โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงแบรนด์ให้อยู่ภายใต้ แบรนด์ อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่นเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพร้อมให้บริการในชื่อ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชัวรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2560 นี้ เป็นต้นไป โดยโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล จะเป็นอีกหนึ่งในโรงแรมหรูระดับห้าดาวใจกลางกรุงเทพมหานคร ที่พร้อมมอบประสบการณ์การเข้าพักสุดหรูให้กับทุกท่านด้วยบริการเหนือระดับโดยพนักงานมืออาชีพ
โรงแรมที่มีชื่อเสียงแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ของวังคันธวาสอันเลื่องชื่อ วังแห่งนี้เคยเป็นตำหนักที่ประทับส่วนพระองค์ของสมเด็จพระราชปิตุจฉาเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร ทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ห้า (ปี ค.ศ.1853 – 1910) และทรงเป็นราชปิตุจฉาในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช พระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่เก้า ทูลกระหม่อมฟ้าหญิงมีพระชนม์ชีพอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญอีกช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทยในยุคของความทันสมัย และการปฏิรูปทางสังคม อีกทั้งยังได้รับอิทธิพลจากประเทศทางตะวันตกทั้งในด้านสถาปัตยกรรม แฟชั่น และมารยาททางสังคม อีกด้วย
เป็นที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่า สิ่งที่เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ทรงสนพระทัยเป็นพิเศษนั้น ได้แก่ การเดินทางท่องเที่ยว การออกแบบและการตกแต่งภายใน แฟชั่น การฉลองพระองค์ ทรงพระอักษร และเกมหมากฮอส ด้วยชีวิตส่วนพระองค์ อันนำสมัยของทูลกระหม่อมฟ้าหญิงนี้เอง จึงนำมาซึ่งแรงบันดาลในการออกแบบและการตกแต่ง โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล โดยเริ่มตั้งแต่ห้วงเวลาขณะที่แขก แต่ละท่านเดินผ่านประตูทางเข้าของโรงแรมสุดหรูแห่งนี้ เพื่อเข้ามายังด้านในบริเวณล็อบบี้ จากนั้นท่านก็จะได้พบกับบันไดอันสวยงามอลังการ อีกทั้ง แชนเดอเลียร์ที่เผยความงดงามระยิบระยับจากเพดาน ท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศการตกแต่งภายในสไตล์ไทยและยุโรปที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณที่ยังคงอยู่ตราบนิจนิรันดร์ของเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์
ทั่วบริเวณพื้นที่ของโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล นั้น ได้รับการออกแบบและ การตกแต่งภายในที่สร้างสรรค์ขึ้นจากการผสมผสานลวดลายไทยแท้ให้เข้ากันกับความหรูหราอันทันสมัยและการใส่ใจและให้ความสำคัญในทุกรายละเอียด การเปลี่ยนแปลงแบบเหนือระดับในครั้งนี้ ทำให้โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทลได้รับรางวัลชนะเลิศโรงแรมระดับห้าดาวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประจำปี ค.ศ. 2015 – ค.ศ. 2016 (Five Star Asia Pacific Property Award 2015-2016) ในประเภทโรงแรมที่ตกแต่งภายในที่ดีที่สุดของประเทศไทย (Best Hotel Interior Thailand) นอกจากนี้ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล ยังเป็นโรงแรมแห่งแรกในโลกที่ได้รับประกาศนียบัตร ไอเอสโอ 20121 ในด้านการวางแผนและการจัดงานแบบยั่งยืน (ISO 20121 certification for planning and delivering sustainable events) อีกด้วย
