SOtraveler ขอนำเสนอเทศกาลสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมการจิบชายามบ่าย ‘อาฟเตอร์นูน ที’ ในเทศกาล High Tea Jubilee @ Ratchaprasong ซึ่งปีนี้มาในคอนเซปต์ Summer Tea Party กับการนำเสนอจาก 8 Tea Room X 8 สไตล์ ที่แตกต่างกัน ลองมาดูว่า Tea Room ไหน นำเสนออะไร จะได้เลือกไปละมุนกับเสน่ห์แห่งรสนิยมของอารยธรรมการดื่มน้ำชาที่ตรงใจ
ซิกเนเจอร์ทีเซ็ท กับ 8 Luxury Tea Room
1. โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ (The Lobby Lounge, Anantara Siam Bangkok)
- การบรรจบกันของรสชาติที่ลงตัวจาก 2 ซีกโลก
การคัดสรรชาอันดับ 1 ของโลกสัญชาติฝรั่งเศส ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 163 ปีอย่างชา “มาคิยาจ แฟรส์” (MARIAGE FRERES) นำมาปรุงแต่งใหม่ด้วย 3 กลิ่นแสดงถึงเอกลักษณ์ไทย มาพร้อมเรื่องราวการรังสรรค์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ให้เล่าต่อไม่รู้จบ
อาทิ ชาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกคู่บ้านคู่เมืองของสยามที่งดงามที่สุดอย่าง ชา Eléphant Blanc เอลเลฟอง บลองค์ (ช้างเผือก) ให้กลิ่นลาเวนเดอร์และกุหลาบที่ลงตัว มีเสิร์ฟเฉพาะที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ เท่านั้น | ชาเขียวที่ปลูกและเก็บเกี่ยวเพียงครั้งเดียวในหนึ่งปีจากดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ จังหวัดเชียงราย นำมาผสมกับดอกไม้ น้ำผึ้ง ขิง และกลิ่นดอกกุหลาบของฝรั่งเศสย่าง ชา Lune Rouge ลูนรูจ (พระจันทร์สีแดง) | ชาที่ถูกรังสรรค์มาจากความหลงใหลวัดอรุณฯ ในยามค่ำคืนที่เปรียบเสมือนความสว่างไสวที่สวยงามของ ชา Temple De L’aube ตอปล์ เดอ โลบ (วัดอรุณ) โดยนำชาเขียวรสชาติละมุนละไม ผสมกับดอกไม้กลิ่นต่างๆ ของฝรั่งเศส รวมถึงผลไม้ตระกูลซีตัส ที่เหมาะกับการรับประทานในช่วงซัมเมอร์ ได้แก่ เลม่อน ส้ม และผลไม้ป่า ผสานกันอย่างลงตัวจนได้กลิ่น และรสสัมผัสความหอมหวานที่เข้ากันได้อย่างลงตัว โดยชาทั้ง 3 กลิ่นจะถูกเสิร์ฟพร้อมกับเมนูของทานเล่นจากชาติอิตาลีอย่าง Pizzetta หรือพิซซ่าขนาดเล็ก ตามด้วยขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสอย่าง มองบลังค์ (Mont Blanc) และ กาเนอเล่รสราสเบอรี่ (Rasberry Canelé)
พบความลงตัวของชุด Afternoon Tea ที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกและไทยอย่างลงตัวทั้งแบบ Set ในราคา 850 บาท++ เปิดบริการเฉพาะวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 14.00 – 18.00 น. และแบบ Buffet ในราคา 950 บาท ++ ณ เดอะ ล็อบบี้ เลานจ์ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ
2. โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ (Centara Grand at CentralWorld)
- คลายร้อนไปกับการจิบชาพร้อมขนมเลิศรสเกรดพรีเมียม
เมื่อพูดถึง “ฝรั่งเศส” หลายคนคงนึกถึงขนมอบหรือขนมหวานที่ออกจากเตาอบแบบร้อนๆ ที่มีเอกลักษณ์และมีชื่อเสียงทั่วโลกอย่าง มาการอง ครัวซอง หรือ ขนมมิลล์เฟย โดย เชฟธวัช ประทุมพวง พ่อครัวเบเกอรี่และทีมเบเกอรี่ แห่งซิงก์เบเกอรี่
โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ได้นำแรงบันดาลใจนี้มาร่วมสร้างสรรค์ “ชุดน้ำชาสไตล์ฝรั่งเศส” โดยนำเสนอชาเกรดพรีเมียมจากแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง TWG ให้ลิ้มรสถึง 2 สไตล์ เสิร์ฟทั้งร้อนและเย็น รับประทานเคียงคู่กับเมนูคาวหวานที่ล้วนเป็นเมนูยอดนิยมของชาวฝรั่งเศส เริ่มที่ชาดำรสเข้มอบอวลด้วยกลิ่นเบอร์กาม็อต สโมกี้ เอิร์ล เกรย์ แนะนำให้ทานคู่กับ เมนูของคาว ได้แก่ เทอร์รีนตับเป็ด ทูน่าทาร์ทาร์ และ แซลมอนรมควัน ราดซอสซาวร์ครีม ต่อด้วยเมนูของหวาน อาทิ มาการองสูตรเฉพาะ เอแคลร์รสช็อคโกแลต ขนมปารีสเบรสต์สอดไส้ครีมเฮเซลนัท และมิลล์เฟยวานิลลา ที่เชฟได้เลือกสรรให้ทานคู่กับชาแดงกลิ่นหอมสดชื่นอย่าง อิเทอร์นัล ซัมเมอร์ เมนูไฮไลท์ในชุดน้ำชา ที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ มาการองสูตรพิเศษ ขนาดมินิที่มีเนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มในสอดไส้ด้วยครีมหลากหลายรสชาติ
ละมุนลิ้นไปกับรสชาติสไตล์ต้นตำรับใน “ชุดน้ำชาสไตล์ฝรั่งเศส” ราคา 699 บาท ++ สำหรับ 2 ท่าน ที่ซิงก์ เบเกอรี่ ชั้น G โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดบริการเวลา 14.00 – 17.00 น.
3. โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ (Erawan Tea Room)
- จิบมนต์เสน่ห์แห่งฤดูร้อนแบบไทยแท้ กับ “ชุดน้ำชายามบ่าย” จากเอราวัณ ที รูม”
เพราะเชื่อว่าเสน่ห์ความเป็นไทยอย่างไรก็ชนะใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างอยู่หมัด มาครั้งนี้ เชฟ อัจฉรา โตอัสมิ หัวหน้าเชฟประจำห้องอาหาร เอราวัณ ที รูม ผู้มีประสบการณ์การทำงานด้านอาหารมานานกว่า 22 ปี ได้ดึงความเป็นไทยมาผสมผสานกับวัฒนธรรมการจิบชาแบบตะวันตกได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยการเลือกชาสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณคลายร้อนอย่างชาตะไคร้ ชาใบเตย และชาอัญชัน เคียงคู่กับของว่างชาววังอย่างกุ้งห่อสไบ ลูกชิ้นหมูปิ้ง ช่อม่วงไส้ปู ข้าวตังหน้าตั้ง และปีกไก่ทอด ปิดท้ายด้วยของหวานแบบไทยโบราณนานาชนิดที่จัดมาให้เข้ากับฤดูร้อนไทยอย่างแท้จริง อาทิ ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมครก ขนมมันสำประหลังขนมเบื้อง และขนม หม้อแกง
เพลิดเพลินไปกับเสน่ห์แห่งรสชาติความเป็นไทยสไตล์ยุโรปใน “ชุดน้ำชายามบ่าย” ราคาสุทธิ 600 บาท ณ เอราวัณ ที รูม ชั้น 2 ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก ติดกับโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ
4. โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ (Intercontinental Bangkok)
- เติมความสดชื่นด้วยชามินต์และชาผลไม้ ความสมบูรณ์แบบช่วงฤดูร้อน
ราชอาณาจักรโมร็อกโก ดินแดนที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังแห่งอารยธรรมอาหรับที่หลายคนคงอยากไปเยี่ยมเยือนเพื่อสัมผัสความงามของบ้านเมืองและวัฒนธรรมต่างๆ โดย “ชุดน้ำชาสไตล์โมร็อกโก” นี้ เชฟไซฟุล ฮุดะ (Chef Saiful Huda) หัวหน้า พ่อครัวเบเกอรี่ จากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ได้นำเสนอภายใต้ธีม Ester Afternoon High Tea เพื่อต้อนรับเทศกาลอีสเตอร์ที่กำลังจะมาถึงในช่วงซัมเมอร์ ทั้งนี้ ได้นำวิถีชีวิตของชาวโมร็อกโกที่ชื่นชอบการดื่มชามินต์ มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ชุดไฮทียามบ่าย โดยคัดสรรชาเบลนด์พิเศษ ได้แก่ ชา 2 ชนิดที่ได้รับความนิยม อาทิ Moroccan Tea ที่มีความหอมของมิ้นท์ ดื่มแล้วชุ่มคอ ชาตัวที่ 2 คือ Grand Wedding Tea ที่เป็นชาผสมเมล็ดทานตะวันกลิ่นผลไม้รวมที่มีกลิ่นหอมหวานของผลไม้ เสิร์ฟคู่อาหารคาวหวานภายในชุด Signature Baked Marble Cheese Cake, Belgium Chocolate Truffle, Blue Berry Scone
ร่วมสัมผัสวัฒนธรรมการจิบชาวของชาวโมร็อกโกแบบดั้งเดิมได้ใน “ชุดน้ำชาสไตล์โมร็อกโก” ราคา 550 บาท++ สำหรับ 1 ท่าน และ 850 บาท++ สำหรับ 2 ท่าน ณ บัลโคนี่ เลานจ์ ชั้นล็อบบี้ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ
5. โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ (Renaissance Bangkok Ratchaprasong Hotel)
- ผสมผสานรสชาติสไตล์ซัมเมอร์ สู่ศิลปะการจิบชาเพื่อสุขภาพ
เมนูที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ลงตัวกับช่วงเวลาซัมเมอร์ของปีได้อย่างลงตัวที่สุด กับ ชา กลิ่นกุหลาบและวนิลาของฝรั่งเศส ให้รสชาติหอมละมุน โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆของกุหลาบ เสิร์ฟคู่กับของว่างอย่างแซลมอนรมควัน แซนด์วิชไส้ปูอัดในช่วงซัมเมอร์ และ ขนมปังขนมปังโฮลวีทหน้าอกเป็ดบด เสิร์ฟพร้อมกับขนมหวานเพื่อสุขภาพอย่างช็อกโกแลตทรัฟเฟิล ที่ทำจากดาร์กซ็อกโกแลตแท้ที่ทานแล้วไม่อ้วน อีกทั้งยังช่วยปลุกให้หายง่วงยามบ่าย และปิดท้ายด้วยขนมที่เหมาะกับหน้าร้อนอย่างมูสมะม่วงที่รับรองว่าทานแล้วจะหายร้อนอย่างแน่นอน
ลิ้มลองรสชาติ “อาร์บาร์ อาฟเตอร์นูน ที เชต” ในราคา 750 บาท++ สำหรับ 2 ท่าน ณ อาร์บาร์ ชั้น 1 โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ เวลา 14.00 – 17.00 น.
6. โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ (The St. Regis Bangkok)
- ถอดรหัสนิยามแห่งการดื่มชาตามตำนานแห่งเซนต์ รีจิส
ร่วมสัมผัสนิยามแห่งการบริการที่หรูหราเหนือระดับครั้งใหม่ของชุดน้ำชายามบ่าย ณ เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง โดยการจิบชายามบ่ายจะถือเป็นการคงไว้ซึ่งประเพณีอันสง่างามของตระกูลแอสเตอร์ ซึ่งแขกสามารถเพลิดเพลินกับชาหลากหลายรสชาติในบรรยากาศแสนสบายดื่มด่ำกับทัศนียภาพของกรุงเทพฯ พร้อมเพลิดเพลินกับการจิบชา ณ ระเบียงด้านนอกของสกาย เลานจ์ โดยครั้งนี้ เดอะ เซนต์ รีจิส นำเสนอนำเสนอชารสชาติเยี่ยมหลากหลายชนิดจาก TWG อาทิ 1837 Black, Vanilla Bourbon, Silver Moon รวมทั้งเมนูคาวและหวานที่มีให้เลือก 2 สไตล์ทั้งตะวันตกและไทย อาทิ เมี่ยงคำ กระทงทองทูน่า ช่อม่วงไส้ปลา อีกทั้งเมนูอาหารตามแบบฉบับการจิบชาน้ำชายามบ่ายของผู้ดีตะวันตก อาทิ สโคนต้นตำรับ แทรกด้วยลูกเกด มาพร้อมครีมเนื้อหนา และแยมผลเบอรี่ ตบท้ายยามบ่ายของวันด้วยของหวานอย่างขนมชั้น ขนมสอดไส้ มูสช็อกโกแลต และทาร์มะม่วง
ร่วมสืบสานประเพณีอันเก่าแก่ดั้งเดิมกับการจิบน้ำชายามบ่าย สะท้อนความหรูหราผ่านกาลเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ ณ เดอะ เซนต์ รีจิส นิวยอร์ก ถ่ายทอดสู่โรงแรมเซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ในราคา 1,500 บาท++ สำหรับ 2 ท่าน
7. 1823 ทีเลานจ์ บาย รอนเนอเฟลด์ (1823 Tea Lounge by Ronnefeldt)
- เฮลโหลซัมเมอร์ ตื่นเต้นกับสุนทรีย์แห่งชากับ “1823 ที เลานจ์ บาย รอนเนอเฟลด์”
