So Over the Top บินตรงสู่รีสอร์ท
จะมีสักกี่รีสอร์ทที่มีบริการเครื่องบินส่วนตัวบริการรับ-ส่ง การเดินทางด้วยรถยนต์และต่อเรือจากรุงเทพฯ มาเกาะกูดใช้เวลาเกือบ 5-6 ชั่วโมง โซเนว่า คีรี มีตัวเลือกในการเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิมายังเกาะกูดด้วยเครื่องบินส่วนตัวของทางรีสอร์ท ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ลงที่สนามบินเกาะไม้ซี้ สนามบินส่วนตัวของโซเนวา คีรี บนเกาะเล็กๆอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ท จากนั้นนั่งเรือเร็วอีกประมาณ 5 นาทีก็จะถึงยังท่าเทียบเรือ Soneva Kiri D24 คือหมายเลขของเคาน์เตอร์เช็คอินสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ สังเกตโลโก้ Soneva Kiri ตั้งอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์ โค้ด TFT คือโค้ดของเที่ยวบินของเรา เนื่องจากเป็นเที่ยวบินส่วนตัว หมายเลขไฟล์ทการเดินทางของเราคือ TFT207 เคาน์เตอร์เช็คอินเปิดให้บริการ 2 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทาง ขั้นตอนการเช็คอินและโหลดสัมภาระได้รับการบริการจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี เป็นบริการแบบไพรเวทเซอร์วิสที่ได้รับตั้งแต่เช็คอิน หากมาถึงก่อนเวลามากๆ ไม่ต้องไปหาที่ว่างนั่งรอเอง เจ้าหน้าที่จะพาไปนั่งรอพักผ่อนที่ไพรเวท เลาจน์ VIP Miracle Lounge ทานขนม ชา กาแฟ เล่นมือถือ ทุกขั้นตอนเป็นการดูแลอย่างเป็นส่วนตัวจากเจ้าหน้าที่ และไม่ต้องกังวลว่าจะนั่งเพลินจนเลยเวลา มีเจ้าหน้าที่ประจำเลาจน์คอยแจ้งและเรียกเมื่อใกล้เวลาขึ้นเครื่อง เมื่อใกล้ถึงเวลาเดินทาง เจ้าหน้าที่ภาคพื้นนำเราไปยังจุดตรวจสัมภาระเพื่อดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัยของสนามบินตามปกติ จากนั้นพาเราเดินไปยังประตูทางออกหมายเลข B8 นั่งรถตู้จากอาคารสนามบินไปยังเครื่องบิน เมื่อมาถึงเครื่องบินโดยสาร อดตื่นเต้นไม่ได้จริงๆ Soneva จะเรียกชื่อสิ่งต่างๆ ของรีสอร์ทด้วยคำขึ้นต้นว่า Ever Soneva So และ Ever Soneva So Over the Top คือเครื่องบินลำที่เราจะบินไปเกาะไม้ซี้ในวันนี้ เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโดยสารขนาด 8 ที่นั่ง ทางขึ้นเครื่องเป็นบรรไดที่อยู่ทางด้านท้ายลำ เมื่อเดินไปอีกด้านหนึ่งของตัวเครื่องจะเห็นโลโก้ Soneva Kiri อยู่บริเวณช่วงกลางของลำ กัปตันเริ่มแท๊กซี่ไปยังรันเวย์เตรียมตัวรอสัญญาณจากวิทยุการบิน กัปตันขับเครื่องบินชิลๆ ราวกับขับรถยนต์แต่ในใจเราเต้นตุ๊บๆตับๆ ไม่เคยเห็นวิวของสนามบินสุวรรณภูมิด้วยมุมนี้มาก่อน ด้วยขนาดของเครื่องบินที่ไม่ใหญ่จึงทำให้เรามองเห็นพื้นรันเวย์ของสนามบินชัดเจนมาก