ณ ชั้นล็อบบี้ของโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล เป็นสถานที่ตั้งของ ห้องอาหาร เดอะ เรนทรี คาเฟ่ (The Rain Tree Café) ที่ได้รับการออกแบบตกแต่งที่สะท้อนถึงกิจกรรมที่เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ทรงสนพระทัยเป็นพิเศษ บริเวณพื้นที่ต้อนรับนั้นได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อนำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารที่จะต้องอยู่ในความทรงจำของคุณไปตราบนานเท่านาน โดยตกแต่งด้วยพื้นหินอ่อนเป็นตารางสีขาวสลับกับสีดำที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตารางหมากฮอส เกมที่ทูลกระหม่อมฟ้าหญิงทรงโปรดปราน
นอกจากนี้ยังเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้หลากสีสันซึ่งหุ้มด้วยเบาะหนังอย่างสวยงาม อีกทั้งไลน์บุฟเฟ่ต์ใหม่ ที่ประกอบไปด้วย ซุ้มปรุงอาหารพร้อมเสิร์ฟให้รับประทานกันได้ในทันที และแสงธรรมชาติที่จะทำให้ท่านรู้สึกสบายขณะรับประทานอาหาร พื้นที่ของห้องอาหาร เดอะ เรนทรี คาเฟ่ ยังประกอบไปด้วย พื้นทิ่อีกสามส่วน ได้แก่ ห้องวไลย (Valaya Room) ห้องรับประทานอาหารสไตล์ย้อนยุคที่แขกสามารถอิ่มอร่อยไปกับอาหารมื้อเช้าเลิศรส หรือจะเลือกรับประทานอาหารแบบส่วนตัวกับครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือเพื่อเจรจาธุรกิจ
ห้อง ซีเคร็ท การ์เด้น (Secret Garden) และ ห้อง เดอะ เบเกอรี่ ซึ่งทั้งสองห้องนี้แขกทุกท่านสามารถชื่นชมวิวทิวทัศน์ที่ เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่มอันมีชีวิตชีวาของถนนวิทยุได้อีกด้วย
ในทุกห้องพักและห้องสวีทที่ได้รับการตกแต่งใหม่ของโรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล นั้น จะทำให้นักท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจและนักท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนได้ดื่มด่ำไปกับอีกระดับของความหรูหราและความปราณีต ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการออกแบบและการตกแต่งตำหนักฤดูร้อนของเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ โดยพื้นที่ในแต่ละห้องพักนั้นได้รับการออกแบบเพื่อความเป็นส่วนตัว ด้วยการตกแต่งที่ได้นำเอาองค์ประกอบของวัฒนธรรมท้องถิ่นของประเทศไทยมาผสมผสานกับมรดกแห่งราชวงศ์ เพื่อทำให้แขกห้องพักทุกท่านได้สัมผัสกับประสบการณ์การเข้าพักสุดหรูอันแสนประทับใจที่จะต้องอยู่ในความทรงจำของท่านไปตราบนาน เท่านาน ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้โอ๊คจากธรรมชาติสีดำขลับสไตล์คลาสสิก ด้วยโทนสีห้องพักอันอบอุ่น ที่ประกอบไปด้วย สีขาว สีเทา และสีแดงเข้ม อีกทั้งลวดลายไทยอันหรูหราที่ปรากฏบนผืนผ้าม่าน และวัสดุที่หุ้มเฟอร์นิเจอร์เติมเต็มความสมบูรณ์แบบเพื่อให้ทุกท่านได้หลับสบายและฝันดีไปด้วย คอนเซ็ปต์ เตียงนอนอันมีชื่อเสียงของแบรนด์ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น นอกจากนี้ยังมีบริการเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ และเทคโนโลยีแบบใช้สายและไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุด อีกด้วย
