ถ้าคุณป็นคนที่รักธรรมชาติแต่ขาดความหรูหราไม่ได้ โซเนว่า คีรี (Soneva Kiri) คือสถานที่ลักชัวรี่สโลว์ไลฟ์ที่แท้จริง ตอบโจทย์การพักผ่อนพร้อมกับสร้างประสบการณ์ที่คุณจะประทับใจไปอีกยาวนาน…เรามั่นใจอย่างนั้น
โซเนว่า คีรี ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ มีวิลล่าขนาดใหญ่ให้ทุกคนได้พักผ่อนอย่างสะดวกสบาย ยังมีประสบการณ์รอให้ทุกคนมาสัมผัส ซึ่งเป็นความรู้สึกที่คุณสัมผัสได้จากที่โซเนว่า คีรี เท่านั้น เรายกให้เป็นหนึ่งใน custom made experience ที่น่าจดจำสำหรับนักเดินทาง สำหรับบทความนี้เราขอหยิบเอาประสบการณ์ที่น่าประทับใจที่เราได้รับจากโซเนว่า คีรี มาเล่าให้ทุกคนได้อ่านกัน
Mr. or Ms. Friday Personal Butlers
มิสเตอร์หรือมิสฟรายเดย์ (Friday) คือบุคคลที่จะคอยเป็นบัตเลอร์ส่วนตัวให้กับเราแบบ 24 ชั่วโมงตลอดการเข้าพัก ทุกคนน่าจะสงสัยเหมือนเราถึงที่ไปที่มา เราก็สงสัยเลยสอบถามกับมิสฟรายเดย์ของเรา สตอรี่ของมิสฟรายเดย์มาจากนิยายที่เขียนโดย แดเนียล ดีโฟ (Daniel Defoe) กล่าวถึงเรื่องราวของ โรบินสัน ครูโซ (Robinson Crusoe) นักเดินเรือชาวอังกฤษที่ต้องไปติดเกาะร้างกลางมหาสมุทรอยู่หลายปี ในช่วงที่อยู่บนเกาะโรบินสันได้ช่วยชีวิตเด็กพื้นเมืองคนหนึ่งให้รอดจากการถูกคนป่านำไปเป็นอาหาร เด็กคนนี้เลยติดตามและคอยรับใช้โรบินสัน โรบินสันจึงได้ตั้งชื่อให้เด็กคนนี้ว่า Friday ตามวันที่เจอกันครั้งแรก
โซเนว่า คีรี เลยนำเรื่องราวนี้มาทำให้เป็นจริงด้วยการบริการแบบส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมงตั้งแต่ตื่นเช้า จนถึงเข้านอน เราสามารถโทรหามิสเตอร์หรือมิสฟรายเดย์ได้ตลอดเวลา ทางรีสอร์ทจะมีโทรศัพท์มือถือให้หนึ่งเครื่อง กดโทรหามิสฟรายเดย์ของเราได้แบบ Quick Call การที่จะเรียกว่ามิสเตอร์หรือมิสฟรายเดย์ก็แล้วแต่ว่าบัตเลอร์ของเราจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
“คุณธิดา” มิสฟรายเดย์ที่คอยดูแลการพักผ่อนตลอด 4 วัน 3 คืน คอยจัดสรรตารางเวลาและประสานงานให้การช่วยเหลือได้รวดเร็วมาก
No news, no shoes
โซเนว่า (Soneva) มีปรัชญาที่อยากให้แขกทุกท่านที่ได้เดินทางมาพัก ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม และเข้าถึงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ด้วยการให้ทุกคนหยุดการติดตามข่าวสารในระยะเวลาที่พักอยู่ที่นี่ เพราะการที่เรายังคอยติดตามข่าวสารนั้น จะทำให้เรามีเวลาส่วนตัวในการพักผ่อนน้อยลง และการให้เราเดินเท้าเปล่า จะทำให้เราสัมผัสกับหาดทราย คลื่นทะเล หรือพื้นที่เป็นธรรมชาติทั้งหมดได้อย่างเต็มที่ ทำให้เราคิดถึงโรบินสันอีกครั้ง ว่าหรือจะให้เรารู้สึกเหมือนช่วงเวลาของการติดเกาะของโรบินสัน ที่ทำให้เราได้เจอ Ms. Friday ของเรา
