ชวนทุกคนมาสร้างโมเมนต์สุดโรแมนติก แบบเอ็กซ์คลูซีฟไปกับ The Blue Journey – Sunset Experience ประสบการณ์มื้ออาหารอันหรูหราที่เริ่มต้นด้วยการล่องเรือแบบเป็นส่วนตัวไปตามสายน้ำเจ้าพระยา ด้วยเรือแฮคเกอร์คราฟต์ (Hacker Craft) เรือเทเลอร์เมดสัญชาติอเมริกา สร้างจากไม้มะฮอกกานีจาก Lake Como ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Rolls-Royce สวยงามคลาสสิก พร้อมจิบเครื่องดื่มสุดพิเศษชั้นเลิศเรียกน้ำย่อย ชมบรรยากาศพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ทอแสงสีทองไล่โทนอบอุ่นสวยงามจับตา ก่อนจะกลับมาลิ้มลองรสชาติอาหารจานต่าง ๆ ในเทสติ้งเมนู Voyage ของเชฟวิลฟริด ฮ็อคเกต (Mr. Wilfrid Hocquet) เซ็ตเมนูซิกเนเจอร์ 9 คอร์ส ที่จะมอบความสุขอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็น รสสัมผัส รสชาติ รูปลักษณ์อันเรียบหรู พร้อมบริการอันเป็นเลิศระดับมิชลินสตาร์
เส้นทางของการล่องเรือจะเริ่มต้นจากท่าเรือพิเศษที่ไอคอนสยาม สำหรับใครที่พักโรงแรมริมเจ้าพระยา ทาง Blue by Alain Ducasse มีบริการนำเรือไปเทียบท่าถึงท่าเรือของโรงแรม เรือแฮคเกอร์คราฟต์จะล่องไปทางสะพานพระราม 8 แลัววนกลับมายังท่าเรือไอคอนสยาม ระหว่างทางจะผ่านทั้ง ศาลเจ้ากวนอู วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร พระบรมมหาราชวัง วัดระฆัง ท่ามหาราช และสะพานพระราม 8 อยากจอดแวะถ่ายรูป ณ จุดไหนหรือหันหัวเรือไปในทิศทางใด สามารถแจ้งกัปตันเรือได้เลย เพราะนี่คือเรือแฮคเกอร์คราฟต์ส่วนตัวของเราแล้ว
จากความลักซ์ชัวรีอย่างสง่างามเหนือเจ้าพระยา สู่ มิชลินสตาร์ 1 ดาว Blue by Alain Ducasse
หลังจากที่ได้สัมผัสประสบการณ์ความหรูหราบนเรือแฮคเกอร์คราฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรือจะกลับมาเทียบท่าที่ไอคอนสยาม โดยมีทีมงาน Blue by Alain Ducasse มายืนรอคอยต้อนรับ ทำเอาเรายิ้มไม่หุบด้วยความประทับใจ ในการใส่ใจทุกรายละเอียดของการบริการ
ทีมงานจะนำทางมายัง Blue by Alain Ducasse บนชั้น 1 โซนไอคอนลักซ์ ของไอคอนสยาม สานต่อประสบการณ์อันสุดพิเศษอย่างราบรื่นด้วย The Lounge ห้องรับรองที่ให้เราได้นั่งพักรีแล็กซ์กันชั่วครู่ ปรับตัวจากการไปสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติสู่บรรยากาศห้องอาหารสุดหรู แอร์เย็นฉ่ำชื่นใจ พร้อมเสิร์ฟผ้าเย็น เครื่องดื่มต้อนรับที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับ The Blue Journey – Sunset Experience และ Amuse-bouche เรียกน้ำย่อย
จากนั้นทีมงานจะพามายังโซนห้องรับประทานอาหาร ที่ตกแต่งรอบล้อมด้วยกระจกใสเปิดให้เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาสุดโรแมนติก เข้าสู่ประสบการณ์มื้ออาหารฝรั่งเศสระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว ในเทสติ้งเมนู Voyage สำหรับฤดูกาลนี้ Blue by Alain Ducasse นำเสนอเมนูในสไตล์ฝรั่งเศสตอนใต้ อันเป็นบ้านเกิดของเชฟ Wilfrid รังสรรค์เมนูความทรงจำในวัยเด็กของเชฟอย่างประณีตด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน
MENU VOYAGE
เริ่มต้นคอร์สด้วย Amuse-bouche อย่าง ขนมปังมะเขือเทศสอดไส้ทูน่าท็อปด้วยแอนโชวี่และพริกหยวก ราดด้วยน้ำมะเขือเทศปรุงรส รสชาติหวานสดชื่น ตามด้วยซาวโดวจ์ท็อปด้วยสลัด และทาร์ตหัวหอมรสหวาน มีส่วนผสมของมะกอกทาเจียสกา เมนูนี้ได้แรงบรรดาลมาจากเมนูพิซซ่าแต่เสิร์ฟในรูปแบบทาร์ต
เข้าสู่คอร์สแรกของเทสติ้งเมนู Voyage เชอร์เบทถั่วลันเตา ครีมรมควัน และเมล็ดมัสตาร์ด ให้กลิ่นหอมถั่วลันเตาเบาๆ เรียกความสดชื่นได้เป็นอย่างดี
ต่อด้วย เมนูกุ้งแลงกูสตีนสด รสชาติหวาน ผสมผสานความหอมสดชื่นด้วยลูกแพร์วิลเลียม และเลมอนเวอร์บีนา สร้างมิติทางรสชาติที่เข้ากันเป็นอย่างดี
