ชวนมาสัมผัส The Standard, Hua Hin ไลฟ์สไตล์รีสอร์ตสัญชาติอเมริกันใหม่แกะกล่อง ที่เพิ่งเปิดให้ทุกคนเข้าไปสัมผัสประสบการณ์เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ชูไฮไลท์ความเป็นไลฟ์สไตล์รีสอร์ตสุดชิคที่พร้อมสร้างประสบการณ์ให้แขกที่เข้าพักอย่างแตกต่าง เป็นเอกลักษณ์และเหนือกว่า อยากรู้จัก The Standard, Hua Hin มากกว่านี้ ติดตามอ่านกันต่อเลย
เช็คราคาและจอง The Standard, Hua Hin ได้ทันทีที่นี่
The Standard เป็นแบรนด์โรงแรมและรีสอร์ตสัญชาติอเมริกันที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะแบรนด์ไลฟ์สไตล์ ที่สร้างสรรค์และโดดเด่นมากในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เนื่องจากมีการรวมเอากลิ่นอายของแฟชั่น ศิลปะ ดนตรี มาผนวกเข้ากับการพักผ่อน นอกเหนือจากประสบการณ์การกินอิ่มนอนหลับท่ามกลางสเน่ห์ของจุดหมายปลายทาง นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนยังจะได้รับประสบการณ์พักผ่อนอันน่าประทับใจในแง่ของการเสพสุนทรียศาสตร์กลับไปด้วย
สำหรับ The Standard, Hua Hin นั้น ได้รับการถอดแบบมาจากรีสอร์ตสุดฮิปยอดนิยมของแบรนด์อย่าง The Standard, Miami โดยนำกลิ่นอายความเก๋ไก๋สไตล์ไมอามีมาปรับคู่กับกลิ่นอายโคโลเนียลของหัวหิน แน่นอนว่าความเก๋ของงานดีไซน์มาเต็ม พร้อมเมนูอาหารสุดสร้างสรรค์ คราฟต์ค็อกเทลสนุกๆ และบาร์บรรยากาศชิลๆ ติดทะเล
ก่อนจะเข้าไปเช็คอิน เราจะเดินผ่านกับ Juice Cafe คาเฟ่เล็กๆ น่ารักๆ ที่ตกแต่งด้วยแรงบันดาลใจจากห้องดนตรีของ แฟรงก์ ซินาตรา ที่นี่จะมีเครื่องดื่มและขนมเฮลตี้ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ หรือกาแฟสดคั่วเข้ม สามารถมาสั่งเครื่องดื่มรอระหว่างเช็คอินได้ และยังพาสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณมาได้ด้วย
เมื่อเดินเข้ามาถึงบริเวณล็อบบี้ จะเป็นพื้นที่แบบ open air เพดานสูงโปร่ง ลมพัดเย็นสบาย และจะพบกับม้านั่งแบบชานชาลารถไฟหัวหิน ที่ใครหลายคนคุ้นตา ซึ่งทางรีสอร์ตมีรายละเอียดยิบย่อยแฝงแต่ละจุดอย่างน่าสนใจ อาทิเช่น งานศิลปะที่ประดับอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์เช็คอิน ทำมาจากผ้ามัดย้อมทำมือ
ระหว่างที่เดินไปห้องพัก เราจะมองเห็นกับผลงานศิลปะตลอดข้างทาง รวมถึงตึกสีขาวที่ดีไซน์แปลกตา ใช้พื้นผิวอาคารเป็นลูกเล่น สร้างระแนงเล่นกับแสงธรรมชาติ ที่นี่จะเน้นไปทางโทนสีขาว เหลือง ฟ้า ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็จะได้ภาพที่สวยแน่นอน
บรรยากาศที่นี่ลายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ตามธรรมชาติ ที่ทางโรมแรมยังคงสภาพเดิมไว้ อย่างต้นจามจุรี ในสวนคอร์ตยาร์ตที่มีอายุกว่า 50 ปี ทำให้มีร่มเงาของไม้ใหญ่เยอะ อากาศจึงถ่ายเทได้ดีและไม่ร้อนอบอ้าวเลย
From the town to the sea
หลังจากเดินผ่านที่พักในโซนอาคาร เพื่อมุ่งหน้าไปโซนพลูวิลล่าที่เราจะเข้าพักกันในวันนี้ รอบข้างทางจะได้ยินเสียงนกร้อง ซึ่งเราก็มองหาต้นเสียงอยู่สักพักใหญ่ว่านกอยู่ตรงไหนนะ แต่จริงๆแล้วเป็นเสียงที่ทางรีสอร์ตตั้งใจเปิดเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศความเขียวชอุ่มของต้นไม้น้อยใหญ่
Pool Villa
