วันหยุดนี้เราขอชวนทุกคนมาลิ้มลอง Sunday Brunch ที่ห้องอาหาร The District Grill Room & Bar โรงแรมแมริออท กรุงเทพฯ สุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 57 ใกล้กับ BTS ทองหล่อ มีเมนูอะลาคาร์ท (a la carte) ระดับพรีเมี่ยมให้เลือกสั่งแบบไม่จำกัด เช่น Seared Wild Hokkaido Scallop, Grilled Half Canadian Lobster, Grilled Australian Lamb Chop, Australian Stockyard Wagyu Striploin พร้อมกับซีฟู้ดออนไอซ์ที่สดหวานอีกเพียบ ไม่เกริ่นกันให้ยืดยาว มาติดตามความพรีเมี่ยมของซันเดย์บรันช์มื้อนี้กันเลยดีกว่า
Sunday Brunch Buffet (บุฟเฟ่ต์มื้อสายวันอาทิตย์) มื้อนี้ให้บริการในวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11:30 น. ถึง 15:00 น.
ราคา :
ผู้ใหญ่
– ราคา 2,800 บาท(NET) รวมเครื่องดื่มน้ำ Softdrink ชา กาแฟ น้ำเปล่า
– ราคา 4,900 บาท(NET) รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไวน์ ค๊อกเทล แบบไม่อั้น
– ฟรีสำหรับเด็กอายุ 0-5 ขวบ
– ลด 50% สำหรับเด็กอายุ 6-12 ขวบ
ส่วนลด : รับส่วนลด 30% สำหรับสมาชิกบัตรคลับแมริออท
สถานที่ : ห้องอาหาร เดอะ ดิสทริคท์ กริลล์ รูม แอนด์ บาร์ ณ โรงแรมแมริออท กรุงเทพฯ สุขุมวิท (The District Grill Room & Bar, Bangkok Marriott Hotel Sukhumvit )
เบอร์โทรติดต่อ : 02-797-0000
การเดินทาง : โรงแรมแมริออท กรุงเทพฯ สุขุมวิท อยู่ใกล้กับ BTS ทองหล่อ ถ้ามาจากพร้อมพงษ์ โรงแรมจะอยู่เลยแยกซอยทองหล่อไปประมาณ 150 เมตร
เราขอเริ่มต้นกันด้วยเมนูไฮไลท์สำหรับซันเดย์บรันช์ ที่ เดอะ ดิสทริคท์ กริลล์ รูม แอนด์ บาร์กันก่อน เผื่อจะได้เลือกสั่งเมนูอะลาคาร์ทที่ถูกใจกันไปพลาง จากนั้นค่อยเดินสำรวจอาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์ต่อเพื่อเลือกตักเมนูที่ชื่นชอบ แอบกระซิบตรงนี้นิดนึงว่าเมนูน่าทานเยอะมาก อย่าลืมเบามือตอนตักลงสักหน่อย เพราะยังมีเมนูอะลาคาร์ทเจ๋งๆ รออยู่อีกเพียบ
Selection of A La Carte Specialties
เมนูอะลาคาร์ทที่เดอะ ดิสทริคท์ คัดสรรมาแต่ละเมนูล้วนเป็นเมนูพิเศษพรีเมี่ยมขนานแท้ หากไปดูเมนูเหล่านี้ในร้านอาหารที่ขายแบบปกติ ราคาต่อจานหลายร้อยไปจนถึงหลักพันต่อจานแน่นอน แต่มื้อนี้คุณสามารถสั่งมาทานได้แบบไม่จำกัด ได้ทานเมนูที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ เต็มอิ่มในทุกคำ เมนูวางอยู่บนโต๊ะที่เรานั่ง มีให้เลือกทั้งหมด 7 เมนูได้แก่