ตั้งแต่มาถึงเลย Ms. Friday จะให้ถุงใส่รองเท้าให้กับเราคนละถุง เพื่อให้เราได้ถอดรองเท้าใส่และเดินเท้าเปล่าตั้งแต่เช็คอิน
คุณต้องมาสัมผัสฟิลลิ่งนี้ด้วยตัวเอง เรามั่นใจว่าคุณจะต้องชอบ ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการบังคับ ใครที่ไม่ถนัดไม่อยากถอดก็ไม่เป็นไร แต่ดูทุกคนจะเต็มใจและตื่นเต้นที่จะได้ถอดรองเท้าตลอดเวลาที่ได้เข้าพักทึ่นี่
Soneva Time
เวลาที่โซเนว่า คีรี จะเร็วกว่าเวลาในประเทศไทยไป 1 ชั่วโมง ไม่ได้เปลี่ยนไปตามเส้นรุ้ง เส้นแวงของโลกหรอก ที่อื่นๆบนเกาะกูดยังคงรันไปตามเวลาปกติ เฉพาะรีสอร์ทโซเนว่าเท่านั้น ที่ใช้เวลาของตัวเอง
จุดประสงค์นั่นก็คือเพื่อที่จะให้แขกได้ตื่นเร็วขึ้นเพื่อมาสัมผัสกับอากาศดีในยามเช้า เข้านอนไวขึ้น เพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่ เชื่อไหมว่าการปรับเวลาให้เร็วขึ้นหนึ่งชั่วโมง เรารับรู้ได้ด้วยความรู้สึกของร่างกายของเราว่ามันดีสดชื่นขึ้นจริง จนเราคิดว่านี่คือเวลาร่างกายจริงๆที่ร่างกายเราต้องการอยู่รึปล่าว
ดังนั้นเราต้องปรับนาฬิกาที่ข้อมือและปรับนาฬิกาที่โทรศัพท์ของเราจริงๆ ไม่งั้นอาจจะหลงเวลากับคนอื่นๆ ภายในรีสอร์ทได้
Personal electric buggies for every guest
รถบักกี้ไฟฟ้ามีไว้สำหรับวิลล่าทุกหลัง เนื่องด้วยเนื้อที่ของ Soneva Kiri มีขนาดค่อนข้างกว้าง ทำให้การเดินทางด้วยเท้าเปล่าอาจจะไม่สะดวก จึงมีรถบักกี้ไฟฟ้าส่วนตัวให้บริการกับวิลล่าทุกหลัง เพื่อขับไปยังที่ต่างๆ ภายในรีสอร์ทได้สะดวก ใครที่ไม่ถนัดขับเอง จะแจ้งให้มิสเตอร์หรือมิสฟรายเดย์มารับมาส่งก็ได้นะ แต่เราเชื่อว่าทุกคนอยากขับเองแบบมันส์ๆ
รถบักกี้จะมีหมายเลขติดอยู่ที่ตัวรถ เวลามีการจอดในพื้นที่ส่วนกลางของรีสอร์ทหลายคัน เราก็มองหารถของเราได้จากหมายเลขรถ นอกจากนั้นบนตัวรถ ยังมีกระดาษที่มีชื่อของเราติดไว้บนพวงมาลัยอีกด้วย ถ้าหลงขึ้นนั่งแล้วพบว่าชื่อที่ติดอยู่บนพวงมาลัยไม่ใช่ชื่อของเราก็รีบลงเปลี่ยนคันด่วน
โดยช่วงเวลากลางคืนหลังจากที่เรากลับถึงวิลลาจะมีเจ้าหน้าที่ของทางโซเนว่า ทำการรีชาร์ตไฟฟ้าใหม่เพื่อให้พร้อมสำหรับการใช้งานในวันรุ่งขึ้นเป็นประจำทุกคืน
การขับง่ายมาก มีแค่แป้นเหยียบเร่งกับ แป้นเบรค เดินหน้าถอยหลังมีสวิสต์สลับ ช่วงแรกๆที่ลองขับอาจจะเหยียบเบาเหยียบแรงไปบ้าง กะน้ำหนักเท้ายังไม่ค่อยถูก แต่เมื่อขับไปสัก 5 นาทีจะเริ่มชินและรู้น้ำหนักเท้า ทีนี้แหล่ะขับฉิวแน่นอน
ระหว่างทางมีป้ายบอกเตือนสติให้ขับช้าๆ เพราะบางทีเราก็อาจจะขับเพลินเพราะลมพัดเย็น
