เมื่อลองมานั่งทบทวนเรื่องราวดีๆที่ผ่านมา (เรื่องดีๆที่ว่านี้ก็ไม่พ้นเรื่องอาหารนี่แหละครับ) อาหารจีนก็ทานแล้ว อาหารญี่ปุ่นก็ออกจะบ่อย อิตาเลี่ยนก็เริ่มซ้ำ คนชอบชิมอย่างเราเลยรู้สึกโดนอย่างจัง เมื่อรู้ว่าวันนี้จะมีโอกาสได้ลิ้มลองอาหารที่มีกลิ่นอายเมดิเตอร์เรเนียนอย่างอาหารสเปน และที่สำคัญ ห้องอาหารที่เราจะไปชิมคราวนี้ คือ “อูโน มาส” (Uno Mas) ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นห้องอาหารสเปนที่ดีที่สุดและอร่อยที่สุดในกรุงเทพฯ
แล้วก็ไม่ผิดหวังครับ ชิมแล้วยอมรับอย่างเต็มอกเลยว่า อร่อยมากมายจริงๆ “อูโน มาส” ในภาษาสเปนนั้นแปลว่า “ขออีกหนึ่ง” แหม.. เข้าใจตั้งชื่อซะเหลือเกิน!! เพราะใครก็ตามที่มีโอกาสได้มาเยือนห้องอาหาร อูโน มาส ซักครั้งแล้วละก็.. รับรองมีขอมากกว่าหนึ่งอย่างแน่นอน
เพราะที่นี่คือห้องอาหารสเปนชั้นเลิศ ที่ไม่ใช่แค่บริการอาหารสเปนอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นศิลปะการผสมผสานเอาสูตรอาหารสเปนแท้ๆเข้ากับอาหารนานาชาติ ทำให้รสชาติของอาหารนั้นมีความโดดเด่น จนถูกปากอย่างแรง
ห้องอาหาร “อูโน มาส” ตั้งอยู่บนชั้น 54 ของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ (Centara Grand & Bangkok Convention Centre at CentralWorld) ท่ามกลางวิวเมืองและบรรยากาศอันงดงามของมหานครกรุงเทพฯ นอกเหนือจากคุณภาพของอาหารแล้ว วิวของที่นี่ก็เรียกได้ว่าเป็นสเน่ห์ที่มัดใจจนน่าหลงใหลได้ไม่แพ้กัน
เพราะเราสามารถเชยชมบรรยากาศเส้นขอบฟ้าของเมืองในแบบพาโนรามาไปพร้อมกับรับประทานอาหารรสเลิศในเวลาเดียวกัน จึงไม่แปลกใจเลยที่เราจะเห็นคู่รักหลายคู่พากันมาสวีทที่นี่
• Wine Cellar
พื้นที่ของร้านนั้นถูกแบ่งออกเป็น 3 โซน โซนแรกคือโซนไวน์เซลล่า (Wine Cellar) ที่เราจะเจอในทันทีที่ก้าวเข้ามาในร้าน แต่เดี๋ยวก่อน.. ไวน์ เซลล่า ที่อยู่ตรงหน้าเรานี่มันสูงถึง 8 เมตรเชียวนะ!! ถ้าจะเทียบกับแป้นบาสก็ 3 แป้นเลยทีเดียว โอว..แม่เจ้า..เขาบอกว่าพื้นที่ความจุขนาดนี้สามารถเก็บไวน์ได้มากกว่า 2,000 ขวด และเมื่อเราต้องการไวน์ขวดไหน ไวน์แองเจิ้ล (Wine Angel) ของร้านก็พร้อมจะโบยบินเพื่อไปนำไวน์ขวดนั้นลงมาให้เรา เป็นบริการที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
• Tapas & Raw Bar