Grilled Half Canadian Lobster
กุ้งล็อบสเตอร์แคนาเดียนย่างราดเนยมาแบบชุ่มฉ่ำ เห็นแล้วจะต้องน้ำลายไหล ส่งกลิ่นหอมเย้ายวลจมูกตั้งแต่วางจานเสิร์ฟลงบนโต๊ะ เนื้อเยอะเต็มคำ กรุบเด้ง รสชาติหวาน เนื้อตรงก้ามมีขนาดใหญ่แน่นและอร่อยมาก
Seared Wild Hokkaido Scallop
หอยเชลล์ฮอกไกโดย่าง รสหวาน เนื้อนุ่ม เซียร์ทั่วทั้งชิ้นเสิร์ฟพร้อมถั่วลันเตาและซอสครีมรสชาติิผสมกันระหว่างรสเค็มและรสหวาน ทานเข้ากันได้ดี
Mixed Mushroom Risotto
รีซอตโตเห็ดรวม ข้าวที่นำมาทำรีซอตโตเกือบอยู่ในระดับอัล เดนเต้ แต่ยังไม่ถึง พอทานๆไปก็กรุบๆ หอมกลิ่นทรัฟเฟิลขึ้นจมูก รสชาติโดยรวมถือว่าเป็นรีซอตโตเห็ดที่เข้มข้นดีมาก
Truffle Scrambled Eggs
ไข่กวนเห็ดทรัฟเฟิลที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่พอได้ชิมแล้วอยากได้เมนูแบบนี้ทานเป็นอาหารเช้าทุกๆเช้าเหลือเกิน ไข่กวนทำออกมานุ่มาก กลิ่นทรัฟเฟิลชัดเจนมาก คนที่คลั่งไคล้ทรัฟเฟิลแบบเราเลยติดอกติดใจกับเมนูนี้ กลิ่นทรัฟเฟิลหอมขึ้นจมูก
Grilled Australian Lamb Chop
ซี่โครงแกะออสเตรเลียย่าง หอมกลิ่นสมุนไพร เนื้อนุ่มฉ่ำ ไม่มีกลิ่นสาบ ทานง่าย
Grilled Fish of the Day with Chimichurri Sauce
ปลาย่างเสิร์ฟพร้อมซอสชิมิชูรี โดยที่ปลาอาจจะปรับเปลี่ยนไปในแต่ละวัน วันที่เราไปทานเสิร์ฟเป็นปลาค็อด ซึ่งเนื้อปลามีความฉ่ำนุ่มผ่านกรรมวิธีการปรุงให้สุกด้วยเครื่องซูวี ไม่น่าเชื่อว่าจะเสิร์ฟเมนูนี้ในไลน์บุฟเฟ่ต์แต่ก็มีแล้วที่นี่
Australian Stockyard Wagyu Striploin (Green Peppercorn,Red Wine Mushroom,Chimichurri)
เนื้อสเต็กวากิวสตริปลอยน์จากออสเตรเลียสามารถเลือกซอสได้ว่าจะให้เสิร์ฟพร้อมซอสอะไร ซอสพริกไทย ซอสไวน์แดงเห็ด หรือ ซอสชิมิซูรี วากิวเนื้อนุ่ม ทานได้อร่อยเต็มคำ
นอกจากเมนูอะลาคาร์ททั้ง 7 เมนูนี้ ยังมีชีสที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี (Cheese Selection) หลากหลายชนิดอยู่ข้างใน Wine Cellar ใครชอบทานชีสอย่าลืมแวะเข้ามา
ชีสเลิฟเวอร์จะประทับใจกับสที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดีในมุมนี้แน่นอน
Seafood On Ice
สเตชั่นซีฟู้ดออนไอซ์ อีกหนึ่งสเตชั่นเด่นและขึ้นชื่อของห้องอาหารเดอะ ดิสทริคส์ ในเรื่องความสด หวาน อร่อย เสิร์ฟเมนูดังต่อไปนี้
กุ้งล็อบสเตอร์บอสตั้น (Boston Lobster)
ปูม้า (Blue Sand Crab)