ตามปกติของการขึ้นเครื่องเราก็จะหยิบนิตยสารขึ้นมาอ่าน ฉบับนี้ปกหน้าของเล่มเป็นภาพของคุณโสนุ ชิฟดาซานี (Sonu Shivdasani) และภรรยาคุณอีวา (Eva) เจ้าของแบรนด์ Soneva ความน่ารักของภาพทำให้เราอมยิ้มตามไปด้วย เมื่อเครื่องบินทะยานขึ้นสู่น่านฟ้า เรามองออกนอกหน้าต่างเพื่อชมวิวเหมือนที่เราทำมาตลอด แต่ครั้งนี้มีสิ่งที่แตกต่างไปจากทุกครั้งนั่นคือเพดานบินของเครื่องบินขนาดเล็ก จะไม่สูงเหมือนที่เคยบินด้วยเครื่องบินพาณิชย์ Airbus หรือ Boeing ระดับความสูงที่ทำการบินนั้นประมาณ 25,000 ฟุต หรือประมาณ 7.6 กิโลเมตรจากพื้น บนเครื่องจะวางน้ำดื่มและมีบริการขนมไว้ใกล้กับที่นั่ง ภายในห้องโดยสาจะมีทางเดินอยู่ตรงกลางลำ ด้านข้างจะเป็นที่นั่งฝั่งละ 1 ที่นั่ง ทั้งหมด 4 แถว ทุกที่นั่งมองเข้าไปยังห้องนักบิน เราเองก็เป็นหนึ่งคนที่หลงไหลและชื่นชอบการเดินทางด้วยสายการบิน การได้เห็นห้องนักบินชัดเจนขนาดนี้ เป็นประสบการณ์ที่จะจดจำด้วยความประทับใจไปตลอดชีวิตแน่นอน เมื่อใกล้ถึงเกาะไม้ซี้ นักบินประกาศแจ้งเพื่อให้เราพร้อมสำหรับการลดเพดานบินลง สนามบินเกาะไม้ซี้ เมื่อเครื่องจอดเรียบร้อย นักบินกล่าวขอบคุณผู้โดยสารทุกคนอีกครั้ง พร้อมกับบอกให้ทุกคนได้มีความสุขกับการมาพักผ่อนในครั้งนี้สนามบินเกาะไม้ซี้ : Koh Mai Si Airport
เมื่อประตูของเครื่องเปิด เจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทแต่งกายด้วยชุดผ้าลินิน สีขาว ไม่สวมรองเท้า ขับรถบักกี้ (Buggy) มารอต้อนรับอยู่แล้ว และสิ่งที่ทำได้ดีคือเจ้าหน้าที่ทักชื่อให้การต้อนรับได้ถูกคน ใครที่ได้คลุกคลีกับการบริการโรงแรมจะทราบดีว่านี่คือบริการระดับลักซัวรี่ที่ควรมี และเมื่อมาถึงสนามบินเกาะไม้ซี้ เราจะถ่ายรูปกับเครื่องบินได้สะดวกมากขึ้น เพราะเป็นสนามบินส่วนตัวของทางรีสอร์ทท่าเทียบเรือ Soneva Kiri : The Jetty
จากลานจอดเครื่องบินนั่งรถบักกี้มาท่าเทียบเรือประมาณ 3 นาที จากนั้นนั่งเรือเร็วเร็วอีก 5 นาทีเพื่อยังท่าเทียบเรือ Soneva Kiri ก่อนเครื่องออก เจ้าหน้าที่แจกเสื้อชูชีพให้ทุกคนใส่ แม้จะเป็นการเดินทางระยะสั้น ความปลอดภัยก็เป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าหน้าที่อธิบายให้ทุกคนเข้าใจ บนเครื่องแจกผ้าเย็นหอมชื่นใจให้เช็ดไม้เช็ดมือสร้างความสดชื่นกันไปพลางๆ ท่าเทียบเรือ Soneva Kiri ทอดตัวยาวเป็นแลนมาร์คที่ใครๆเห็นก็รู้ว่านี่คือ ท่าเทียบเรือของที่นี่BAREFOOT LUXURY, NO NEWS, NO SHOES