ล้อมหน้าล้อมหลังไปด้วยต้นไม้
ขับไปก็สุดอากาศหายใจได้สดชื่นเต็มปอด
So Soneva So Chilled
มีไอศกรีมคอยบริการทุกคน
จะยืนเลือกไอศกรีมที่อยู่ในตู้ด้วยตัวเองหรือนั่งที่โต๊ะเลือกจากเมนูก็ได้
รอสักครู่พนักงานก็ตักมาเสิร์ฟ อยากทานกี่ลูกเท่าไหร่ก็ได้
So Chocoholic
ห้องช๊อกโกแลต บริการฟรีสำหรับทุกคน ห้องนี้เหมือนห้องที่จะดึงทุกคนกลับไปสู่วัยเด็กอีกครั้ง แน่นอนสำหรับเด็กๆแล้ว พวกเค้าตาลุกวาวกับช็อคโกแลตเหล่านี้แน่ๆ และสำหรับผู้ใหญ่อย่างเราๆจะสนุกกับการเลือกหยิบช็อคโกแลตเหล่านี้ไปชิมไม่ต่างจากเด็กๆเลย
ที่ห้องช็อคโกแลตจะเปิดแอร์ไว้ตลอดทั้งวันทั้งคืนและเชฟก็จะทำช็อคโกแลตมาเติมอยู่ตลอด
โซเนว่า รีสอร์ททุกที่มีไอศครีมและช็อคโกแลต บริการฟรีสำหรับผู้เข้าพัก
อร่อยและฟินส์มาก นี่คือสวรรค์ของคนรักช๊อกโกแลตของแท้
ชิ้นนี้อร่อย เป็นช็อคโกแลตที่สอดไส้แยมส้มเอาไว้
มีกามารองให้หยิบทานกันทั้งวัน
Homemade Ferrero
ช็อคโกแลตเข้มข้นมาก
ช็อคโกแลตผสมมัชชะ
แวะมานั่งทานกันได้ตลอดทั้งวัน
Cinema Paradiso – Private Cinema
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่เราประทับใจคือการได้ดูหนังกลางแจ้ง ชวนให้ระลึกถึงยุคสมัยอดีตที่นิยมดูหนังฉายกลางแปลง ด้านหน้ามีบอร์ทไม้แจ้งเวลาฉายหนังในแต่ละรอบ สำหรับวันนี้มีสองรอบ ช่วงหัวค่ำเป็นการ์ตูนเอาใจเด็กๆ ส่วนรอบดึกหน่อยจะเป็นหนังทั่วไป
ยิ่งเดินเข้าใกล้โรงหนัง จะยิ่งได้กลิ่นป๊อบคอร์น บรรยากาศทุกอย่างมันใช่เลยจริงๆ โรงหนังกลางแจ้งที่สุดแสนโรแมนติก มีกลิ่นป๊อบคอร์นหอมกรุ่น
คืนไหนที่ท้องฟ้ามืด นอกจากจะนอนดูหนังแล้วยังนอนดูดาวสลับกันไปด้วยและไม่อยากจะคิดเลยว่า ในช่วงที่อากาศหนาวเย็นจะโรแมนติกมากกว่านี้สักแค่ไหน
เบาะนอนวางห่างกันในระยะที่เป็นส่วนตัว นั่งพิงนอนพิงกันดูหนังโรแมนติกยากที่จะบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือ อยากให้ให้ทุกคนสัมผัสได้ถึงความพิเศษของบรรยากาศนี้ด้วยตัวเอง
เป็นการดูหนังกลางแจ้งที่หาดูไม่ได้ในชีวิตประจำวันของเราเลย ต้องมาที่นี่เท่านั้นถึงจะสัมผัสกับโรงหนังกลางธรรมชาติอุดมสมบูรณ์แบบนี้
Eco Centro
หากมีโอกาสเราอยากให้มาเดินดู Eco Centro ของโซเนว่า คีรี เพื่อเห็นการบริหารจัดการระบบนิเวศภายในรีสอร์ท มั่นใจได้กับสวนผักปลอดสารพิษ
เรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางในการพัฒนาระบบนิเวศและการอยู่อาศัยร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน
ที่นี่มีแปลกผักอยู่หลากหลายชนิดและหลายแปลง รู้สึกสบายใจกับพืชผักที่เราได้ทานในแต่ละมื้อเมื่อได้มาเห็นกระบวนการปลูกที่ใช้หลักการปลูกแบบปลอดภัยจากสารเคมี 100%