เมื่อเดินเข้ามาอีกนิดก็จะเข้าสู่โซนที่สองของห้องอาหารอูโน มาส ซึ่งเป็นโซนทาปาส แอนด์รอว์บาร์ (Tapas & Raw Bar) พอเดินดูรอบๆ ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศความเป็นเมดิเตอร์เรเนียน และดีไซน์ที่มีกลิ่นอายของศิลปะแบบมัวริชอย่างเข้มข้น แทรกอยู่ในทุกซอกทุกมุมของโซนนี้
ลักษณะของโซนทาปาส แอนด์ รอว์บาร์นั้น จะเป็นบาร์แบบเซมิ เอาท์ดอร์ (Semi Outdoor) หรือบาร์กึ่งกลางแจ้ง ที่เรียกแบบนี้ก็เพราะบริเวณหน้าต่างนั้นถูกออกแบบให้มีแค่ครึ่งเดียว ผู้ที่มานั่งทานอาหารที่โซนนี้ จะสัมผัสได้ทั้งอากาศจากภายนอกและแอร์จากด้านในไปพร้อมๆกัน เป็นความรู้สึกที่โปร่งโล่งสบายอย่างบอกไม่ถูก
ส่วนเคาท์เตอร์บาร์ ก็จัดเป็นพื้นที่สำหรับจัดวางวัตถุดิบอาหารทะเลที่สดใหม่จากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และมหาสมุทรแอตแลนติก อาทิ เช่น หอยนางรม ล็อบสเตอร์
• Joselito
ซาลามี่ชั้นเลิศ จากแบรนด์ โจเซลิโต (Joselito) ที่ได้รับรางวัลและจัดว่าเป็นวัตถุดิบมีชื่อเสียงของประเทศสเปน ซึ่งซาลามี่ของโจเซลิโต้นั้น นอกจากจะคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีแล้ว ยังต้องใช้เวลาบ่มนานถึง 3 ปีด้วยกัน กว่าจะสามารถนำออกมารับประทานได้
• Dining Deck
โซนสุดท้ายที่อยู่ด้านในสุดก็คือโซนที่เรียกว่า “ไดน์นิ่ง เด็ค” (Dining Deck) หรือโซนสำหรับรับประทานอาหารแบบจริงจังนั่นเอง สำหรับความพิเศษของโซนนี้คือจะมีที่นั่งตรงที่ระเบียงแบบเปิดทั้งหมด ซึ่งจะให้บรรยากาศสุดโรแมนติก เมื่อรับประทานอาหารในยามค่ำคืน
Chef’s Seasonal Tasting Menu
วันนี้ SOtraveler.com จะมาพร้อมกับเมนูสุดพิเศษของเชฟ เป็นเมนูใหม่ล่าสุด โดยผู้ที่มาทานสามารถเอ็นจอยได้ทั้งแบบฟูลเซ็ท 1,950++ บาท หรือแบบอลาคาร์ทที่เลือกเฉพาะเมนูที่อยากทานก็ได้ เริ่มต้นกันที่เมนูแรก
• UNO MAS OLIVES 300++ บาท
สำหรับซิกเนเจอร์เมนูนี้ขอบอกว่าเป็นไฮไลท์ของเซ็ทนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเชฟนั้นได้ตั้งใจผสมผสานศิลปะและลูกเล่นอย่างปราณีตเข้ากับจานอาหาร จนออกมาเป็นเมนูนี้
ครั้งแรกที่เห็นอาหารจานนี้ ก็แจ่มแจ้งถึงศิลปะที่ล้ำลึก เพราะสิ่งที่ถูกเสิร์ฟอยู่ตรงหน้านั้น มีลักษณะเป็นต้นไม้ที่มีรังนกเล็กๆอยู่ตามกิ่ง อาหารที่เชฟตั้งใจนำเสนอก็คือไข่นกสีน้ำตาลที่วางอยู่บนรังนก อารมณ์จึงออกจะคล้ายๆกับเรากำลังจะได้ทานไข่นก แต่เป็นไข่นกที่ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่ามันคืออะไร? ทำจากอะไร? และมีอะไรอยู่ภายในไข่? พินิจพิเคราะห์อยู่นานทีเดียวกว่าจะหยิบไข่นกเข้าปาก และทันทีที่กัดเข้าไปในไข่ เสียง “ว้าว!!” ในหัวก็ลั่นออกมาอย่างไม่รู้ตัว..ถือว่าเป็นสตาร์ทเตอร์ที่ประทับใจมากๆ
