เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งจิบค็อกเทลที่บาร์ริมเจ้าพระยาใกล้ BTS สะพานตากสิน กับ เดอะ ลอง บาร์ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ในช่วงจังหวะที่พอเหมาะพอดีกับโอกาสที่จะได้ลิ้มลองค็อกเทลรสชาติเจ๋ง ๆ จากสุดยอดมิกโซโลจิสต์หนุ่มคู่แฝดไฟแรงชาวตุรกีที่กวาดรางวัลชนะเลิศมาหลายเวที อิจิร์จาน (Yigitcan) และออนูร์จาน (Onurcan) ในการมาครั้งนี้ทั้งคู่ได้คิดสูตรค็อกเทลขึ้นมาใหม่เพื่อให้ทุกคนได้หลงไหลจนไม่อยากที่จะผละริมฝีปากออกจากขอบแก้ว หน้าตาจะออกมาเป็นแบบไหนกันแน่ มาติดตามกันดู
คู่แฝด อิจิร์จาน และออนูร์จาน มาจากนครอิสตันบูลประเทศตุรกี ค็อกเทลที่ทั้งคู่รังสรรค์ขึ้นในครั้งนี้ตั้งโจทย์ให้เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมการดื่มของชาวเอเชียและชาวยุโรป โดยใช้วัตถุดิบที่สะท้อนความเป็นท้องถิ่นเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์
MAKE ME CRAZY
Ingredients: El Jimador Blanco tequila, Apperilif liqueur, Triple Sec, Citrus Blend, Orange Zest, Crystal Black Olive
แก้วนี้ให้กลิ่นหอมระเหยจากส้ม ดึงความสดชื่นออกมาได้ดี แฝงความอบอุ่นไว้ด้วยระดับของแอลกอฮอล์ที่ไม่เบาและเข้มจนเกินไป มีส่วนผสมของ เตกีลา เอล ฮิมาดอร์ บลู อะกาเว, อะเปโรล, ทริปเปิล เซค, ส้มซิตรัส, ส้มโอ และมะกอกดำ แก้วแรกก็จัดมาได้อย่างลงตัวทั้งกลิ่นและรสชาติ
ANTIOXIDANT
Ingredients: Turkish Delight Infused, Iron Balls Gin, Lemongrass Syrup, Citrus Blend, Ginger, Turmeric, Thyme
แก้วนี้ให้กลิ่นอายของความเป็นตะวันออกได้เป็นอย่างดี จากสมุนไพรที่ประกอบไปด้วย ขิง, ขมิ้น, โหระพา ที่ผสมผสานได้อย่างลงตัวกับจินชั้นดีอย่าง ไอรอน บอลล์ จิน
EGO
Ingredients: Turkish Butter Infused, Wild Turkey Rye Whiskey, Campari, Fernel Branca, Orange Zest, Galliano Infused Dried, Banana
แก้วนี้รังสรรค์ขึ้นจากส่วนผสมของ ไวนด์ เตอร์กี ไรย์ วิสกี้ชั้นเลิศ, Punt e Mes, คัมพารี, ไซนาส เวอร์มุธ, องุ่น และกล้วยแห้งอบเหล้า รสชาติขมอมหวานชวนหลงใหล ดื่มง่ายแต่บอกเลยว่าไม่เบา ใครที่ชอบค็อกเทลเนโกรนีจะต้องหลงรักแก้วนี้เข้าอย่างจัง มีความคล้ายคลึงกัน
CASSANDRA
Ingredients: Turkish Isot Pepper Infused, Diplomatico Mantuano Rum, Lychee Liqueur, Lime Juice, Smoked Lavender Syrup, Angostura Bitters
แก้วนี้มีส่วนผสมของดิโพลมาติโก รีแชร์วา และกลิ่นหอมหวานของผลไม้จากเหล้ากลั่นจากลิ้นจี่, น้ำมะนาว, น้ำเชื่อมกลิ่นลาเวนเดอร์ ตัดกับรสขมของแองกอสติวร่า บิทเท่อร์ พร้อมกับกลิ่นหอมจากควันลาเวนเดอร์ ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายจนอยากจะเอนตัวหลับตาลงพักผ่อนเสียตอนนี้ นับว่าเป็นแก้วสุดท้ายที่เป็นไม้เด็ดเสียจริง
ใครที่รู้สึกคอแห้งและอยากมาสัมผัสรสชาติค็อกเทลและลีลาการเอนเตอร์เทนอันอบอุ่นของสองหนุ่มมิกโซโลจิสต์ด้วยตัวเอง ต้องรีบกันหน่อยเพราะทั้งคู่มาประจำการที่เดอะ ลอง บาร์เพียง 5 วันเท่านั้น อาจไม่เพียงแต่ไม่อยากถอนริมฝีปากออกจากแก้ว สายตาของคุณก็อาจจะไม่อยากละไปจากลีลาการมิกซ์ค็อกเทลของทั้งคู่ได้เช่นกัน
Location: เดอะ ลอง บาร์ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ
Hour: วันที่ 24 – 29 ตุลาคม 2562 เวลา 19.30 – 23.30 น. (5 วันเท่านั้น)
Tel: 02-236-7777 ต่อ 6205/6206
อีเมล: [email protected]