ทุกวันนี้ถึงแม้จะมีอาหารญี่ปุ่นเปิดขึ้นมากมายให้ทุกคนได้เลือกไปลิ้มลองรสชาติ และสำหรับเจแปนนิสเลิฟเวอร์ตัวจริงก็คงค้นพบร้านอาหารญี่ปุ่นที่ปรุงได้กลมกล่อมตามแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิมกันมาหลายรัานแล้ว เท็นชิโนะ (Tenshino)ร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่ ตั้งอยู่ชั้นสองของโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ)เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่นิยามตัวเองไว้ว่า “ร้านอาหารญี่ปุ่นอินโนเวทีฟ” ด้วยคอนเซ็ปต์และการนำเสนอเรื่องราวอันละเอียดอ่อนกว่าจะมาเป็นเท็นชิโนะในวันนี้ ทำให้ SOtraveler.com ได้ตอบรับคำชวนจากทางโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ เพื่อมาสัมผัสประสบการณ์การชิมเมนูอาหารญี่ปุ่นสไตล์อินโนเวทีฟที่ห้องอาหารเท็นชิโนะ รสชาติจะละมุนมากแค่ไหน ขอเชิญผู้อ่านมาร่วมสัมผัส “ประสบการณ์การลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นอินโนเวทีฟ ห้องอาหารเท็นชิโนะ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์” ไปกับเราได้เลยครับ
เท็นชิโนะ (Tenshino) เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อินโนเวทีฟ ที่ตั้งอยู่ชั้น 2 ของโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) บรรยากาศของห้องอาหารใช้ระยะเวลาในการคิดค้นและตกแต่งมากกว่าหนึ่งปีเศษ จนในที่สุดก็ตกผลึกออกมาให้ทุกคนได้ลองแวะเวียนเข้ามาชมและชิมเมนูอาหารของเท็นชิโนะ
ภาพโดยรวมของห้องอาหารตกแต่งด้วยธีม Bohemian Chic คือให้ความรู้สึกสงบและอบอุ่น ไม่ว่าจะเป็นการตัดกันของสีที่ฉูดฉาดของผนังกับสีเฟอร์นิเจอร์วินเทจ การใช้วอลเปเปอร์เป็น pattern ตามสไตล์ Boho-chic ที่มีความฮิปปี้ผสมผสานความเป็นวินเทจ
คอนเซ็ปต์ของห้องอาหารถูกถ่ายทอดลงไปถึงการดีไซน์ชุดของพนักงานที่เบื้องหลังก็เป็นดีไซน์เนอร์ชาวไทยนี่เอง หากสังเกตลายวอลเปเปอร์ของห้องอาหารจะเห็นว่าเป็นลายเดียวกันกับชุดพนักงานเลย ไม่ใช่ความบังเอิญแต่เป็นความตั้งใจของดีไซน์เนอร์โดยเรื่องราวเบื้องหลังของชุดเราได้รับฟังก็รู้สึกอินไปกับความปราณีตของการออกแบบ วอลเปเปอร์เป็นวอลเปเปอร์นำเข้ามาจากต่างประเทศ การส่งมาเป็นเพียงตัวเองอาจไม่เพียงพอที่ดีไซน์เนอร์จะทำชุดออกมาให้เข้ากันกับคอนเซ็ปต์ของห้องอาหาร ดังนั้นต้องรอวอลเปเปอร์ส่งมาแบบเต็มผืน แล้วดีไซน์เนอร์ถึงจะออกแบบชุดเวอร์ชั่นใช้งานจริงออกมาให้ทุกคนเห็นได้
ห้องอาหารมีหลายมุมให้เลือกนั่ง บริเวณบาร์ช่างเข้าท่าทีเดียว หนุ่มสาวนักธุรกิจสตาร์ทอัพไฟแรง อาจจะแวะมาเอนจอยและนั่งเมาท์กันไปตามอารมณ์ศิลปินที่มีอยู่ในตัวแต่ละคนก็เข้าท่าดีนะ
การออกมาดินเนอร์ในช่วงเย็น บางครั้งก็ไม่ได้ถูกจำกัดเฉพาะการมาเพื่อความอิ่มเท่านั้น บ่อยครั้งที่เราออกมาดินเนอร์ตอนเย็นเพื่อคอนเนกชั่น ล่าสุดคุณไม่ได้เจอเพื่อนก้วนมอปลายหรืออดีตเพื่อนร่วมงานที่แรกของคุณนานแค่ไหนแล้ว การนัดออกมาเจอกันในสถานที่ดีดีช่วงดินเนอร์และหาอะไรทานกันเก๋ๆ ก็เป็นกิจกรรมที่เราทำบ่อยเหมือนกัน เมื่อได้ชื่มชมกับบรรยากาศของห้องอาหารกันไปอย่างเต็มอิ่ม ก็ได้เวลาที่เราจะได้ชิมเมนูที่ครีเอทขึ้นมาใหม่สำหรับเสิร์ฟที่เท็นชิโนะ