• ENDIVE VELOUTE 600++ บาท
จานที่สองที่เชฟนำเสนอคือซุปทรัฟเฟิล และเทมปุระข้าวโพดอ่อน สำหรับเนื้อซุปนั้นถือเป็นซุปที่มีความคอมเพล็กซ์ (complex) มาก แต่ภายในความซับซ้อนของรสชาตินี้แหละ ที่อัดแน่นไปด้วยความอร่อย หอม มัน และกลมกล่อมมากด้วยเช่นกัน
• KING CRAB 750++ บาท
เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เราชอบมาก ซึ่งก็คือเนื้อปูจักรพรรดิอัดแน่น แต่งกลิ่นอโรม่าและรสชาติด้วยฟักทอง น้ำเต้า และ เลม่อน
ตอนแรกก็แอบกลัวว่าส่วนผสมที่ใช้สำหรับปรุงรสและกลิ่นจะมาแย่งซีนเด่นของเนื้อคิงแครบไป แต่ผลลัพธ์กลับไม่เลย เชฟปรุงออกมาได้ลงตัวมากๆ ใช้กลิ่นหอมและรสเปรี้ยวของเลม่อนเป็นตัวชูวัตถุดิบเนื้อปูออกมาได้ดีสุดๆ
• PALAMOS SQUID 950++ บาท
จานนี้เชฟเป็นคนแนะนำด้วยตัวเอง อยากให้ทุกคนได้ลอง เพราะรสชาติของปลาหมึกที่ถูกปรุงด้วยเลม่อน บัตเตอร์ และเครื่องเทศสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน นั้นพิเศษมากจริงๆ หาทานจากที่อื่นคงยาก ใครที่อยากลองเมนูเซ็ทนี้ ไม่อยากให้พลาด
• VEAL STEAK 1,500++ บาท
สเต็กเนื้อลูกวัวชั้นดีย่างในระดับความสุกแบบปานกลาง ราดด้วยซอสไวน์แดง ทานคู่กับเครื่องเคียงอย่างต้นหอมญี่ปุ่น และหอมใหญ่ ครั้งแรกที่ลงมีดก็สัมผัสได้เลยว่าเนื้อมีความนุ่มมาก แถมยังเข้ากับซอสได้อย่างลงตัวที่สุด
• IMPORTANCE 390++ บาท
ปิดท้ายด้วยขนมหวานสูตรพิเศษจากเชฟ ซึ่งก็คือไอศกรีมเชอร์เบต ทานคู่กับโคโค่นัทครีม (Coconut Cream) แต่งหน้าด้วยซอสส้มยูซุ (Yuzu) และตุอีล หรือขนมเบื้องฝรั่งเศส
สำหรับจานนี้ความรู้สึกแรกที่ได้รับเลยคือ ความสดชื่น ผสมกับความเปรี้ยวนิดๆของเชอร์เบท ยิ่งทานคู่กับครีมโคโค่นัทแล้ว เข้ากันมากๆ ยังแอบเสียดายอยู่เลยที่มัวแต่ถ่ายรูปเพลิน จนไอศกรีมละลายไปนิดหน่อย
ท้ายที่สุดแล้วหากคุณอยากสัมผัสกับอาหารต้นตำรับสเปนที่ดีที่สุด อร่อยที่สุด โดยไม่ต้องบินลัดฟ้าไปถึงแดนกระทิงดุแล้วล่ะก็ Uno Mas ชั้น 54 ของ Central Grand @Central World คือคำตอบของคุณ ณ เวลานี้
ห้องอาหาร UNO MAS
- เวลาทำการ : 16:00-01:00 hrs.
พิกัดและสถานที่ :
999/99 ถนน พระราม 1 เขต ประทุมวัน กรุงเทพมหานคร
ชั้น 54 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์
ช่องทางติดต่อ :
- อีเมล์ : [email protected]
- เบอร์โทรศัพท์ : 02-100-6255