาะที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 650 เมตร
ฝั่งพระอาทิตย์ขึ้น จะเหมาะสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวมาก ๆ เห็นวิวท้องทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา
วิลล่าของเราอยู่ฝั่งพระอาทิตย์ตก ซึ่งเราชอบมากที่จะได้เห็นแสงพระอาทิตย์ตกตอนเย็น และได้ลงไปดำน้ำตื้นเล่น ๆ จากวิลล่าที่เราพัก
ห้องพักแบบ Soneva Fushi Villa Suite with Pool มีพื้นที่มากถึง 594 ตารางเมตร เตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่นุ่มนอนสบาย พร้อมกับห้องนั่งเล่นที่กว้างขวาง มีโซฟาขนาดใหญ่ให้นอนเล่นกันสบาย ๆ
เตียงนอนใหญ่เป็นพิเศษและหนานุ่มมาก เราสามารถเลือกหมอนที่เราชอบได้จากเมนูหมอนมากกว่าสิบแบบ แต่ละแบบมีสรรพคุณและช่วยให้การนอนของเราเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น
ห้องแต่งตัวเป็นกระจกใส มีความเป็นส่วนตัวอยู่ภายในวิลล่าของเราเอง
วิลล่าแต่ละหลังจะล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ที่หนาแน่น
ในห้องยังมีตู้แช่ไวน์ ชา กาแฟและขนมขบเคี้ยวให้ทานเล่น
อ่างล่างมีสองอ่าง สะดวกในการใช้งาน
ที่อาบน้ำแบบอินดอร์ แต่ก็เปิดโล่งเหมือนใช้ชีวิตติดเกาะอยู่กลางป่าจริง ๆ เหมาะกับคู่รักเป็นอย่างมาก
ยังมีส่วนอาบน้ำแบบเอาท์ดอร์ขนานแท้ ภายในสวนของวิลล่า ส่วนนี้มีกำแพงสูงล้อมรอบ เป็นส่วนตัว อาบกันได้สนุกเต็มที่
ทางด้านชายหาดใกล้กับวิลล่ามีเปลญวนให้นอนเล่น
สระว่ายน้ำเกลือ และเก้าอี้อาบแดดถูกเซ็ทใหม่ทุกวันให้พร้อมใช้งานตามต้องการ
นอนฟังเสียงธรรมชาติแล้วอาจจะเผลอเคลิ้มหลับเอาได้
ช่วงเทิร์นดาวน์พนักงานจะมาจุดเทียนบริเวณริมสระว่ายน้ำ โรแมนติกมาก
ความเป็นธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ สัมผัสได้จากต้นไม้ที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น และสัตว์ตัวน้อย ๆ ที่จะโผล่มาทักทายให้เห็นจนชินตา
กระต่าย บางครั้งก็มานอนตัวยาวเหยียดอยู่ข้างวิลล่า เจอหน้ากันก็หันมาสบตากันบ้างไม่ได้กระโดดหนีไปไหน แต่ถ้าเราเข้าไปใกล้มาก ก็จะขยับตัวออกห่างเช่นกัน
นกไม่ทราบสายพันธุ์ ในหนังสือที่อยู่ในวิลล่าได้อธิบายเกี่ยวกับนกสายพันธ์ชนิดนี้ไว้อย่างละเอียด แต่เราไม่ได้จำรายละเอียดมาสักเท่าไหร่ จำได้คร่าวๆ ว่าเป็นนกสายพันธุ์ท้องถิ่น ที่เดินไปรอบวิลล่าของเราเลยสังเกตจากรอยเท้าที่อยู่บนทราย
ค้างคาว เป็นการเจอโดยบังเอิญในขณะที่กำลังจะปั่นจักรยานออกจากหน้าวิลล่า เงยหน้ามองฟ้าก็เห็นว่ามีสายตาคู่นี้จ้องมองอยู่ โดยปกติเราไม่เคยเห็นค้างคาวในระยะใกล้ชิดอย่างนี้มาก่อน ก็ตื่นเต้นดี พอเราปั่นจักรยานผ่านเค้าก็บินสลับเปลี่ยนกิ่งไม้ที่เกาะ
ปูเสฉวน มีอยู่เยอะเลยที่ชาดหาดหลังวิลล่า บางทีก็เจอตัวที่ไต่มาถึงเก้าอี้อาบแดดริมสระว่ายน้ำของเรา
แม้กระทั่งหลังบ้่านยังมีฉลามขาวตัวน้อย และปลาอื่น ๆ ว่ายให้เราเห็นเป็นเรื่องปกติตลอดทั้งวัน ว่ายตัวเดียวบ้าง ว่ายเป็นกลุ่มบ้าง นั่งริมชายหาดดูไปก็เพลินดี
เราต่างได้เห็นถึงความสะดวกสบายและชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ในวิลล่าที่พักกันแล้ว เรื่องของอาหารในแต่ละมื้อเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เรารู้สึกชอบโซเนวา กับการสร้างประสบการณ์ในการรับประทานอาหารให้แขกที่เข้าพักรู้สึกประทับใจกับบรรยากาศในอาหารแต่ละมื้อ นอกเหนือไปจากรสชาติที่แสนดีงาม อย่าพลาดที่จะอ่านกันต่อในตอนต่อไป
Dining | “โซเนวา ฟูชิ” (Soneva Fushi) มัลดีฟส์ Review
– Soneva Fushi Series –
“โซเนวา ฟูชิ” (Soneva Fushi) มัลดีฟส์ Review | Intelligent Luxury
Dining | “โซเนวา ฟูชิ” (Soneva Fushi) มัลดีฟส์ Review
Experiences | “โซเนวา ฟูชิ” (Soneva Fushi) มัลดีฟส์ Review
How to go | “โซเนวา ฟูชิ” (Soneva Fushi) มัลดีฟส์ Review