เราหยิบตะเกียบขึ้นมาพบว่าเป็นตะเกียบที่น้ำหนักเบา จับถนัดมือมาก จนเราได้สอบถามและพบกับคำตอบที่น่าทึ่งคือตะเกียบที่เรากำลังคีบอยู่ เป็นตะเกียบ handcraft ที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มีราคาสูงถึง 25,000 บาทต่อจำนวนสี่คู่ เราพิมพ์ไม่ผิดแน่นอนราคาประมาณสองหมื่นห้าพันบาทต่อสี่คู่จริงๆ มันอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับรสชาติอาหารหรอก แต่มันก็ทำให้เราได้อมยิ้มกับเจ้าตะเกียบคู่แพงคู่นี้ในขณะคีบอาหารเข้าปาก ของเค้าก็ดีคีบถนัด น้ำหนักเบา สมกับราคาแล้วล่ะ
ทางร้านจะเสิร์ฟเมนูเรียกน้ำย่อย Amuse-Bouche ให้ทุกคนได้ชิมก่อน โดยที่ตัว Amuse-Bouche จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆไม่มีเมนูตายตัว ต้องมาลุ้นกันว่าเชฟจะเซอร์ไพรซ์เราด้วยเมนูอะไรกันนะ วันนี้ SOtraveler.com เราได้แเซลม่อนย่างที่เนื้อแน่นกลิ่นหอม ท็อปด้วยเยลลี่ยูสุ ที่มีรสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ ที่เข้ากับแซลม่อนได้อย่างน่าประทับใจ
จากนั้นเรามาเริ่มเล่าถึงแต่ละเมนูที่เราได้ลองชิมกันในวันนั้น
Tempura Oyster : Monsier Jean-Paul Oyster, Curry Powerder ( 580.- บาท )
จานแรก ป็นเมนูหอยนางรมเทมปุระ ที่จัดจานเสิร์ฟมาเหมือนรังนกที่มีตัวหอยเทมปุระเป็นไข่อยู่ในรัง หอยนางรมถูกนำเข้ามาจากฝรั่งเศสเคลือบด้วยแป้งเทมปุระ ล้อมรอบไปด้วยรังนกที่ทำมาจากต้นหอมทอดที่ต้องใช้เทคนิคและวิธีการทำที่ค่อนข้างยากเพื่อให้ได้รังนกที่หอม ฟู ไม่อมน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมกับผงปรุงรสที่มีส่วนผสมของเกลือและผงกะหรี่ซึ่งช่วยชูรสชาติของหอยนางรมออกมาได้อร่อยอย่างน่าเหลือเชื่อ ตัวหอยนางรมเทมปุระให้รสชาติหวานมัน ตัดด้วยความเค็มของผงปรุงรสอร่อยมากจริงๆ
Sushi of the day ( 1,240.- บาท )
คือเมนูซูชิ 5 อย่าง แต่ละวันจะผลัดเปลี่ยนกันไปตามฤดูกาลและความเยี่ยมยอดของวัตถุดิบที่เชฟพบในวันนั้น ซูชิที่เราได้ลิ้มรสความอร่อยในวันนั้นได้แก่ Akami หรือทูน่าเนื้อแดงเป็นส่วนบนของทูน่า Madai หรือซูชิลาไท่ ที่มีเนื้อสีขาวนวลรสชาติหอมหวาน Otoro หรือส่วนท้องของทูน่า เป็นส่วนที่มีมันแทรกเยอะที่สุด มีสัมผัสนุ่มนวล ละลายแม้เพียงแค่ลิ้นแตะ เวลาทานแทบจะไม่ต้องเคี้ยวเลย สำหรับคออาหารญี่ปุ่นคงเป็นเมนูที่ทุกคนโปรดปราน Hotate หรือซูชิหอยเชลล์ฮอกไกโดมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มหอมหวาน Hamachi หรือปลาหางเหลือง เนื้อนุ่มแน่นหวาน อีกทั้งยังแทรกด้วยไขมันละเอียดอ่อน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว คำนี้พิเศษกว่าคำอื่นๆตรงที่มีอูนิที่นุ่มนวลหอมท็อปมาด้านบน การทานซูชิที่ถูกต้องจะต้องเริ่มจากคำที่อยู่ทางด้านขวามือและไปจบที่คำซ้ายสุด
Uni Croquettes served Uni Mayo (940.- บาท)