ครั้งนี้เราพักในห้องที่ชื่อว่า Standard Pool Villa เป็นหนึ่งในวิลล่าที่สามารถพาสัตว์เลี้ยงมาพักได้ มีลักษณะคล้ายหมู่บ้านแถบเมดิเตอร์เรเนียน อยู่รวมกันเป็นชุมชน พื้นที่ภายในวิลล่าแบ่งเป็นสัดส่วน แต่ละหลังจะมีดีไซน์และเลย์เอาท์แตกต่างกันไป ซึ่งถ้ามากันเป็นครอบครัวใหญ่ หรือกลุ่มเพื่อน สามารถจองห้องพักใกล้เคียงกัน แล้วปิดประตูกั้นเป็นโซนของตัวเอง เพื่อจัดปาร์ตี้ หรืองานเลี้ยงสังสรรค์ในลานพื้นที่ส่วนกลางได้เลย
เมื่อเปิดประตูเข้ามา จะเห็นได้ว่าภายในห้องพักกว้างขวางมาก ตกแต่งด้วยโทนสีละมุน อบอุ่นๆ มีความเรียบหรู และโมเดิร์น มาพร้อมเตียงคิงไซส์ ทีวีจอยักษ์ตั้งอยู่กลางห้อง พื้นที่นั่งพร้อมเดย์เบด มินิบาร์ ลำโพงบลูทูธ ฟังก์ชั่นหลากหลายไปหมด
ด้วยการออกแบบจะเน้นงานดีไซน์ชิคๆ มีการใช้กระจกเพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติ และมีม่านปิดในทุกจุดที่เป็นกระจก สามารถปิดม่านได้เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว เราชอบห้องน้ำมาก เพราะมีขนาดใหญ่ มีเรนชาวเวอร์และอ่างอาบน้ำแยก แทบจะจัดปาร์ตี้ในห้องน้ำได้เลย The Standard, Hua Hin ยังมีลูกเล่นในห้องน้ำเป็นดิสโกบอล สร้างความเอนจอยในทุกพื้นที่จริงๆ
ด้านนอกจะมีสวนเล็กๆ สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำส่วนกลาง และมองทะลุไปถึงทะเลได้เลย (ในส่วนนี้ต้องแล้วแต่ห้องที่จองนะ) พื้นที่ใช้สอยตรงนี้มาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวและเก้าอี้อาบแดดที่เราใช้นอนชิลๆได้ตลอดทั้งวัน
มาถึงซิกเนเจอร์ของบริเวณนี้ ถ้าก้มลงดูที่พื้นจะสังเกตว่าพื้นกระเบื้องที่นี่มีลวดลายสวยเก๋อีกแล้ว เพราะเป็นกระเบื้องที่ศิลปินที่ชื่อว่า Rostarr เป็นผู้เพ้นท์เองกับมือ ใช้เวลาประมาณ 10 วันในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ คุณ Rostarr ก็เคยได้ไปเพ้นท์ที่ The Standard high line และ The Standard Maldives มาด้วย
Swimming pool
สระว่ายน้ำส่วนกลางของ The Standard, Hua Hin กว้างขวางมาก มีเดย์เบดสีเหลืองสดใส ถอดแบบมาจากรีสอร์ต The Standard Miami นำเข้าส่งตรงมาแบบเดียวกันเลย นอกจากเดย์เบดแล้ว ยังมีเก้าอี้ โซฟา รอบๆริมสระทั้ง 2 ฝั่ง โดยคุมโทนสีเหลืองหมดเลย ว่ากันว่าสีเหลือง เป็นสีของความสุข ความสดใสร่าเริง ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ของที่นี่ นั่นคือความเป็นอิสระ เพราะที่นี่เน้นให้ทุกคนมาปลดปล่อยความเป็นตัวเอง มาทำกิจกรรมในสิ่งที่ชอบและสิ่งที่ตัวเองสนใจ หรือจะมาหาความสงบพักผ่อนหัวใจก็ย่อมได้
Lido Restaurant ห้องอาหารสไตล์อิตาเลียน All Day Dining
Lido เป็นห้องอาหารที่ให้บริการตลอดทั้งวัน โดยเสิร์ฟเป็นอาหารสไตล์อิตาเลียน วัตถุดิบคุณภาพดี ภายในร้านตกแต่งสวยงามตามแรงบันดาลใจจากห้อง Living Room ของ Frank Sinatra มีที่นั่งให้เลือกทั้ง indoor และ outdoor
ในช่วงค่ำห้องอาหารบรรยากาศสบายๆ และยังสามารถมอบประสบการณ์ดินเนอร์อบอุ่นประทับใจ กับเมนูอาหารหลากหลายปรุงจากอาหารทะเลในท้องถิ่น เนื้อประเภทต่างๆ และส่วนผสมตามฤดูกาล ที่สามารถเลือกจับคู่กับค็อกเทลสูตรพิเศษและไวน์ชั้นดีมากมายเพื่อช่วยสร้างบรรยากาศการพักผ่อนของคุณให้สมบูรณ์แบบ