ต้นหม่อนหรือมัลเบอร์รี่ มีปลูกไว้ที่นี่เช่นกัน
ผลที่สุกจะมีสีแดงดำ ทานกันสดๆยังได้เลยเพราะไม่มีการใช้สารเคมีในการปลุก
เศษไม้ที่เกิดจากการตัดแต่งกิ่ง เมื่อถูกตัดก็จะนำมากองรวมไว้สำหรับทำฟืนต่อไป
เรามีโอกาสได้เรียนรู้หลักการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนและอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างปลอดภัยจาก Eline เจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมและนักชีววิทยาด้านทะเล ผู้ที่อธิบายถึงหลักการบริหารและจัดการระบบนิเวศของโซเนว่า คีรี ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้
หญ้าหวาน เพาะไว้สกัดเป็นน้ำหญ้าหวานเสิร์ฟที่ไลน์อาหารเช้า
ต้นทานตะวันอ่อนที่เพาะเองและใช้เสิร์ฟที่ห้องอาหาร หยิบทานกันได้สดๆ เพราะปลอดสารเคมี 100%
โรงกลั่นไบโอดีเซล โดยใช้น้ำมันที่เหลือใช้จากครัวและจากชาวบ้านบนเกาะ
การที่เรามีโอกาสได้มาพักที่ โซเนว่า คีรี มันคือโลกอีกใบหนึ่งที่ชีวิตนี้เราจะมีโอกาสได้มาสัมผัสกันสักกี่ครั้งกัน และเป็นประสบการณ์การที่คุ้มค่าน่าจดจำ อ่านเสร็จแล้วควรจะหาโอกาสมาลองสัมผัสด้วยตัวคุณเองสักครั้ง
– Soneva Kiri Series –
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 1/12 The Inspiring a lifetime of RARE experiences
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 2/12 Discover More Villas
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 3/12 Night Time : Soneva Kiri’s
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 4/12 Six Senses Spa
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 5/12 Soneva Kiri In-Stay Experience
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 6/12 Treepod Dining
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 7/12 Mushroom Cave Lunch
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 8/12 Benz’s Restaurant
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 9/12 The View Restaurant
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 10/12 Dining Room, Buffet Dinner
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 11/12 Dining Room, Breakfast
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 12/12 Slow Life Experience
[…] โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 5/12 Soneva Kiri In-Stay Experience […]
[…] โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 5/12 Soneva Kiri In-Stay Experience […]