ปรัชญา “NO NEWS, NO SHOES” ของ Soneva ทำให้เราเข้าถึงและสัมผัสถึงการพักผ่อนอย่างหรูหราได้อย่างแท้จริง ที่นี่ไม่มีช่องโทรทัศน์และข่าวให้ดู สัญญาณ Wifi ที่อยู่ในวิลล่ามีสวิตซ์เปิดปิด ทั้งนี้เพื่อให้เราได้ตัดการเชื่อมต่อชีวิตประจำวันเดิมๆของเราแล้วมาอยู่กับการพักผ่อนที่หรูหราอย่างเต็มที่ ครบถ้วนไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เมื่อเรามาถึงเราจึงจะได้รับถุงใส่รองเท้า และเริ่มถอดตั้งแต่มาถึง “ทั่วทั้งบริเวณรีสอร์ทสามารถเดินด้วยเท้าปล่าวได้” นี่คือสิ่งที่ Ms.Friday แจ้งเรา รถบักกี้ไฟฟ้าส่วนตัว (Personal Electric Buggies) เป็นรถประจำตัวของเราจริงๆ ยืนยันด้วยการติดชื่อเราไว้บนพวงมาลัยรถใครที่สะดุดตากับคำว่า Ms.Friday เราจะมาเล่าให้ฟังกันในตอนที่ 5 Soneva Kiri [EP.5] Soneva Kiri In-Stay Experience และในตอนนี้เรามาดูห้องพักที่เราเข้าพักกันดีกว่ากับวิลลาหมายเลข 12
Villas 12 Beach Pool Villa Suite
วิลล่าหมายเลข 12 คือหมายเลขวิลล่าที่เราเข้าพักในครั้งนี้เป็นวิลล่าแบบ Beach Pool Villa Suite พื้นที่กว่า 403 ตารางเมตร มาพร้อมสระว่ายน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องแต่งตัว พื้นที่ห้องน้ำที่กว้างและเยี่ยมยอดมาก มีทางเดินลงไปสู่ชายหาดได้โดยตรงจากวิลล่าของเรา พื้นที่ภายในวิลล่าบริเวณทางเดินประตูทางเข้า พื้นที่นั่งเล่นแบบเอาท์ดอร์ภายในวิลล่าที่กว้างมาก อำนวยความสะดวกด้วยการมีผ้าเช็ดตัวม้วนวางไว้ที่โซฟานั่งเล่น เพื่อใช้ตอนเล่นน้ำที่สระภายในวิลล่าไม่ต้องเดินเข้าไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่อยู่ในห้องแต่งตัว ก๊อกน้ำสำหรับล้างตัวก่อนลงสระในวิลล่า เตียงผ้าใบสำหรับนอนเล่น ดูวิวทะเล อ่านหนังสือ หรือกิจกรรมโปรดของแต่ละคน เราชอบที่จะมานอนเอนหลับตาฟังเสียงคลื่นบริเวณนี้ หรือใครที่ชอบอาบแดดก็นอนบนเบาะในวิลล่าได้เลย ขยับออกมาจะเห็นว่าพื้นที่ด้านนอกบ้านพักนั้นกว้างมาก เตียงนอนกลางวันและเตียงอาบแดด เยอะเต็มวิลล่าไม่ต้องยกไปมา อยากนอนเล่นตรงไหนก็วางเบาะให้ทั่ว จากห้องนอน ถ้าอยากสัมผัสอากาศธรรมชาติก็ปิดแอร์ เปิดประตูรับลม สามารถเดินลงสระได้จากห้องนอน ภายในห้องนอนเป็นเตียงผ้าฝ้ายขนาดคิงไซส์ ระดับความนุ่มของเตียงที่สุดในที่สุดของการนอนหลับสบาย หันหน้าเข้าหาทะเล ภายในห้องนอนยังมีเบาะให้นั่งเล่น พร้อมกับขนมหวานและผลไม้ ซึ่งเป็น Welcome Fruite & Dessert บนหัวเตียงนอนเป็นโต๊ะสำหรับนั่งทำงาน แต่สำหรับเราเป็นโต๊ะนั่งดูรูปที่ถ่ายมาในแต่ละวัน เป็นช่วงเวลาของความสุขดีจริง น้ำดื่มใช้ขวดแก้วแทนขวดพลาสติก เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ในห้องมีโต๊ะหมากรุกให้นั่งเล่น กระเป๋าเดินทางที่อยู่บริเวณปลายเตียง เมื่อเปิดฝากระเป๋าชั้นบนสุดขึ้นมาจะเป็นทีวี เปิดได้แต่ไม่มีสัญญาณ อย่าลืมว่าปรัชญาของที่นี่คือการหลุดจากชีวิตประจำวันที่ต้องฟังข่าวสารอันเคร่งเครียดในแต่ละวัน