ถัดมาที่เมนู เห็ดมอเรลตุ๋น อีกหนึ่งจานที่โดดเด่นด้วยวัตถุดิบที่หายากและราคาสูงอย่างเห็ดมอเรลจากยุโรป ตุ๋นเสิร์ฟกับซอสสูตรพิเศษของเชฟให้สัมผัสรสชาติที่กลมกล่อมมาก
หมึกกล้วย นำมายัดไส้ด้วยสมุนไพรกลิ่นหอมนานาชนิดจากเฟรนช์ริเวียร่า มากด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ
ต่อเนื่องความอร่อยไปกับ เมนูปลาเทอร์บอทฝรั่งเศสเสิร์ฟกับหน่อไม้ฝรั่งขาว และซอสซาบายอน พร้อมส้มโอสีชมพูของไทยเพิ่มรสหวานอมเปรี้ยว รับประทานรวมกันทั้งคำแล้วได้ความชุ่มฉ่ำอย่างมีเอกลักษณ์
ในส่วนของจานหลักทางร้านมีให้เลือกสั่งมารับประทานระหว่างเมนู Pigeon Pithiviers «à la Monégasque» พายนกพิราบหรือพิทิเวียร์สไตล์โมนาโก เมนูอร่อยในความทรงจำวัยเด็กของเชฟที่นำมาถ่ายทอดให้ได้ลิ้มลองกัน ให้เนื้อสัมผัสกรอบนุ่มหอม เข้ากันได้ดีกับเนื้อสัมผัสเนียนนุ่มของเนื้อนกพิราบนำเข้าจากฝรั่งเศส ที่ปรุงจนได้รสชาติเข้มข้นถึงเครื่อง
หรือจะเป็นเมนู Milk-fed lamb from Pyrenees เนื้อลูกแกะจากเทือกเขาพีเรนีสยัดไส้มะกอกทาเจียสกา เสิร์ฟกับซอสสไตล์เมืองนีซ สัมผัสเนื้อลูกแกะนุ่มมาก รับประทานรวมกันทุกองค์ประกอบแล้วได้รสชาติที่กลมกล่อม เป็นอีกหนึ่งจานอร่อยที่ชวนให้ลิ้มลองไม่แพ้กัน
ไปกันต่อที่รถเข็นชีสหลากชนิด คัดสรรพิเศษมาอย่างดีจาก Les Frères Marchands ผู้ผลิตชีสที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส เสิร์ฟคู่กับแยมและขนมปังผลไม้แห้งรวม เลือกได้ตามความชอบหรือหากอยากลองทุกอย่าง ทางร้านก็พร้อมเสิร์ฟให้ได้ชิมกันแบบครบถ้วน
ก่อนจะไปต่อกันที่คอร์สขนมหวาน ทางร้านเสิร์ฟ Green apple delight เพื่อล้างรสชาติอาหารคาวในปาก รับประทานแล้วสดชื่น
คอร์สขนมหวาน เป็น ทาร์ตช็อคโกแลตรสชาติเข้มข้น ที่ใช้ช็อคโกแลตจากโรงงานของ อลัง ดูคาส ในปารีส มาผสมผสานกับพริกไทยดำพันธุ์กัมปอต เพิ่มกลิ่นอายความเป็นท้องถิ่นด้วยน้ำส้มวินีการ์สูตรพิเศษที่ทำขึ้นจากมะม่วงไทย เป็นการผสานความอร่อยได้อย่างน่าประทับใจ
ต่อด้วย สับปะรดภูเก็ตตุ๋นกับรัม เสิร์ฟควบคู่กับซาบาโยเน่มะพร้าว ได้รสเปรี้ยวหวานสดชื่น ก่อนจะส่งท้ายด้วย Pefit Four ปิดท้ายมื้อนี้อย่างสมบูรณ์
ยกระดับประสบการณ์มื้ออาหารให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นด้วยการรับประทานควบคู่กับเครื่องดื่มพรีเมียม รับรองว่าจะต้องติดใจ
The Blue Journey – Sunset Experience ที่ไม่ใช่เพียงแค่การนั่งเรือและรับประทานอาหาร แต่คือประสบการณ์อันแสนวิเศษที่รวมไปถึงอารมณ์ ความรู้สึก และความทรงจำที่จะไม่ลืมเลือน
แพ็คเกจ The Blue Journey – Sunset Experience ประกอบไปด้วยการล่องเรือแฮคเกอร์คราฟต์และจิบเครื่องดื่มมีฟองสุดพิเศษ ต่อด้วยการลิ้มลองรสชาติอาหารในเทสติ้งเมนู Voyage แพริ่งคู่กับไวน์ ราคา 50,000 บาท สำหรับ 2 ท่าน แขกที่มาเพิ่มราคา 20,000 บาทต่อท่าน ยังมีตัวเลือกแพ็คเกจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ราคา 40,000 บาท สำหรับ 2 ท่าน ราคาทั้งหมดเป็นราคาสุทธิ
สามารถจองแพ็คเกจล่องเรือได้ทุกวัน (ยกเว้นวันอังคารและวันพุธ) โดยออกเดินทางจากไอคอนสยามหรือท่าเรือของโรงแรมริมแม่น้ำแห่งใดก็ได้ในเวลา 17.30 น.
นอกเหนือจาก The Blue Journey – Sunset Experience ร้าน Blue by Alain Ducasse ยังนำเสนอเมนูใหม่ตามฤดูกาล เป็นเซ็ตเมนูแบบสี่หรือห้าคอร์สในราคา 4,900++ และ 5,900++ บาท และยังมีเซตเมนูมื้อกลางวัน ราคา 2,950++บาท
สอบถามเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่
- Website: www.blue-alainducasse.com
- Telephone: 065-731-2346
- IG: https://www.instagram.com/bluebyalainducasse
- FB Messenger: https://m.me/bluebyalainducasse