หอยนางรม “ฟิน เดอ แคลร์” (Fine de Claire)
หอยนางรม “ไอริช” (Irish)
ปูยักษ์อลาสก้า (Alaskan King Crab)
กุ้งลายเสือ (Tiger Prawn)
และยังมีคาร์เวียร์ (Caviar)
และแซลมอนทาร์ทาร์ ทูน่าทาร์ทาร์ อีกด้วยเช่นกัน
ทางเชฟจะทะยอยปรุงแล้วเสิร์ฟเป็นคำเล็กๆให้เราได้ทานกันสดใหม่
หอยนางรมสามารถแจ้งให้เชฟช่วยแกะแล้วเสิร์ฟเป็นเซ็ทแบบนี้บนโต๊ะอาหารได้ เรื่องการบริการของห้องอาหาร เดอะ ดิส ทริคท์ น่าชื่นชมจริงๆ
ฟัวกราส์สั่งได้จากสเตชั่นนี้หรือจะแจ้งพนักงานให้ช่วยออร์เดอร์ให้ก็ได้
ฟัวกราส์ทำออกมาดี กรอบนอกเล็กน้อย นุ่มในละลายในปาก
ก้ามล๊อปเตอร์เชฟจะกริลล์แยกจากตัวล๊อปเตอร์ ตอนเสิร์ฟเชฟค่อยเอาก้ามปูใส่ในจานเสิร์ฟพร้อมกัน ถ้าเดินมาใกล้ๆโซนกริลล์แล้วจะได้กลิ่นหอมยั่วยวลน้ำลายให้สอ
Carving Station
มาถึงเมนูเนื้อกันบ้าง มีเนื้อซี่โครงไพรม์-ริบ จากออสเตรเรีย (Australian Prime Ribs) เนื้อนุ่มมาก ใครชอบทานเนื้อทานได้เต็มที่
สก็อตติชแซลมอนย่าง (Roasted Scottish Salmon) เนื้อแซลม่อนแน่นมีไขมันแทรกพอประมาณ ตามสายพันธ์ของปลาซี่งเป็นไขมันดี รสชาติอร่อยหวานมัน
หมูอบกรอบ (Pork Belly) เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ เราไม่ได้เรียกว่าหมูกรอบเพราะชั้นไขมันของหมูบาง คล้ายหมูอบแล้วนำไปทอดให้หนังกรอบมากกว่า ถ้าทานเฉพาะหมูรสชาติอาจจะยังธรรมดาแนะนำให้ราดซอสให้ฉ่ำแล้วจะอร่อยสุดๆไปเลย
นอกจากนี้ยังมีโคลคัท แฮม ซาลามิ เทอร์รีน ให้เลือกทานอีกโต๊ะใหญ่
สลัดต่าง ๆ ปรุงสำเร็จไว้ให้เลือกตักทานกันง่ายๆ พร้อมกับสเตชั่นของซีซ่าส์สลัด เมนูซิกเนเจอร์ของห้องอาหาร เดอะ ดิสทริคท์ ก็เสิร์ฟให้ทานกันด้วย
พิซซ่าและแซนวิช ทั้งแซนด์วิชเนื้อญี่ปุ่น, แซนด์วิชแซลม่อนรมควัน, ครัวซองค์เนื้อไก่ Japanese Beef Sandwich, Smoked Salmon Sandwich, Croissant Chicken, Pomme Dauphine, Ham & Cheese Sandwich
แซมอลรมควัน
เนื้อปลาทูน่าเซีัยร์เสิร์ฟพร้อมส้มโอ พริกและใบมินท์
ซีซ่าส์สลัด (The District Signature Caesar Salad)เมนูซิกเนเจอร์ของห้องอาหาร ผักกรอบ อร่อยตามแบบฉบับของซีซ่าส์
เป็นอีกหนึ่งมื้ออาหารที่เราทานได้อย่างเอนจอยและจัดเต็มไปหลายเมนู
ราคาผู้ใหญ่เริ่มต้นที่ ราคา 2,800 บาท(net) รวมเครื่องดื่มน้ำ ซอฟดริงก์ ชา กาแฟ น้ำเปล่า แนะนำให้สั่งน้ำส้มมาทานด้วย เข้มข้นหวานกำลังดี
สามารถสั่งม๊อกเทลได้อีกด้วย
ผลไม้มีทั้งแก้วมังกร มะม่วง ชมพู่ แตงโม สัปปะรด เสาวรส และ มะละกอ