Bufalina Red Pizza เป็นพิซซ่าที่แป้งด้านนอกบางกรอบ ด้านในเหนียวนุ่ม มีส่วนผสมหลักเพียง 3 อย่างคือ มะเขือเทศ ชีส และใบโหระพา พร้อมน้ำมันมะกอกเหยาะเล็กน้อยรสชาติมีความหอมชีสสลับกับความเปรี้ยวของมะเขือเทศ ที่เป็นตัวช่วยในการตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี
Seppia di Nero สปาเก็ตตี้หมึกดำกับปลาหมึกชิ้นใหญ่ ผัดซอสซีฟู้ดสูตรพิเศษจากทางร้าน รสชาติออกเปรี้ยวๆหอมกลิ่นมะนาว มีรสเผ็ดเล็กน้อย เป็นเมนูเที่อาใจคนรักซีฟู้ดมาก
Spaghetti Carbonara สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าสูตรอิตาลีดั้งเดิม ไร้นม ไร้ครีม เส้นสปาเก็ตเหนียวนุ่มกำลังดี
เบค่อนใช้เป็นเแพนเชตต้า ซอสทำจากไข่กับพาเมซานชีส ทุกอย่างลงตัวและเข้ากันมาก รับลองรสชาติถูกใจคนรักสปาเก็ตตี้แน่นอน
Pan Seared Salmon ปลาแซลมอนนำเข้า เนื้อหอมหวานเนื้อนุ่มแต่แน่น ย่างสุกกำลังดี เสิร์ฟพร้อมกับรีซอตโต้และเครื่องเคียง
Panna Cotta ขนมหวานสัญชาติอิตาเลี่ยน สูตรดั้งเดิมทั้งหอมนมหวานมันกลมกล่อม นุ่มละมุนลิ้นมาก ท็อปปิ้งเป็นสตรอเบอร์รี ราสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ หวานอมเปรี้ยวตัดกับความมันของพุดดิ้งนมได้ดีสุดๆ
บรรยากาศยามเช้าเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่คุณไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง แสงแรกของวันใหม่ที่สาดแสงสีทองสะท้อนกับน้ำทะเลสีฟ้า ตอนพระอาทิตย์กำลังโผล่ขึ้นมาในยามเช้า การเริ่มต้นวันใหม่ของทุกชีวิต ทำให้รู้สึกอบอุ่นเสมือนว่าคุณสามารถทิ้งเรื่องราววุ่นวายในชีวิตให้ลอยไปกับทะเลได้เลย
Breakfast at Lido
หลังจากที่เดินเล่นริมชายหาด ชื่นชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ก็มาต่อกันที่อาหารเช้ากับห้องอาหาร Lido ซึ่งเสิร์ฟแบบไลน์บุฟเฟ่ต์ เมนูที่แนะนำจะเป็น “ฮันนี่แฮม” อีสเตอร์แฮมทาด้วยซอสฮันนี่มัสตาร์ดหอมชุ่มฉ่ำ นำไปอบจนเข้าเนื้อ หอมกลิ่นน้ำผึ้งแถมเนื้อยังนุ่มมาก อีกเมนูที่ต้องพูดถึงคือ “เอ้กเบเนดิกต์” ขนมปังปิ้งทาเนย ไข่ดาวน้ำ เบคอนกรอบ ราดซอสฮอลแลนเดสเล็กน้อย ทำให้ไม่เลี่ยนจนเกินไป รสชาติเยี่ยม
The Standard, Hua Hin เป็นรีสอร์ตที่สวยและชิคมาก ทุกจุดของรีสอร์ตสอดแทรกด้วยด้วยศิลปะจากทั่วทุกมุมโลกมารวมกัน ทำให้คุณรู้สึกตื่นตาตื่นใจตั้งแต่ทางเดินเข้ารีสอร์ตไปจนถึงห้องพัก ที่สำคัญคือยังคงความเป็นธรรมชาติและต้นไม้น้อยใหญ่ไว้ทำให้รู้สึกเย็นสบายแม้จะอยู่ในที่โล่ง สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องและห้องพักออกแบบมาชิคมาก การบริการของพนักงานดี ยิ้มแย้มทักทายตลอดเวลาที่เดินผ่านและตั้งใจให้บริการเป็นอย่างดี ใครที่กำลังหาสีสันให้กับวันหยุดพักผ่อนที่ใกล้จะถึง The Standard, Hua Hin เป็นตัวเลือกแรกที่คุณต้องนึกถึงในเวลานี้เลยล่ะ
เช็คราคาและจอง The Standard, Hua Hin ได้ทันทีที่นี่
The Standard Hua Hin (เดอะสแตนดาร์ด หัวหิน)
- เบอร์โทร : 032 535 999
- พิกัด : The Standard, 59 ถนนนเรศดำริห์ ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 77110
- เว็บไซต์ : https://www.standardhotels.com/
- แฟนเพจ : https://www.facebook.com/thestandardhuahin