สัมผัสสุนทรียรสแห่งชาชั้นสูงจากทวีปยุโรป กับที่สุดแห่งทีเลานจ์สุดหรูแห่งแรกและแห่งเดียวของโลกโดย “รอนเนอเฟลด์” ณ เกษร วิลเลจ กับทีเซตรับซัมเมอร์ที่รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ “Voilà l’Été!”(วัวลา เล็ตเต้) โดดเด่นด้วยของคาวรสเลิศเริ่มจากโครเก็ต เนื้อปูคุณภาพดีแสนอร่อยคลุกเคล้าด้วยซอสแอปเปิลแคปซิคั่มและคาร์เวียร์ แซนวิช แตงกวาครีมชีสเพสโต สตรอเบอรี่กาสปาโชกุ้ง ตามด้วยแซลมอนรมควัน ผสานซอสสูตรพิเศษออนท๊อปด้วยสาหร่ายคมบุและคาร์เวียร์ และในส่วนของหวานรังสรรค์ สโคนเสิรฟ พร้อมแยมสตรอเบอรี่และค๊อตครีมสูตรต้นตำรับ เยลลี่ผลไม้ชุ่มฉ่ำ เวอร์รีนข้าวเหนียวมะม่วง พุดดิ้งมะพร้าว และมะม่วงสดออนท๊อปด้วยโฟมจากชาจัสมินเพิร์ลเสริฟในถ้วยแก้วสุดเก๋ ซอลท์คาราเมลครีมพัฟเยลลี่แพชชั่นฟรุตส์สูตรพิเศษ และปิดท้ายด้วยซัมเมอร์ มาการองหอมหวานสูตรซิกเนเจอร์
สัมผัสสุนทรียรสแห่งชาชั้นสูงจากทวีปยุโรป กับ “Voilà l’Été!”(วัวลา เล็ตเต้) ในราคาเซตละ 1,370++ บาท สำหรับ 2 ท่าน ได้แล้ววันนี้ ณ 1823 Tea Lounge by Ronnefeldt (1823 ทีเลานจ์ บาย รอนเนอเฟลด์) ชั้น 1 ศูนย์การค้าเกษร
8. ทไวนิงส์ ที บูทีค (Twinings Tea Boutique)
- ละเลียดจิบชาจากประเทศจีน แบบต้นตำรับผู้ดีอังกฤษ
ครั้งแรกของ Afternoon tea set ที่จับคู่มาพร้อมกับ Iced tea สุดสดชื่นต้อนรับซัมเมอร์กับ 2 เบลนด์พิเศษ จาก ทไวนิงส์ Berry Blush summer delight และ Blue paradise iced tea รวมทั้งชาเบลนด์พิเศษ ที่ผสมผสานระหว่างรสชาติของผลไม้ และสมุนไพรอย่างลงตัว โดยนำเสนอ 2 รสชาติได้แก่ Exotic Mango & Ginger green tea การผสมผสานความรู้และความเชี่ยวชาญในเรื่องของชาสมุนไพรของทไวนิงส์ ที มาสเตอร์ ที่นำใบอ่อนชาเขียวคุณภาพดีจากมณฑลที่ผลิตชาเขียว ได้ดีของประเทศจีน นำมานึ่งเพียงเล็กน้อยเพื่อคงความหอมของใบชา จากนั้นจึงผสมกับมะม่วงและขิงอ่อน เมื่อนำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมตามสูตรลับของ ทไวนิงส์จะได้ชาเขียวรสนุ่นที่มีความหอมหวานของมะม่วงและความชุ่มคอของขิง และ Berry Blush เครื่องดื่มสมุนไพรที่ปราศจากคาเฟอีน จากความเชี่ยวชาญของผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ของสมุนไพรที่ทำงานให้กับทไวนิงส์มากกว่า 23 ปี นำความหอมหวานซ่อนเปรี้ยวของบลูเบอรี่ ราสเบอรี่ และแบล็คเคอเร้นท์ มาผสมกับดอกไม้ชนิดต่างๆ ใส่น้ำผึ้งเล็กน้อยก็จะยิ่งทำให้รสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น หรือจะนำมาประยุกต์เป็นเครื่องดื่มเย็น ก็ให้ความสดชื่นไม่น้อย พร้อมนำเสนอเมนูขนมหวานเสริ์ฟพร้อมกับชาสมุนไพร อาทิ มินิ ราสเบอรี่ ชีสเค้ก (Mini Raspberry cheese cake) มูสโยเกิร์ตส้ม (Orange Yoghurt Mousse) และ มูสสตรอเบอรี่ (Strawberry Mousse) ให้ซัมเมอร์นี้ได้ดื่มด่ำไปกับชาสมุนไพรดับร้อนได้อย่างปลิดทิ้ง
อบอวลกลิ่นอายความเป็นต้นตำรับวัฒนธรรมการดื่มชาพร้อม เชทโปรโมชั่นพิเศษ Summer Afternoon Tea Set เสริฟคู่ชาเย็น 2 แก้ว จาก 1,589 บาท