สำหรับแขกที่เข้าพักบนชั้น รอยัล คลับ ทุกท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับห้องพักแบบสวีทที่ได้รับการตกแต่งใหม่อย่างมีรสนิยม ด้วยโทนสีน้ำเงินรอยัลบลู และ สีเทา ผ้าม่านสองโทนสี ผนังสีพาสเทล ตกแต่งด้วยภาพศิลปะอันวิจิตรจาก จิตรกรท้องถิ่น ที่จะทำให้ท่านมีความสุขตลอดช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน อันหรูหรา ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาแห่งนี้ นอกจากนี้ แขกห้องพักยังมีสิทธิประโยชน์ในการเข้าใช้บริการที่ชั้น รอยัล คลับ เลาจน์ แบบส่วนตัว ที่มีพื้นที่กว้างขวางที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ สถานที่ที่ท่านสามารถอิ่มอร่อยไปกับอาหารเช้าเลิศรส พร้อมผ่อนคลายไปกับเครื่องดื่มชั้นเยี่ยมได้ตลอดวัน อีกทั้ง เพลิดเพลิดไปกับเครื่องดื่มค็อกเทลนานาชนิดยามเย็น โดยมีพนักงานมืออาชีพคอยต้อนรับอย่างอบอุ่น และพร้อมให้บริการแบบใส่ใจในทุกรายละเอียด
เพื่อประสบการณ์การพักผ่อนอันสมบูรณ์แบบของแขกที่มาใช้บริการ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล ยังนำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกเหนือระดับ อันประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำกลางแจ้ง และพื้นที่จัดงานอีเว้นท์ บนชั้นที่สี่ ซึ่งการเชื่อมต่อกันของทั้งสองพื้นที่นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสไตล์การออกแบบและการตกแต่งอันโดดเด่นแบบไร้กาลเวลาของวังคันธวาส ท่านจะได้ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศของสระน้ำที่แวดล้อมไปด้วยสวนสวยเขียวร่มรื่น พร้อมดื่มด่ำไปกับค่ำคืนสุดชิค หรือเพลิดเพลินไปกับงานอีเว้นท์แบบส่วนตัวบนชั้นลอยที่ตกแต่งไปด้วยผนังไม้ เพดานสูง และแสงธรรมชาติที่สาดส่องผ่านผนังกระจกผืนใหญ่ที่กั้นระหว่างพื้นจรดเพดานสูง
ห้องประชุม แอทธิเนียม และเลาจน์ บนชั้นที่หก เป็นอีกหนึ่งสถานที่อันสมบูรณ์แบบสำหรับการจัดงานอีเว้นท์ และงานสังคมที่แสนประทับใจ ห้องประชุม แอทธิเนียม ประกอบไปด้วยห้องประชุมจำนวนหกห้อง พร้อมเทคโนโลยีอุปกรณ์ภาพและเสียงสุดทันสมัย อีกทั้งห้องประชุมสไตล์บอร์ดรูม และพื้นที่บริเวณเลาจน์ นอกจากนี้แขกที่มาร่วมงานประชุมจะได้เพลิดเพลินไปกับหลากหลายธีม คอฟฟี่เบรกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศต่างๆ ของเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ อาทิ ธีมสหรัฐอเมริกา ธีมฝรั่งเศส ธีมอินเดีย ธีมญี่ปุ่น ธีมอิตาลี และธีมไทย ซึ่งธีมคอฟฟี่เบรกจะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปในแต่ละวัน
บนชั้นที่ 29 เป็นที่ตั้งของ พิมานสยาม ฮอลล์ ที่เป็นห้องจัดเลี้ยงสำหรับจัดงาน อีเว้นท์ขนาดใหญ่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบและการตกแต่งมาจาก วังคันธวาส
ด้วยการผสมผสานแก่นแท้ของการออกแบบสไตล์ไทยร่วมสมัย ทำให้สถานที่อันโดดเด่นแห่งนี้เป็นที่จดจำในทุกการจัดงานประชุมและ งานอีเว้นท์ของแขกที่มาใช้บริการ
นอกจากนี้โรงแรม ดิ แอทธินี โอเทล ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกในสไตล์รีสอร์ท ไว้คอยให้บริการ รวมถึง สปาสุดหรู ที่มีพนักงานนวดสปามืออาชีพพร้อมให้บริการทรีทเม้นต์ที่เหมาะสมกับความต้องการของแขกแต่ละท่านโดยเฉพาะ อีกทั้งทรีทเมนต์สปาบำบัดตามกรุ๊ปเลือด และฟิตเนส เซ็นเตอร์ พร้อมอุปกรณ์การออกกำลังกายอันทันสมัยครบครัน
การเปลี่ยนแปลงแบบไม่ธรรมดาในครั้งนี้ของ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักชูรี่ คอลเลคชั่น โฮเทล ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว แขกผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน ทั้งที่เป็น แขกประจำ และแขกที่มาใช้บริการเป็นครั้งแรก สามารถมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การเข้าพักสุดหรูพร้อมบริการระดับห้าดาว เพื่อมอบความทรงจำอันงดงามแบบไม่รู้ลืมในทุกครั้งที่ท่านเดินมายังกรุงเทพมหานคร
THE ATHENEE HOTEL
A LUXURY COLLECTION HOTEL, BANGKOK
61 WIRELESS ROAD (WITTHAYU)