Delicious dessert and Ice Cream
มาถึงของหวานและไอศกรีมที่ห้องอาหารมีเมนูขนมหวานอันดับหนึ่งในใจของใครหลายคน นั่นคือ ข้าวเหนียวมะม่วง
ข้าวเหนียมมูลได้เหนียวนุ่ม ทานคู่กับมะม่วงหอมหวานเข้ากันดี
และยังมีไอศกรีมโฮมเมด Mango & Passion Fruit, Strawberry Yogurt, Blueberry Yoghurt ทำออกมาเป็นไอศกรีมแท่งน่ารักๆ
เด็กๆ เห็นคงชอบใจกันมาก
ช็อคโกแลต ฟองดูว์
และยังมีเค้กและขนมอีกหลายรายการ ทั้งเลมนอทาร์ต, แพนนาค็อตต้าเสาวรส, เค้กช็อกโกแลตฟัดจ์, เค้กแครอท, มูสช็อกโกแลต, ชูครีมวานิลลา, เครม บรูเล, มิลเฟย, สตรอเบอรี่ชีสเค้ก, เค้กกาแฟอัลมอนด์, พูดดิ้งมะม่วง และ ขนมอบมาเดอลีน
ช่างน่าทึ่งกับเค้กในไลน์บุฟเฟ่ต์ของเดอะ ดิสทริคท์ ที่เป็นเค้กปอนด์ใหญ่แล้วรสชาติอร่อย เนื้อสัมผัสดีมาก คล้ายเค้กของร้านเบเกอรี่ชื่อดังเจ้านึงที่เป็นร้านโปรดของเรา โดยเฉพาะ เค้กช็อกโกแลตฟัดจ์ และ เค้กกาแฟอัลมอนด์ อันนี้ติดใจมาก ปกติเราจะตักมาชิ้นนึงแล้วแบ่งกันชิมให้ได้รู้สัมผัสและรสชาติ แต่ครั้งนี้เค้กอร่อยจนกระทั่งเราขอไปตักเพิ่มมาอีกชิ้น
สตรอเบอรี่ชีสเค้กก็ดี มิลเฟยก็อร่อย
คุณเองก็มาลิ้มรสความอร่อยและเมนูพรีเมี่ยมอย่างที่เราได้นำมาฝากกันแบบนี้ได้ที่ ห้องอาหาร เดอะ ดิสทริคท์ กริลล์ รูม แอนด์ บาร์ โรงแรมแมริออท กรุงเทพฯ สุขุมวิท
ข้อสังเกตอย่างหนึ่ง จริงอยู่ที่สเตชั่นอาหารซันเดย์บรันช์ของ ห้องอาหาร เดอะ ดิสทริคท์ อาจจะไม่ได้จัดเรียง มีสเตชั่นมากมายอลังการ แต่หัวใจหลักของมื้ออาหารมื้อนี้ที่เรา ลุกขึ้นยืนปรบมื้อให้เลยคือการใส่ใจในรสชาติแต่ละเมนูที่เลือกมาเสิร์ฟในบรันช์ ทุกๆ สเตชั่น
สำหรับเดอะ ดิสทริคท์ คำว่าพรีเมี่ยมไม่ได้เติมเข้าไปแค่ยกระดับอาหารให้ดูหรู แต่พรีเมี่ยมคือการคัดสรรค์สิ่งดีๆ มาเสิร์ฟจริงๆ เราสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในการเลือกเมนูมาเสิร์ฟในไลน์อาหารที่ไม่ได้เลือกมาให้เยอะให้เต็มไว้จะได้ดูคุ้ม แต่เลือกสิ่งที่ดีโดยแท้มาเสิร์ฟ จุดนี้เราถึงเต็มใจอย่างยิ่งที่จะเชิญชวนทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตัวเอง
ห้องอาหาร เดอะ ดิสทริคท์ กริลล์ รูม แอนด์ บาร์ ณ โรงแรมแมริออท กรุงเทพฯ สุขุมวิท
เบอร์โทรติดต่อ : 02-797-0000
การเดินทาง : โรงแรมแมริออท กรุงเทพฯ สุขุมวิท อยู่ใกล้กับ BTS ทองหล่อ ถ้ามาจากพร้อมพงษ์ โรงแรมจะอยู่เลยแยกซอยทองหล่อไปประมาณ 150 เมตร