ห้องแต่งตัวมีบาร์ทโรปที่เป็นผ้าฝ้าย สวมใส่ได้เบาสบาย ห้องแต่งตัวที่กว้างมาก ห้องน้ำส่วนที่เป็นเอาท์ดอร์ ด้านในห้องนอนมีห้องน้ำอีกหนึ่งห้อง พื้นที่นั่งเล่นและแต่งตัว เราชอบการจัดวางโซฟาและเลเอาท์ต่างๆ ที่ให้เราได้นั่งเปลี่ยนบรรยากาศการพักผ่อนไปได้หลายพื้นที่ภายในวิลล่า จากพื้นที่แต่งตัวเอาท์ดอร์ สามารถเปิดประตูออกไปยังสระว่ายน้ำ หากตัวเปียกจะได้เดินเข้ามาอาบน้ำทางประตูนี้ได้เลย ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน ห้องน้ำกลางแจ้งมีหลักคาเป็นกระโจมผ้าเต้นท์ ห้องน้ำที่อยู่เอาท์ดอร์ มีหน้าต่างให้เปิดชมวิวทะเล ภายในห้องน้ำมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อ่างอาบน้ำที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ เปิดน้ำอุ่นๆแช่ แล้วผ่อนคลายมาก เหมือนแช่ตัวอยู่ในบ่อน้ำร้อนกลางป่า ห้องอาบน้ำแบบเอาท์ดอร์มีถึงสองจุด ไม่รวมอ่างแช่ตัว จุดนี้มีผนังกั้น ส่วนจุดนี้ไม่มีอะไรกั้น เป็นฝักบัวอาบน้ำกลางแจ้ง อาบแบบเปิดโล่งในวิลล่า เราขอพักเบรคตอนที่หนึ่งเอาไว้ตรงนี้ก่อน แล้วมาติดตามวิลล่าแบบอื่นๆของ Soneva Kiri กันต่อในตอนที่สอง แล้วเจอกันนะ– Soneva Kiri Series –
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 1/12 The Inspiring a lifetime of RARE experiences
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 2/12 Discover More Villas
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 3/12 Night Time : Soneva Kiri’s
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 4/12 Six Senses Spa
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 5/12 Soneva Kiri In-Stay Experience
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 6/12 Treepod Dining
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 7/12 Mushroom Cave Lunch
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 8/12 Benz’s Restaurant
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 9/12 The View Restaurant
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 10/12 Dining Room, Buffet Dinner
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 11/12 Dining Room, Breakfast
- โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 12/12 Slow Life Experience
[…] โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 1/12 The Inspiring a lifetime of RAR… […]
[…] โซเนวา คีรี เกาะกูด ตอน 1/12 The Inspiring a lifetime of RAR… […]
เป็นอีกรีสอร์ทที่นับว่าเป็นที่สุดในหลายๆด้านครับ 🙂