คร็อกเก็ต “อูนิ” หรือ “ไข่หอยเม่น” ที่มีทั้งข้างนอกและสอดไส้อยู่ข้างใน ผสมกับมันฝรั่ง ทานพร้อมซอสมาโยที่ผสมอูนิ ให้ความรู้สึกละมุนกับอูนิเต็มคำ
Black Truffle Cold Soba (300.- บาท)
จานนี้เป็นโซบะเย็นเสิร์ฟกับเห็ดทรัฟเฟิลและไข่ปลา สัมผัสแรกของคำคือกลิ่นและอโรม่าของทรัฟเฟิลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยไข่ปลาจะเข้ามาเสริมรสเค็มและโซบะเข้ามาเติมเต็มความนุ่มอร่อยของคำ ทานแล้วติดใจมาก
Iberico Pluma : Poached Egg, Pickled Ginger (660.- บาท)
เนื้อหมูดำ iberico สุดพรีเมี่ยมนี้นำเข้ามาจากสเปน ถือเป็นของดีที่เทียบเท่ากับเนื้อวากิวก็ว่าได้ เพราะเป็นเนื้อส่วนคอ ที่เวลานำมาปรุงด้วยการ grill แบบ bbq แล้วจะได้กลิ่นหอมและเนื้อสัมผัสที่แทบจะละลายในปากเลยทีเดียว สีสันหน้าตาของเมนูนี้ชวนให้รู้สึก feel good ยิ่งเมื่อได้สัมผัสกับเนื้อหมูดำอิเบริโคเต็มๆคำยิ่งรู้สึกละมุนไปกับเนื้อที่นุ่มละลายในปากหอมกลิ่นซอสและน้ำซุปสไตล์ญี่ปุ่นจนทำเอาทุกคนทำตาโตด้วยความเซอร์ไพรซ์ตั้งแต่คำแรก
น้ำซุปทำมาจากปลาโอแห้งหรือ katsubushi เวลาทานเราจะเจาะให้ egg yolk ไหลออกมาเคลือบเนื้อ iberico ความมันของไข่แดงเมื่อคลุกเคล้ากับรสของซุปปลาโอ จะได้รสชาติและความเค็มกำลังพอดี
Poached Perigord Foie Gras : Pumpkin, Red Bean & Ginger Dashi (550.- บาท)
เป็นเมนูฟัวกราส์ที่ถูกทำให้สุกด้วยน้ำอุ่น เสิร์ฟพร้อมกับฟักทองญี่ปุ่นและถั่วแดง ก่อนทานจะราดซุปขิงผสมกับดาชิ (Dashi) หรือ น้ำซุปปลาแห้งญี่ปุ่น ตัวฟัวกราส์ให้ความรู้สึกนุ่มละมุน เสริมรสชาติด้วยน้ำซุปขิงและดาชิให้ความเข้มข้นหอมอร่อย
ต่อไปก็จะเข้าสู่เมนูขนมหวานกันแล้ว
Azuki-Matcha Mochi (250.- บาท)
โมจิสีดำที่ทำมาจากถั่ว Azuki ผสมกับชาเขียว เสิร์ฟมาในนมชาเขียวหอมหวานกลมกล่อม ทานพร้อมกับน้ำเชื่อม ความนุ่มหนึบของโมจิรสชาติมัชชะแบบเข้มข้นแทบไม่ต้องบรรยายอะไรมาก เราว่าผู้อ่านสัมผัสได้ถึงความอร่อยจากภาพที่เราเก็บมาฝาก
Chestnut Flan with Raspberry Sauce (290.- บาท)
Chestnut หรือเกาลัด ที่นำมาทำเป็น Flan หรือคัสตาร์ดพุดดิ้งรสชาติหวานกำลังดี มีเนื้อสัมผัสที่แน่นกว่าพุ้ดดิ้งทั่วไป หอมกลิ่นเกาลัดแบบเข้มข้น อีกทั้งยังมีเนื้อเกาลัดอัดแน่นอยู่ข้างในถ้วยอีกด้วย
ปิดท้ายด้วยไอศกรีม 4 รสชาติ ได้แก่ รสส้มยูสุ ที่มีรสชาติเข้มข้น เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด สะใจ รสคินาโกะ เป็นไอศกรีมถั่วเหลืองรสชาติกลมกล่อมไม่หวานจนเกินไป รสชาเขียวมัชชะ ที่มีความเข้มข้นของชาเขียวในระดับที่ปานกลาง ไม่เข้มจนเกินไปและไม่หวานจนเกินไป และ รสสตรอเบอร์รี่ ที่หอมกลิ่นสตรอเบอรี่ได้แบบชัดเจนมาก
ใครที่อยากเปลี่ยนรสชาติของมื้ออาหารญี่ปุ่นต้นตำหรับที่คุ้นเคย มาลิ้มลองอะไรใหม่ๆที่ไม่จำเจ เท็นชิโนะ (Tenshino) เป็นหนึ่งในห้องอาหารที่น่าสนใจแวะมาลอง ซึ่งสำหรับ SOtraveler.com ถือว่าดีท้ังบรรยากาศ ดีทั้งอาหาร สาวๆหนุ่มๆ ที่อยากจะแวะมาทานอาหารและถ่ายรูปไปกับมุมต่างๆ บอกเลยว่า มีหลายมุมให้คุณได้ถ่ายรูปออกมาปัง! เรียกเรตติ้งยอดไลก์ได้ดีเลย